FITSPO ประจำสัปดาห์: ‘เมเม่ - จุฑาภัส จำปาวัน’ อดีต เกิร์ล กรุ๊ป ผู้คลั่งไคล้การวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ

‘เมเม่ - จุฑาภัส จำปาวัน’ อดีต เกิร์ล กรุ๊ป ผู้คลั่งไคล้การวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ
FITSPO | February 25, 2024

‘Fitspo’ เป็นโปรเจ็คท์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อสร้างแรงบัลดาลใจในเรื่องของ ‘การออกกำลังกาย’ ให้กับบุคคลทุกเพศทุกวัย ให้รู้สึกถึงแรงกระตุ้นภายในในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ผ่านกิจกรรมการออกกำลังกายทุกประเภท 

โดยมีอินฟูลเอนเซอร์หรือบุคคลสาธารณะ ที่สามารถสร้างอิทธิพลทางแนวคิด มาเล่าถึงเบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันที่มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ การออกกำลังกาย ปะปนอยู่จนเป็นกิจวัตรประจำวันหรือสัปดาห์ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีแนวคิดที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป

บทความแรกของเราพร้อมเปิดตัวด้วยสาวสวย ลุคร้อนแรง ที่ภายนอกอาจดูเหมือนจะดุดันหรือเซ็กซี่อย่าง ‘เมเม่-จุฑาภัส จำปาวัน’ อดีตเจ้าของรางวัล นางงามสุขภาพดี จากเวที Miss Tourism Thailand และ ทูตการท่องเที่ยวของจังหวัด ลำปาง ที่เป็นบ้านเกิดของเธอ 

การผันตัวเข้าสู่วงการ ‘นักวิ่ง’ มีผลกระทบต่อชีวิตของเธอให้เปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน? มารู้จักสาวน้อยผมแดงรายนี้กันให้มากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษนี้กันได้เลย

เริ่มจากคําถามง่ายๆ ก่อนเลยแล้วกันแนะนําให้ตัวเองให้แฟนๆ Fitspo รู้จักหน่อยว่า เมเม่ เคยทำอะไรมาบ้าง? ในวงการต่างๆ

Meimei._.JJ : สวัสดีค่ะ…ชื่อ เมเม่ นะคะ นางสาว จุฑาภัส จำปาวัน ปัจจุบันอายุ 27 ปี เข้าวงการวิ่งออกกําลังกายเนี่ยมาได้ประมาณ 3 ถึง 4 ปี ค่ะก็จะมีช่วงนึงที่โหมการวิ่งหนักมากเหมือนกับว่า “เสพติดการวิ่งหนักมาก” แล้วก็จะมีช่วงที่พักไปในช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก แล้วก็เพิ่งกลับมากลับมาในวงการวิ่งใหม่อีกครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้เคยได้รับฉายาว่าเป็น “นางฟ้านางวิ่ง” ด้วย พร้อมทั้งเป็นไอดอลนักวิ่ง มีโอกาสได้เป็นไอดอลวงกิร์ลกรุ๊ปวงหนึ่งมาด้วยค่ะ แต่ตอนนี้หมดสัญญากับต้นสังกัดไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

กดดันไหมกับโปรเจ็คท์ Fitspo นี้ที่เราถูกเลือกมาเปิดหัวเป็นคนแรก?

Meimei._.JJ : โอ้ย…ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่า หนูจะคนแรกของโปรเจ็คทืนี้ ก็รู้สึกดีใจค่ะ แล้วก็รู้สึกเป็นเกียรติมากจริงๆ ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ก่อนเลยนะคะ ที่มองเห็นในศักยภาพของ เมเม่ เห็นว่าเรามีการฝึกซ้อมหรือว่าเราจริงจังกับการออกกําลังกายมากแค่ไหน? ขอบคุณมากๆค่ะ

ย้อนกลับไปในวัยเด็ก ‘นางฟ้านักวิ่ง’ ของเรา เป็นคนชอบออกกำลังกายมาก่อนรึเปล่า?

