หากพูดถึง ริคาร์โด้ กาก้า ก็ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเทพบุตรลูกหนังในวงการ แต่ที่พิเศษสุดๆ เลยก็คือเรื่องความมากพรสวรรค์และทักษะที่เหลือรับประทานรอบด้าน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ชายคนนี้จะได้รับการยกย่องว่ายุคหนึ่งคือนักเตะที่ดีที่สุดในโลก
แทบจะเรียกผู้ชายคนนี้ว่าเป็น “พระเจ้า” เลยก็ว่าได้เพราะในยุคสมัยที่อยู่กับ เอซี มิลาน ช่วงปี 2003-2009 นี่คือของจริงและได้รับคำยกย่องจากคนทั้งโลกโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ นี่คือนักเตะคนสุดท้ายที่ได้รางวัล บัลลงดอร์ ก่อนจะเข้าสู่ยุค คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่
แต่มันน่าจะมึอยู่แค่เพียงเรื่องเดียวหลักๆ ที่เป็นจุดด่างพร้อยในยุคเส้นทางค้าแข้งของ ริคคาร์โด้ กาก้า นั่นก็คือช่วงชีวิตที่ เรอัล มาดริด
หลายๆ คนน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าการย้ายไป เรอัล มาดริด ในปี 2009 คือจุดที่ทำให้ชีวิตของ กาก้า เปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ลง ทั้งเรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บ ทั้งเรื่องงัดฟอร์มการเล่น ได้โอกาสที่จำกัด และโดนเปรียบเทียบกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ระเบิดฟอร์มได้ดีกว่าเขาแบบขาดลอยทั้งที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดระดับท็อปในยุคนัันพอๆ กัน
“ปี 2009 ผมตอบรับข้อเสนอจาก เรอัล มาดริด แต่หลังจากย้ายทีมไป ชีวิตของผมถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี เพราะผมไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งเหมือนตอนอยู่กับ มิลานได้เลย”
“ผมไม่เหลืออะไรเลยในตอนนั้น ที่ อิตาลีทุกคนรักผม แต่ใน สเปน ทุกคนต้องการให้ผมย้ายออก ยิ่งกว่านั้น โชเซ่ มูรินโญ่ ยังเป็นโค้ชที่ยากต่อการร่วมงานด้วย ผมคิดว่าเขาอาจจะมอบโอกาสให้กับผม แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย”
“ผมไม่ได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองจากเขา ผมฝึกซ้อมอย่างหนัก มุ่งมั่นต่อสู้ และถาวนา แต่เมื่อไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากโค้ช ผมจึงตระหนักว่าคงทำงานกับเขาไม่ได้แล้วล่ะ”
“ผมมีความสุขมากตอนย้ายออกจาก เรอัล มาดริด และกลับไป เอซี มิลาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจาก มูรินโญ่ พูดว่า ผมคือหนึ่งในนักเตะที่มีความเป็นมืออาชีพที่สุดที่ผมเคยร่วมงานด้วย”
ในที่สุด ริคคาร์โด้ กาก้า ก็ได้กลับมาใช้ชีวิตกับ เอซี มิลาน อีกครั้งในปี 2013 และก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการลงเล่นไป 61 นัด ยิง 12 ประตู ทำ 11 แอสซิสต์ ในวัย 32 ปี โอกาสอย่างต่อเนื่องและสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มและความสุข
ถ้าพูดถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นอกจากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว การให้โอกาสดาวรุ่งก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำมาตลอด แล้วก็มีดาวรุ่งหลายต่อหลายคนที่ก้าวขึ้นประดับวงการ เอาแค่กลุ่ม Class of '92 นี่ก็ระดับตำนานทุกคน แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าไม่ใช่ดาวรุ่งทุกคนที่ได้โอกาสและประสบความสำเร็จ หนึ่งในนั้นคือ มาร์นิค เวอร์ไมล์ ดาวรุ่งชาวเบลเยี่ยมที่ได้โอกาสครั้งแรก…
“ทุกวันนี้เรารู้สึกว่านักฟุตบอลเป็นแค่ขยะที่เลวร้ายที่สุดในโบลิเวีย” นักเตะคนหนึ่งในลีกโบลิเวียกล่าว อเมริกาใต้เป็นทวีปที่เต็มไปด้วยทีมชาติระดับคุณภาพ ที่ทำให้แม้สมาชิกเพียงแค่ 10 ทีม แต่กลับได้รับโควตาในฟุตบอลโลก 2026 มากถึง 6 ทีมครึ่ง แต่ถึงอย่างนั้น เบื้องหลังความยอดเยี่ยมเหล่านี้ หลายชาติก็เต็มไปด้วยปัญหา หนึ่งในนั้นคือ…
“ชีสรูม” ตำนานที่ไม่เคยมีจริงของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ถ้าพูดถึงสนามฟุตบอลในอังกฤษ ความขลัง ความยิ่งใหญ่ อาจจะยังเป็นเรื่องแมนยู ลิเวอร์พูล เชลซี อาร์เซนอล แต่ถ้าพูดถึงความทันสมัยไม่มีทีมไหนดีไปกว่า ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สสเตเดี้ยม สนามของสเปอร์สนั้นเป็นสนามที่ได้รับการยอมรับมากในปัจจุบันว่าทันสมัย มีทุกอย่างครบมากที่สุดในอังกฤษ…
รีซ เจมส์ แบ็กขวากัปตันทีมเชลซี ได้รับบาดเจ็บที่แฮมสตริงเป็นครั้งที่ 9 ในรอบ 5 ปี หลังจากบาดเจ็บซ้ำที่บริเวณดังกล่าวระหว่างการซ้อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากการยืนยันของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ซึ่งเผยว่าดาวเตะวัย 24 ปีจะพลาดลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่จะบุกเยือน…
ครั้งหนึ่งเขาคือแข้งดาวรุ่ง ที่ถูกเปรียบกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ดาวเตะระดับตำนานของโปรตุเกส อย่างไรก็ดี ตอนนี้ คาอัสโซ ดาราเม นี้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อเขาเปลี่ยนสถานะตัวเอง จากนักเตะพรีเมียร์ลีก มาเป็นอาชญากรค้ายา และเพิ่งถูกจำคุกจากคดีแทงคน เกิดอะไรกับชีวิตของเด็กหนุ่มรายนี้…
ความประทับใจตอนซ้อม : ทำไมแข้งแมนยูพร้อมใจเรียก “อโมริม” ว่ามูรินโญ 2.0? เรียกว่ายิ่งนานวัน รูเบน อโมริม ยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆรอติดตาม หลังล่าสุด Sun Sport รายงานว่านักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่างรู้สึกทึ่งและประทับใจกับการซ้อมของ…