ความทรงจำที่สูญหาย : เหตุใด "โกลจอมยิงจุดโทษ" จึงหายากในฟุตบอลยุคใหม่ ?

Maruak Tanniyom

May 14, 2024 · 1 min read

ความทรงจำที่สูญหาย : เหตุใด
ฟุตบอล | May 14, 2024

โฮเซ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต, โรเจริโอ เซนี หรือ ฮันส์ ยอร์จ บุทท์ คือเหล่าผู้รักษาประตูที่มีภาพจำว่า นอกจากการป้องกันประตูที่ยอดเยี่ยมแล้ว พวกเขายังยิงจุดโทษได้ดีชนิดศูนย์หน้ายังอาย

อย่างไรก็ดี ในยุคปัจจุบัน แทบจะไม่เห็นผู้รักษาประตูประเภทนี้อีกเลย เพราะเหตุใด?

อันที่จริง ส่วนหนึ่งที่ทำให้ในยุคก่อน โลกมีผู้รักษาประตูที่ยิงจุดโทษได้ดีไม่น้อย ส่วนหนึ่งมาจากแนวคิดของโค้ชว่า คนที่สามารถเผชิญความกดดัน คือคนที่ยิงจุดโทษได้ดีที่สุด

เนื่องจากผู้รักษาประตู เป็นตำแหน่งที่เผชิญความกดดันตลอดทั้งเกมอยู่แล้ว ดังนั้นหากพวกเขารับหน้าที่สังหารจุดโทษ ก็น่าจะทำได้ดี แถมการรู้ว่ามุมไหนคือจุดที่รับยากที่สุด ยังทำให้พวกเขามีแต้มต่อ

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พวกเขามีสถิติที่พลาดน้อยมาก ยกตัวอย่าง ฮันส์ ยอร์จ บุทท์ ที่ยิงไปถึง 26 ประตู จาก 31 ครั้งที่รับหน้าที่นี้ในลีก ทั้งในสีเสื้อของ ฮัมบูร์ก และไบเออร์ เลเวอร์คูเซน บวกอีก 3 ประตูในฟุตบอลถ้วยยุโรป

ทั้งนี้ คุณสมบัติดังกล่าว ยังทำให้ครั้งหนึ่ง บุทท์ ต้องรับหน้าที่ยิงจุดโทษสำคัญ ตอนเล่นอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ ยูเวนตุส ซึ่งเขาก็ไม่พลาด ยิงเข้าไปอย่างเยือกเย็นตีเสมอให้ทีมได้สำเร็จ ก่อนจะเอาชนะไปได้ 1-4 ในท้ายที่สุด

และนอกจากความนิ่งแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โกลประเภทนี้ได้เฉิดฉายก็คือความไว้เนื้อเชื่อใจของโค้ช ที่กล้าเสี่ยง ยอมให้นายทวารประเภทนี้ทิ้งปากประตูตัวเอง ขึ้นมารับหน้าที่คนตัดสินเกม ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนที่กล้าทำเช่นนั้น

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ รูปแบบการฝึกซ้อมในยุคก่อน ที่ผู้รักษาประตูมีเมนูการฝึกที่เข้มข้น น้อยกว่าผู้เล่นตำแหน่งอื่น ทำให้พวกเขามีเวลาเหลือเฟือในการฝึกฝนทักษะอื่นนอกเหนือจากการป้องกันประตู และทำให้บางคนนอกจากจะยิงจุดโทษได้ดีแล้ว ยังเตะฟรีคิกได้ดีอีกด้วย

“เขาบอกว่า เขาค้นพบเคล็ดลับในการเล่นลูกตั้งเตะ ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ตอนเป็นผู้รักษาประตูสำรองที่ เซา เปาโล เมื่อเขาและผู้รักษาประตูตัวจริง เซ็ตติ แข่งกันยิงชนคานซ้ำไปซ้ำมาจนชำนาญจากนอกกรอบเขตโทษ” กาเบรียล มาก็อตติ นักข่าวกีฬาของ ESPN กล่าวถึง โรเจริโอ เซนี เจ้าของสถิติผู้รักษาประตูที่ยิงประตูจากลูกฟรีคิกได้มากที่สุดในโลก

“เซนี เก่งในเรื่องนั้น และเมื่อมีกำแพง เขาก็พบว่าเขาสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอเช่นกัน จากนั้นมันก็แค่ไม่กี่ก้าวที่จะปรับลูกยิงของเขาให้ต่ำลงไม่กี่นิ้ว เพื่อให้เข้ากรอบ”

อย่างไรก็ดี เมื่อโลกหมุนไปข้างหน้า ดูเหมือนว่าผู้รักษาประตูประเภทนี้จะเริ่มลดน้อยถอยลง และเหตุผลก็มาจากเทรนด์ฟุตบอลที่เปลี่ยนไป

เนื่องจากปัจจุบัน แค่คุณสมบัติป้องกันประตูนั้นไม่เพียงพอสำหรับการเป็นผู้รักษาประตูที่ดีอีกแล้ว พวกเขาต้องทำอะไรได้มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นต้องเล่นบอลด้วยเท้าได้ดี จ่ายบอลแม่น ไปจนถึงออกมาตัดบอลทั้งในและนอกเขตโทษได้อย่างถูกจังหวะ

และนี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ เดวิด เด เกอา ที่ครั้งหนึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ต้องว่างงาน ไร้สโมสรเล่นมาเกือบ 1 ปีเต็ม ทั้งที่หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน คงจะมีแต่ทีมใหญ่รุมแย่งคว้าตัวไปร่วมทีม

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผู้รักษาประตูยุคใหม่ ต้องใช้เวลาไปไม่น้อยในการฝึกซ้อมนอกเหนือจากการป้องกันประตู จนทำให้ไม่ได้มีเวลาไปซ้อมพิเศษ อย่างการยิงจุดโทษ หรือฟรีคิกอีกแล้ว

บวกกับฟุตบอลยุคปัจจุบัน ที่เน้นผลการแข่งขันมากกว่าความสนุก ทำให้โค้ชพยายามเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น การส่งผู้รักษาประตูไปยิงจุดโทษ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับการสนุนเหมือนในอดีต

“ผู้รักษาประตูในระดับเยาวชนไม่ได้ถูกฝึก หรือกระตุ้นให้ทำแบบนั้น ดังนั้นพอพวกเขาเทิร์นโปร มันจึงไม่ได้เป็นปัญหา” มาก็อตติ อธิบาย

“ที่สำคัญที่สุด ผู้รักษาประตูแปลกๆ ที่ยิงจุดโทษได้อย่าง วินเซนต์ เอเยียมา หรือ ฮันส์ ยอร์จ บุทท์ ก็ไม่ได้เป็นผู้รักษาประตูที่ผู้จัดการทีมส่วนใหญ่อยากจะเห็น”

สำหรับผู้ชมแล้ว แม้มันอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเหมือนกัน ที่ไม่ได้เห็นความตื่นเต้นในรูปแบบนี้ แต่นี่ก็คือวิวัฒนาการของฟุตบอล ที่มักจะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นมา และบางอย่างหายไปอยู่เสมอ