Meimei._.JJ : จริงๆ เมเม่ เป็นคนที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ชอบออกกําลังกายเลย แต่ว่ามันมีช่วงนึงที่ตอนอยู่มหาลัยรู้สึกว่าร่างกายเรามันไม่ค่อยเฟิร์ม เวลาใส่หรือว่าแต่งตัวอะไร ร่างกายหรือหุ่นของเรา มันรู้สึกแบบไม่กระชับอ ก็เลยเริ่มหาวิธีที่จะออกกําลังกายโดยเริ่มจากการวิ่งก่อนเพราะรู้สึกว่ามันเป็นการออกกําลังกายที่ง่าย แล้วก็น่าจะได้แบบผลลัพธ์ที่ดี คือ แบบเราต้องการที่จะเบิร์นไขมันก่อนเป็นอันดับแรก ก็เริ่มจากตอนนั้นมา แล้วก็มีโอกาสเข้าร่วมงานที่มันเป็นงานวิ่งงานวิ่งหนึ่งในจังหวัดลําปาง บ้านเกิดของเรา ที่มีชื่อว่า ลำปางฮาล์ฟ มาราธอน เป็นงานวิ่งงานแรกที่มี เมเม่ ลงไปแล้วพอหลังจากที่เราได้ลงงานวิ่งเนี่ย รู้สึกว่า…เฮ้ย! มันมเป็นบรรยากาศที่มันไม่ได้ได้ประโยชน์แค่สุขภาพแล้ว มันได้สังคมมันได้นั่นได้นี่ มันได้ความสุข มันได้ปลดปล่อย รู้สึกว่าตัวเรามีสมาธิจดจ่อมากขึ้น ก็เลยชอบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเลย

ลงแข่งงานแรกนี่คือ ฮาล์ฟ มาราธอนเลยหรอ?

Meimei._.JJ : หนูลง 10 กิโลค่ะ แต่ว่าชื่องานมันเป็นฮาฟมันมี 10 20 แล้วก็ไปมาราธอนเลย

แล้วตอนเด็กมีพื้นฐานชอบเล่นกีฬามาก่อนบ้างไหม?

Meimei._.JJ : ไม่มีเลยค่ะ เมเม่ เป็นคนที่ไม่ออกกําลังกายเลย แต่เป็นคนชอบเต้นนะ ชอบเต้น ชอบร้องเพลง ซะมากกว่า

กีฬาอื่นๆ ที่เคยเล่นนอกจากวิ่งมีบ้างไหม?

Meimei._.JJ : ก็มีแบตมินตันค่ะที่ชอบ แล้วก็มี แชร์บอล ที่โยนบอลลงตะกร้า ก็คือเล่นประมาณนั้นตอนอยู่โรงเรียนอะไรอย่างเงี้ย เล่นแบบเด็กๆ ทั่วไป 

ถ้างั้นการ ‘วิ่ง’ ของเรา คือ กีฬาที่เล่นอย่างจริงจังมากที่สุด งั้นตัว เมเม่ มองว่าอาชีพตัวเอง คือ ‘นักวิ่ง’ ตามคำจำกัดความในสื่อ Social Media ของตัวเองที่ลงไว้เลยหรือเปล่า?

Meimei._.JJ : ไม่ค่ะ…หนูมองว่า การวิ่งของหนู ถือว่าเป็น งานอดิเรก ถือว่าเป็นสิ่งที่เราชอบมากกว่า ถ้ามองในเรื่องของงานหนู หนูก็ยังมองว่าตัวเองยังคงเป็นแบบ อินฟลูเอนเซอร์ หรือเป็น อาร์ตติส เพราะหนูเคยอยู่ เกิร์ลกรุ๊ป เป็นไอดอลมาก่อน

เคยเจอประสบการณ์ที่เราไปร่วมงานวิ่ง แล้วมีกระแสมองว่า เราไม่ได้จริงจังอะไรหรอก? ก็แค่คนสวยมาวิ่งเรียกกระแส เหมือนแบบคนมองเราจากภายนอกมากกว่า? แล้วมีวิธีจัดการกับสถานการณ์นั้นยังไง?

Meimei._.JJ : จริงๆของ เมเม่ บอกตรงๆ เลยว่า ตอนเข้า วงการวิ่ง เนี่ย คือ ไม่เคยเจอคนมองประมาณนี้เลย หรือมองเราด้านลบเลย เพราะว่า เราทําโปรไฟล์เรามาดีมากๆ โดยการที่เราซ้อมให้คนเห็น แล้วเราก็วิ่งได้ระยะเวลาที่ดีมากๆ จริงๆ คนเค้าก็เลยมองกันว่า เรียกกันว่า “ขาแรง” มันจะมีกลุ่มนะที่แบบว่ามาวิ่งเพื่อกระแสอยู่บ้าง แต่ว่าพอเราสร้างโปรไฟล์ของเรามาดี เราทําให้ทุกคนเห็นว่าตั้งใจจริงๆ เขาก็มองว่าเราจริงจังกับการวิ่ง

ประเภทของการวิ่งที่ที่ชอบสุดคืออะไร?

