ปัญหารักสามเศร้า ! ที่ทำให้ยุคทอง ฝรั่งเศส ปี 80 เกือบพังทลาย

ทีมชาติฝรั่งเศ ยุคปัจจุบันก็ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองเหมือนกันเพราะมีแข้งซูเปอร์สตาร์อยู่เต็มทีม พวกเขาคว้าแชมป์โลกได้เมื่อปี 2018 ผ่านเข้าถึงรอบชิงฯ อีกครั้งในปี 2022 และเป็นตัวเต็งแชมป์ในทุกๆ ทัวร์นาเมนต์เช่นเดียวกับ ยูโร 2024 หนนี้

ถ้าหากย้อนกลับไปในช่วงยุค 80 นั่นก็คือเป็นยุคทองเหมือนกัน ปี 1984 พวกเขาได้แชมป์ ยูโร ครั้งแรกบนหน้าประวัติศาสตร์ และคว้าอันดับ 4 กับ 3 ในฟุตบอลโลกปี 1982 และ 1986 แต่ในยุคนั้นก็มีเรื่องที่ทำให้ทีมเกือบพังทลายเช่นกันจากประเด็นรักสามเศร้าของ 2 สตาร์ดัง มิเชล พลาตินี่ และ ฌอง ฟร็องซัวส์ ลาริออส

ย้อนกลับไปในยุคนั้นสโมสรอย่าง แซงต์-เอเตียนน์ ได้ชื่อว่าเป็นเบอร์ 1 ของฝรั่งเศส และโดดเด่นในเวทียุโรป ถึงแม้ไม่เคยได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์แต่ที่นั่น ณ ตอนนั้นเต็มไปด้วยเหล่าสตาร์ดัง หนึ่งในนั้นก็คือ มิเชล พลาตินี่ ที่คว้ารางวัล บัลลงดอร์ได้ ทั้งปี 1983, 1984 และ 1985

และในยุคนั้นคนที่เป็นคู่หูดูโอ้ของเขาในแผงกองกลางทั้งที่ แซงต์-เอเตียนน์ และ ทีมชาติฝรั่งเศส ก็คือ ฌอง ฟร็องซัวส์ ลาริออส ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแข้งมากพรสวรรค์ในเจเนเรชั่นนั้น และได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของ ฝรั่งเศส ในยุค 80 แต่เขาไม่ได้โอกาสเล่นให้ ฝรั่งเศส อีกเลยเมื่ออายุเกิน 26 ปี

พลาตินี่ กับ ลาริออส เป็นเพื่อนซี้กัน และก็เข้าขากันมากๆ ในการประจำการในแผงกองกลางทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ แต่จากนั้นมันก็มีข่าวลือที่ผุดออกมาระหว่าง ลาริออส กับ คริสเตลล์ ภรรยาของ มิเชล พลาตินี่ ซึ่งแต่งงานกันในปี 1977

โดย ฌอง ฟร็องซัวส์ ลาริออส เคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวในอัตชีวประวัติในชื่อ I Played With Fire เมื่อปี 2017

“นี่คือเรื่องราวของ อดัม และ อีฟ มันเป็นรักแรกพบ เป็นเรื่องราวของความรักที่แท้จริง เราคิดว่ามันถูกเป็นความลับที่ถูกซุกซ่อนไว้อย่างดี แต่น่าเสียดายที่มันมีข่าวลือออกมา”

“กับ มิเชล พลาตินี่ จากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ไม่มีแม้แต่คำทักทาย แต่เราก็ยังเล่นด้วยกันเหมือนเดิมต่อไปเมื่อเรายังมีสัญญาอยู่กับทีม”

“เราอยู่ในใจกลางของการชิงแชมป์โดยศึก ฟุตบอลโลก กำลังจะมาถึงในเดือนมกราคมปี 1982 ผมได้ไปเจอกับโค้ช มิเชล ฮิดัลโก้ เพื่อเล่าสถานการณ์นี้ให้เขาฟัง ผมบอกเขาไปสำหรับเรื่องที่จะเป็นประโยชน์กับทีม ผมจะแกล้งทำเป็นว่ามีอาการบาดเจ็บและจะไม่ได้ไปเล่น ฟุตบอลโลก แต่เขาปฏิเสธ”

“แต่ผมได้กลายเป็นไพ่ใบที่ 3 ซึ่ง มิเชล พลาตินี่ เป็นคนที่ตัดสินใจว่าใครจะได้เล่นให้ ทีมชาติฝรั่งเศส ผมรู้ว่ามันเป็นความรับผิดชอบของผม แน่นอนว่ามันจะแตกต่างออกไปถ้าเกิดเขาเป็นแค่นักเตะทั่วๆ ไป”

“มันเคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว ผู้หญิงที่จากไปกับสามีของเธอซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ท้ายที่สุดแล้วเธอก็บอกลาผมผ่านทางโทรศัพท์ เธอเลือกที่จะไม่อยู่กับผม และผมต้องทำใจยอมรับมัน”

“ผมได้เจอกับ พลาตินี่ อีกครั้งในปี 2001 ที่ชายหาดใน มอริเชียส ผมกำลังวิ่งจ็อกกิ้งและเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ เขาเห็นผมแต่เราก็ไม่ได้คุยกัน”