Meimei._.JJ : หนูชอบเทรลค่ะ ชอบวิ่งเทรลมากๆ เลย  หนูชอบกีฬาสายแอดเวนเจอร์ เอาจริงๆ เริ่มวิ่งจากการวิ่งถนน วิ่งโร้ดมาก่อน พอเราวิ่งแบบนั้นแล้วเรารู้สึกว่ามันเป็นการวิ่งที่เริ่มเบื่อ และ วิ่งมาจนแบบรู้สึกตัวเองว่าเบื่อมาก ซ้าย-ขวา ก็เป็นถนน เป็นขยะ เป็นบางอย่างที่ดูขัดหูขัดตา จนวันนึงหนูไปกับทีมหนูก็จะมีทีมวิ่งสมัยนั้น ชื่อว่า รันเวย์ เป็นทีมรุ่นพี่ที่แบบว่าแต่ละคนเนี่ยเก่งกันมากเลย มีโปรไฟล์แต่ละอย่าง แล้วก็มารวมกันสร้างทีมขึ้นมา ทีนี้หนูได้ไปร่วมวิ่งเทรลกับทีม รู้สึกว่าเฮ้ย!!! บรรยากาศมันเปลี่ยนไปจากถนนมากเลยนะมันเป็นการวิ่งที่มี ป่า ภูเขา เสียงนกเสียงกา มีงู มีอะไรที่แบบแอดเวนเจอร์มากๆ มีเปื้อนดินลงโคลนอย่างเงี้ยเลยรู้สึกว่า มันสนุก มันท้าทาย หนูชอบความท้าทายตรงนี้มากเลยเสพติดการวิ่งเทรลตั้งแต่นั้นมา

รางวัลหรือโมเม้นต์ที่ประทับใจที่สุด ตั้งแต่เริ่มหันมาวิ่งแบบจริงจังคืออะไร?

Meimei._.JJ : รางวัลจริงๆ ชอบ รางวัลหนึ่ง ที่ไปวิ่งดอยอินทนนท์ ตอนนั้น เมเม่ ได้รับรางวัลอันดับ 5 โอเวอร์ออลประเภทหญิง รู้สึกดีใจมากๆ เพราะมันเป็นงานวิ่งเทรลแรกๆ เรียกว่าเป็นสนาม ยูทีเอ็มบี ที่ได้รับรางวัลระดับโลกเลยรู้สึกภูมิใจมากๆ ที่เราคว้ารางวัลกลับมาได้

การเป็นอินฟูสาย Healthy คิดว่าการรับงานมันยากกว่าสายอื่นๆไหม? เพราะว่าลูกค้าที่วิ่งมาหาเราจะอยู่ในวงจำกัดและเฉพาะทาง

Meimei._.JJ : หนูมองว่าจริงๆ มันก็เฉพาะทางจริงๆ แหละ เพราะว่ามันเป็นสปอร์ต แต่ถ้าแนวทางการนำเสนอไอเดียของผลิตภัณฑ์ให้เชื่อมโยงกับคำว่า Healthy หรือ ไลฟ์สไตล์ เราก็ทําได้ อย่างเช่นเครื่องสําอางหรือเสื้อผ้า นอกจากที่แบบใส่ชุดสปอร์ตแล้วมันมีเสื้อผ้าสายอื่นส่งมาให้เรารีวิวด้วย เพราะว่าในเรื่องของบอดี้ของเราเนี่ยมันทําให้เสื้อผ้ามันดูฃสวย ดูโดดเด่นขึ้นได้ หนูมองว่ามันก็เป็นการนำเสนอไอเดียในอีกรูปแบบหนึ่งที่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับการครีเอทไอเดียของเรา 

คำตอบก่อนหน้านี้มีพูดถึงเรื่องของ บอดี้ หรือ รูปร่าง งั้นถ้าขอให้เจาะจงอวัยวะในร่างกายของตัวเองที่ชอบที่สุดของเราคือส่วนไหน?

Meimei._.JJ : เมเม่ ชอบช่วงโพกของตัวเองเพราะว่ามันเป็นส่วนที่ทําให้รู้สึกว่าแบบ เรามีอยู่แล้ว ไม่ต้องต้องออกกําลังกายมากแม่ให้มา บางคนก็เล่นแทบตายกว่าจะขึ้น แล้วก็หน้าท้องตัวเอง อันนี้ชอบมากเป็นส่วนที่เราทํางานหนักเพื่อที่จะได้สิ่งนี้มา อันนี้คืออันนี้สองอย่างที่เปรียบเทียบนึกออกมั้ยคือช่วงสะโพกเนี่ยมันเหมือนกับการได้รับมาจากพันธุกรรม กับหน้าท้องคือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเองด้วยความพยายาม ความทุ่มเท อย่างเต็มที่ในการออกกำลังกาย

คิดยังไงกับบางคนที่ยังมีมุมมองว่าการจ่ายเงินไปเพื่อวิ่งไม่เห็นจะมีอะไรคุ้มเลยเหมือนจ่ายเงินไปเหนื่อยเปล่า?

Meimei._.JJ : จริงๆ แล้วไม่รู้ว่าเขามองแบบนี้ยังไงนะ…แต่การที่เราอยู่ในวงการวิ่งจริงๆ ถ้าคนที่อยู่ในวงการวิ่งจริงๆ จะไม่มีใครมีความคิดแบบนี้เลยว่าต่อให้เสียเงินเท่าไหร่ เขาก็ไม่คิดว่ามันไม่คุ้ม เพราะว่าการที่เรามีประสบการณ์ตรงยอมจ่ายเงินไป หลักพัน หลายพัน เพื่อที่จะไปวิ่งงานไหนก็ตาม หนูรู้สึกว่ามันคือความภาคภูมิใจมากๆ เลย มันเหมือนเราได้สังคมด้วยได้ความเฮลตี้ ได้สุขภาพจริงๆด้วย แถมยังได้ความสนุกความท้าทายหนูว่ามันคุ้มนะ…แต่ถ้าในมุมมองคนอื่นหนูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

การเตรียมตัวก่อนแข่งของเราแต่ละรายการมีการตั้งเป้าหมายหรือเราซ้อมหนักแตกต่างกันบ้างไหม?

Meimei._.JJ : ซ้อมหลักๆ เมเม่ มีการตั้งเป้าหมายไว้ก่อนอย่างแรก สมมุติว่าสนามนี้หนูจะลงวิ่งประมาณ 20 หรือ 40 กิโลก็แล้วแต่ เราจะต้องซ้อมให้ได้ครึ่งหนึ่ง สมมติว่า เมเม่ ลงไว้ 21 กิโล ใช่ไหมคะระยะฮาล์ฟ ก็จะต้องวิ่งประมาณ 10 กิโล หรือ 15 กิโล ตัวเราต้องมีวินัยก็ซ้อมบ่อยๆ ต่ออาทิตย์ ตอนที่มีทีมเราก็จะไปซ้อมกับทีมบ่อยๆ หรือว่าถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้อยู่กับทีม เราก็จะซ้อมเองอยู่ที่ห้อง อย่างสนามเทรล ก็มีการซ้อมครึ่งนึงเหมือนกัน คือ จะไปที่สนามมันจะมีสนามซ้อมตอนนั้นที่ เขาฉลาก ชลบุรี ไปบ่อยมากทุกสุดสัปดาห์เพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนการแข่ง 

ถ้าสมมุติว่าไม่ได้ออกไปต่างจังหวัดจําเป็นต้องในกรุงเทพฯ ในสภาพที่มีฝุ่นเยอะแบบตอนนี้ถือว่าเป็นอุปสรรคบ้างไหม? มีแนวทางแก้ยังไงบ้าง?

Meimei._.JJ : อันนี้ เมเม่ คิดว่ามีผลมีผลมากๆ ในเรื่องของฝุ่นหรือสภาพแวดล้อมภายนอก เพราะว่าระบบหายใจ หนูว่ามันค่อนข้างที่จะอันตรายต่อสุขภาพนักวิ่ง ถ้าสมมุติว่าเราต้องการสุขภาพที่ดี แล้วเราออกไปเจอฝุ่นหนักๆ มันก็ไม่ใช่แล้ว มันมีผลกระทบมากๆ ฉะนั้นเราต้องเปลี่ยนวิธี ซ้อมในห้องเอง โดยการไปวิ่งในฟิตเนสที่คอนโด ถ้าสมมุติว่าบางคนเขาไม่ได้มีฟิตเนสที่คอนโดก็ต้องออกไปข้างนอก หายิมที่เป็นอินดอร์ ไม่ควรที่จะออกไปสู้กับสภาพอากาศภายนอกย่ำแย่ ต้องพยายามไม่พาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ทุกอย่างมันมีวิธีการแก้ไขได้หมด

คิดยังไงกับเรื่องของการศัลยกรรมกับการที่ทําให้ตัวเองดูดีด้วยการออกกําลังกาย เมื่อนำสองเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกันในมุมมองของตัวเอง เมื่อทุกอย่างมันคือการทำให้ตัวเองดูดีทั้งเหมือนกันหมด?

Meimei._.JJ : จริงๆ แล้ว หนูมองว่าต้องแบ่งประเด็นก่อนว่า การที่ใครก็ตามเลือกที่จะศัลยกรรมหรือเข้าคลินิกเพื่อดูแลตัวเองให้สวย “มันไม่ใช่เรื่องผิด” มันเป็นความชอบของแต่ละคนเนอะ…แต่ทีนี้ประเด็นต่อมาคือ ผลลัพธ์ของการที่เข้าคลินิกหรือศัลยกรรม มันอาจจะเห็นผลเร็วกว่า แต่ถ้าในอีกวิธีการหนึ่งอย่างการดูแลสุขภาพตัวเอง ด้วยการออกกําลังกายอย่างมีวินัยให้กับตัวเองจริงๆ มุ่งเป้า ตั้งเป้าจริงๆว่า ฉันจะต้องทําอย่างให้ได้ สิ่งสําคัญของการออกกำลังกาย คือ มันได้สุขภาพดีในแบบที่อยู่กับเรานานกว่า แลกกับการรอผลลัพธ์ที่รอนานแต่ยั่งยืน หนูมองว่าการศัลยกรรมหรือว่าการเข้าคลินิกมันก็ได้แค่ภายนอก แต่ถ้าอยากสุขภาพที่ดีจากภายใน ข้อเท็จจริง คือ เราต้องเสริมการออกกําลังกายควบคู่กันไปด้วย สุดท้ายประเด็นนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ ความถนัด ความสะดวก ของแต่ละคน ตัวหนูเองก็เข้าคลินิกบ่อย เข้าไปดูแลตัวเอง เช่นแบบเราเข้าป่า เราวิ่งในป่าแล้วเจอแดด เจอนั่นเจอนี่ ใช่ค่ะแน่นอนว่าเรื่องปัญหาผิวมันมาอยู่แล้วแหละ แล้วก็เข้าไปปรึกษาคุณหมอกินวิตามินต่างๆ เสริมเข้าไปเพื่อดูแลซ่อมแซมร่างกาย หรือบำรุงเพิ่มเติม เพื่อทำให้ตัวเราเองดูดีทั้งภายนอกและภายในไปพร้อมๆ กัน

เคยอยากลองเล่นกีฬาประเภทอื่นๆ หรือ ฟรี รันนิ่ง ที่เสี่ยงมากขึ้นมั้ย?

Meimei._.JJ :  อยากลองนะคะแต่ว่ายังไม่มีโอกาส ตอนนี้ก็กําลังที่จะตั้งเป้าหมายเพิ่ม คือ เข้าไปอยู่ในวงการของสายปั่นด้วย เมเม่ มองว่ามันเป็นความแปลกใหม่ที่ท้าทายดีเหมือนกัน

เป้าหมายของการวิ่งสูงสุดคิดว่าเราอยากไปอยู่ตรงจุดไหน? เราระยะทางไกลสุดกี่กิโล? เคยจบ ฟูล มาราทอน มาแล้วหรือยัง?

Meimei._.JJ : เคยจบประมาณ 40 กว่ากิโลค่ะเป็นรายการเทรล แต่ว่าเป้าหมายของสูงสุดหนู แอบมีความคิดว่า หนูอยากทําให้ได้ร้อยกิโล มันมีรุ่นพี่หนูคนนึงเขาไม่ใช่รุ่นพี่หนูคนหนึ่งเขาเหมือนกับว่าเป็นไอดอลเนี่ยแหละเป็นอาจารย์เป็นโค้ชเขาทําแบบเวลาได้ดีมากเราเห็นเราแบบเออชอบ มองเขาเป็นต้นแบบ พี่เค้าก็เคยสอนเราไว้ว่า มาวิ่งเนี่ยไม่ได้เอาถ้วยไม่ได้เอาอะไรเลย มาเอาบรรยากาศอย่างเดียว แล้วก็มองว่าเออก็เป็นสิ่งที่เราอยากลองเหมือนกันนะ วิ่งแบบไม่ต้องไปกดดันตัวเองว่า เฮ้ยเราต้องได้ถ้วยนะ ต้องได้ถ้วยนะ เพราะว่าที่ผ่านมาเราก็เราได้มาเยอะแล้ว เราลองเปลี่ยนแนวคิดจากวิ่งเพื่อกดดันตัวเอง หันมาลองวิ่งเพื่อความสนุกดูมั้ย เอาจริงๆ เวลาหนูวิ่ง หนูจะกดดันตัวเอง ด้วยความคิดที่ว่า หนูจะต้องทําเวลาให้ได้ หนูจะต้องต่ํากว่าเป้าหมายที่หนูตั้งไว้หรือเทียบเท่า พอเราทําไม่ได้มันก็แอบเสียใจนิดนึง แต่พอมาถึงจุดนึงที่เราอยากลองเปลี่ยนความคิดว่า เรามาวิ่งเพื่อสุขภาพจริงๆ วิ่งเพื่อความสุขจริงๆ มันผ่อนคลายขึ้น จากการที่เคยเป็นคนเสพติดการวิ่งมากๆ จนกลายเป็นกดดันตัวเองมากเกินไป ช่วงนั้นมันทำให้เราเป็นคนไม่มีความสุขไปเลย
เพราะมัวแต่มองเป้าว่า เราชนะเราถึงจะมีความสุข แล้วรุ่นพี่คนนั้นคือคนที่มาเปลี่ยนความคิดเราให้มองในมุม positive มากขึ้น เขาชื่อว่า “ครูฝน”

เคยประสบอุบัติเหตุอะไรกับการวิ่งที่รุนแรงหรือเจ็บหนักบ้างไหม?

Meimei._.JJ : หนูยังไม่เคยประสบอุบัติเหตุแรงๆ ในการวิ่งเลยนะ แรงสุด คือ กล้ามเนื้อฉีก ตอนวิ่ง จบเทรล 40กิโลนี่แหละค่ะ เพราะว่าเอาจริงๆ สนามเนี่ยมันเป็นสนามที่ควรจะต้องมีไม้โพล แต่หนูประมาท เราไม่มี เราไม่ได้ใช้ไม้ เราใช้ขาของเราดันขึ้นเขาตลอดเลย จนหนูรู้สึกว่าเราฝืนขา เราฝืนร่างกายตัวเองเกินไป พอจบการแข่งขันอีกวันหนึ่งรู้เรื่องเลย ไม่ต่างกับขาขาด แต่รายการนั้นก็เป็นสนามที่ทําเวลาได้ดีอยู่เหมือนกันค่ะ

ลุคของเราภายนอกดูเป็นคนแรงๆ ความจริงแล้ว คาแรคเตอร์ของตัวเอง ถ้าไม่ได้อยู่ต่อหน้ากล้องเป็นแบบเดียวกันไหม?

Meimei._.JJ : หนูบอกเลยจริงๆ ถ้าอย่างที่พี่บอกว่าลุคหนูภายนอกเนี่ยดูเป็นคนแบบดูเฟี๊ยซ ดูแบบแรงๆ ใช่ไหมคะ แต่ถ้ารู้จักกับหนูจริงๆ แล้ว จะรู้เลยว่าหนูเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเองระดับนึง แล้วก็เป็นคนแบบติงต๊องมากๆ เท่าที่คุยก็จะแบบคุยไม่รู้เรื่องเป็นคนบ้าๆ เป็นคนยอมคน ไม่ดุ ไม่แรง เหมือนภายนอกที่คนอื่นมองเลย

มีไอดอลในวงการนักวิ่งไหม?

Meimei._.JJ : ก็เป็น ครูฝน นี่แหละค่ะ เพราะว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ทําให้ความคิดหนูเปลี่ยนไป โดยการที่ทำให้เราคิดว่า ฉันอยากจะลองเราวิ่งในเวย์นี้บ้าง ได้ความสนุก ไม่กดดันตัวเอง

คิดว่าการวิ่งกาวออกกําลังกายแบบจริงจังมีราคาต้องจ่ายเป็นการแลกมาด้วยอะไรบ้าง?

Meimei._.JJ : ถ้าเราสมมุติว่าเรายอมลงทุนจ่ายเงินเพื่อที่จะได้มา หนูมองว่าสิ่งนั้นมันมันต้องบรรลุเป้าหมายด้วยนะเหมือนเราลองจ่ายเงินเพื่อที่จะวิ่งเพื่อให้ได้ถ้วย แล้วเราไปจ่ายค่าโค้ช ค่าชุด ค่าอุปกรณ์ เราก็ต้องทำมันให้ได้ตามเป้าหมาย ถ้าบอกว่าเราจ่ายเงินเพื่อไปวิ่ง เพื่อไปเจอสังคมไปเจอนั่นเจอนี่ หนูมองว่ามันคุ้มมากๆ เพราะว่าสังคมการวิ่งดีมากๆ ค่ะ เป็นการรวมจากหลากหลายอาชีพให้มาเจอกันแล้วพูดคุยกัน มันคุ้มนะ ถ้าถ้าเราพูดถึงเรื่องการจ่ายเงินเพื่อจะได้สิ่งสิ่งหนึ่งมา ส่วนในเรื่องสุขภาพอันนี้ได้แน่นอนด้วยได้มาจริงๆ อยู่แล้ว

เคยเจออาชีพที่แปลกที่สุดในวงการวิ่งที่เราไม่คิดว่าเขาจะมาทางนี้บ้างไหม?

Meimei._.JJ : ไอดอลเหมือนอย่างที่หนูเคยเป็นนี่แหละ บางทีคนมองว่าเขาเป็นนักร้อง ไม่ได้คิดว่าเขาจะจริงจังกับการวิ่งขนาดนี้ พวกอาชีพนักธุรกิจหรือซีอีโอพันล้าน ร้อยลล้าน ไม่ค่อยแปลกเพราะพวกเขามาวิ่งกันอยู่แล้ว เจากการที่เขาได้สังคม ได้คอนเนคชั่น แล้วเขาก็ได้สุขภาพ แต่อย่างไอดอลเนี่ยหนูมองว่ามันก็แปลกดีนะ คนที่มาวิ่งจริงจังอย่างนี้มันหายากอยู่นะ

บางทีเขาอาจจะต้องสละตารางงานเพื่อมาเพื่อแค่วิ่งอย่างนี้ก็มีใช่ไหม?

Meimei._.JJ : เหมือนหนูอ่ะแบบ…ถ้ามีงานโชว์ที่เรารับไว้ก่อน เราก็ต้องเลือกรับผิดชอบต่อหน้าที่เรา ไปตามตารางต่อให้มีรายการวิ่งที่เราอยากไปมากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถไปทำสิ่งที่เราชอบได้ แต่ถ้าเข้ามาในเวลาพร้อมๆ กัน หนูมีโอกาสเลือกได้ บางครั้งหนูก็อาจจะเลือกไปวิ่งนะ เพราะรู้สึกว่าเราได้ผ่อนคลาย เราได้ดูแลสุขภาพทั้งกายและจิต ในมุมของการทำงานร้องเพลงเป็นไอดอล หนูก็มีความสุขไม่ต่างกัน มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในช่วงเวลานั้นๆ มากกกว่าว่า เราต้องการอะไรที่เหมาะกับเราที่สุดตอนนั้น

อ้าววิ่งเยอะขนาดนี้แปลว่าไม่มีเวลาให้แฟนเลยสิ?

Meimei._.JJ : ไม่มีเลยค่ะ

หมายถึงเวลาเหรอ?

Meimei._.JJ : ไม่มีแฟนค่าาา

โอเค! จบคำถามเซอร์วิสแล้ว ขอถามถึงการทํางานกับทีมงานโปรเจ็คท์ Fitspo หน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง?

Meimei._.JJ :  บรรยากาศสนุกมากกกก…ตอนแรกก็แอบเกร็งๆ แบบว่า ถ่ายรูปออกมาจะโอเคไหม? ,มีช็อตไหนที่ไม่ดีหรือเปล่า? เพราะว่าเราเพิ่งเจอกันครั้งแรกกับทีมงาน พอได้มีการละลายพฤติกรรม พูดคุยกันเดินนั่นเดินนี่ถ่ายรูปไปด้วย คุยกันไปด้วย หนู้มีความสุขและสนุกมากค่ะ แอบรู้สึกว่าเวลามันจํากัดไปหน่อยจริงๆอยากอยู่นานๆ เลย สนุกมากค่ะและก็มีความสุขค่ะ

เราเคยลองหรือมีวิธีชักชวนคนอื่นให้มาวิ่งบ้างไหม? พอจะมีตัวอย่างเล่าให้ฟังขำๆ สักเคสมั้ย?

Meimei._.JJ : ถ้าเอาตอนนี้ไม่มีเลยค่ะ แต่ตอนที่ยังอยู่ในวงเคยมี เมเม่ มียูสเซอร์ มีแฟนคลับ ที่คอยถามว่าทำไมไม่ชวนน้องๆ มาวิ่งด้วยอย่างงั้นอย่างงี้ คือ เมเม่ อยากบอกว่าชวนแล้วค่ะพี่ แต่น้องไม่มาเลย อะไรอย่างงี้ จนกระทั่งมันมีคนหนึ่งชื่อน้องจริงจัง หนูชวนเขามาว่า เธอลองไปวิ่งกัน ลดความอ้วนนะ เราจะต้องเหนื่อยนะ เพื่อความสวยของเรานะ เราจะได้แบบพอเราสวยเนาะ เราจะได้แบบจึ้งๆ ปังๆ นะ หรือแบบว่าวิ่งเสร็จแล้วค่อยไปกินหมูกะท๊งหมูกระทะกันต่อได้อะไรงี้…แบบไม่มีความรู้สึกผิด ไปชวนเขาทีแรกเขาก็ยอมมานะ แต่
พอไปแบบเป็นเทรล ไปวิ่งแบบภูเขายังไม่มีใครมาไม่มีเลยอันนี้คือในวงการไอดอลนะ 

เวลาวิ่งในยิมเรามีเพลงโปรดของเราที่ชอบฟังหรืออยากแนะนำให้คนอื่นฟังมั้ย?

Meimei._.JJ :  มีค่ะ! หนูชอบฟัง ฺBLACKPINK IN YOUR AREA 

แล้วระหว่างฟังเพลงกับฟังเสียงธรรมชาติตอนไปเทรลชอบแบบไหนมากกว่ากัน?

Meimei._.JJ : เออจริงๆ หนูไม่ค่อยฟังเพลง หนูชอบธรรมชาติ แล้วก็เวลาวิ่งแบบ;jk มันจะมีความคิด เสียงอยู่ในหัวตลอดว่า เมื่อไหร่จะถึง เมื่อไหร่จะถึง เมื่อไหร่จะถึง ทีนี้ดูข้างหน้าแล้วคิดไปว่าเป็นลานน้ํา ข้างหน้าเป็นร้านข้าว คิดแค่ว่าให้มันจบ หนูเป็นแบบนี้จริงๆ คอยกระตุ้นตัวเองอยู่ตลอดในหัวว่า ให้มันเสร็จ ให้มันจบ หนูเลยไม่ค่อยได้ฟังเพลงเท่าไหร่ เพราะโฟกัสอยู่กับการเส้นชัย

โลเคชั่นของเทรลเนี่ยมันจําเป็นต้องเป็นภูเขาอย่างเดียวเลยไหมมันเคยมีแบบโลเคชั่นที่เป็นภูเขาติดทะเลอะไรอย่างงี้บ้างไหม? ที่นักวิ่งสามารถเห็นสองวิวได้พร้อมๆ กัน?

Meimei._.JJ : มีค่ะ เป็นภูเขาติดทะเลก็มี ป่าดิบชื้นก็มี มีหลายสนามที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเขาเลยค่ะ แล้วก็จะมีเป็นแบบเกาะเป็นสนามที่อยู่บนเกาะที่มีน้ําล้อมรอบ อย่างเช่น เกาะช้าง

ตอนที่มีทีมก็แปลว่าบางครั้งเราก็ต้องทําการบ้านของสภาพภูมิประเทศ สภาพสนามแข่ง หรือมีการคุยปรึกษากันเรื่องนี้บ้างไหม?

Meimei._.JJ : จริงๆตัวหนูอ่ะไม่ทํา อยากได้ความตื่นเต้น แต่ว่าก็จะมีเฮดที่พี่เค้ารู้อยู่แล้วว่า ตัวเนี้ยภูเขาเนี้ย ชันเท่าไหร่ เราจะวิ่งกันกี่โล? เราจะลงเท่าไหร่? แล้วก็เราจะซ้อมกันระยะประมาณไหน? มีการเตรียมการล่วงหน้าให้พร้อมว่าเราต้องพกของจำเป็นอะไรไปบ้าง

งั้นสุดท้ายละฝากอะไรถึงแฟนแฟน Fitspo หน่อยแล้วก็รวมไปถึงผลงานของตัวเองด้วยสักนิด

Meimei._.JJ : ก็สวัสดีนะคะ เมเม่ นะคะ ขอฝากถึงแฟนๆ ทุกๆ ท่านนะคะ แฟนคลับทุกๆ ท่านของ Fitspo นะคะ ฝากติดตามคอลัมน์บทสัมภาษณ์ แล้วก็ฝากติดตาม น้องเมเม่ด้วยนะคะ ซึ่งก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเป็นคนแรกที่มาทำโปรเจ็คท์นี้ รู้สึกดีใจแล้วก็เป็นเกียรติมากๆ นะคะ ฝากทุกคนติดตามและให้การสนับสนุนคอนเทนต์ดีๆ แบบนี้ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากหันมาออกกําลังกายหรือสนใจในเรื่องของสปอร์ต เรื่องกีฬา มากขึ้น ส่วนของเมเม่ก็ตอนนี้ก็ได้หมดสัญญากับทางค่ายและไม่ได้เป็นไอดอลไม่ได้เป็นเกิร์ลกรุ๊ปแล้ว แต่ตอนนี้ก็ทําเป็นไลฟ์สตรีมเมอร์นทาง ติ๊กต่อก ทางช่อง Meimei._.JJ ไลฟ์ทุกๆ วันช่วงบ่ายบ่าย 3 ถึง 5โมงเย็น แล้วก็ 3 ทุ่ม ถึง 5ทุ่มค่ะ ไลฟ์พูดคุยไลฟ์สไตล์ร้องเพลงแล้วก็เต้นให้กับทุกคนได้เอนจอยกันค่ะ แล้วตอนนี้ก็ยังออกกําลังกายอยู่นะคะ ติดตามเพิ่มเติมได้ทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น ไอจี หรือ เฟสบุ๊ค ชื่อเดียวกันค่ะ

ทิ้งท้ายจริงๆ แล้วให้จํากัดความตัวเอง 3 คําตอนนี้สักหน่อย?

Meimei._.JJ : เอาอะไรดีล่ะ รวย รวย รวย หรอ?

มาทางขิงกันซะแล้วเอาใหม่ๆ เป็นแนวสิ่งที่เราตั้งเป้าก็ได้

Meimei._.JJ : ปัง ปัง ปัง ละกัน ขอให้ปีนี้ทุกอย่างปังหมด ไม่ว่าจะทำอะไรดีกว่าเนอะ