ฟุตบอล

5 เหตุผลที่ 10 นัดแรกของอิชิอิกับช้างศึก ต้องให้ 10 คะแนนเต็ม

มาซาทาดะ อิชิอิ คุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ลงเตะครบ 10 นัดไปเรียบร้อยแล้ว โดยล่าสุดสามารถพาทีมบุกชนะเวียดนามได้ 2-1 ในเกมอุ่นเครื่องรายการ LPBank Cup 2024 เมื่อคืนวันอังคารที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้สถิติการคุมทัพช้างศึกของกุนซือชาวญี่ปุ่นรายนี้ คือการพาทีมชนะ 3 นัด เสมอ 4 นัด และแพ้แค่ 3 นัดเท่านั้น

ถึงแม้เปอร์เซ็นต์พาทีมชนะจะมีแค่ 30% แต่ 5 เหตุผลต่อไปนี้ มากพอที่จะทำให้แฟนบอลไทยควรยกย่องอิชิอิว่าสามารถพาทีมทำผลงานได้ยอดเยี่ยม และสามารถคาดหวังถึงผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงต่อจากนี้ได้

 

1. ทำผลงานระดับทวีปได้ยอดเยี่ยม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโปรแกรม 10 นัดแรกของ มาซาทาดะ อิชิอิ ในการคุมทีมชาติไทยถือว่าเจอโปรแกรมที่หนักกว่า 10 นัดแรกของเฮดโค้ชทีมช้างศึกก่อนหน้านี้หลายๆ คน เพราะมีถึง 8 นัดที่ต้องพบกับคู่แข่งที่มีอันดับบนแรงกิ้งฟีฟ่าสูงกว่าในวันก่อนแข่ง

เกมแรกที่อิชิอิคุมทีมชาติไทย คือการบุกแพ้ญี่ปุ่น 5-0 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อวันขึ้นปีใหม่ 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งถึงแม้ว่าผลการแข่งขันจะแพ้แบบขาดลอย แต่หลายคนก็ได้เห็นการเล่นที่มีทีมเวิร์คและวินัยมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าศักยภาพของทีมจากแดนซามูไรเหนือกว่าอยู่มาก

ผลงานที่ทำให้แฟนบอลไทยประทับใจในการคุมทีมของอิชิอิ ก็คือการพาทีมผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เอเชียน คัพ 2023 (แข่งขันในช่วงต้นปี 2024) ด้วยการไม่เสียประตูเลยในรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ประกอบด้วยการชนะคีร์กีซสถาน 2-0, เสมอโอมาน 0-0 และเสมอซาอุดีอาระเบีย 0-0 ซึ่งการเก็บได้ถึง 5 แต้ม คือผลงานการลงเล่นรอบแรก เอเชียน คัพ ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นกับทีมชาติไทยด้วย

แม้จะต้องหยุดเส้นทางในศึกฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีปเอเชียไว้แค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อพ่ายอุซเบกิสถานไปหวุดหวิด 2-1 แต่เขาก็ทำให้ทีมรักษาความหวังได้ลุ้นเข้ารอบต่อไปของศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ได้จนถึงนัดสุดท้ายของรอบที่ 2 ซึ่งน่าเสียดายที่เกมเปิดบ้านพบสิงคโปร์เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2024 ไทยชนะแค่ 3-1 ขาดไปแค่ประตูเดียวเท่านั้นก็จะผ่านเข้ารอบได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม อิชิอิสามารถพาไทยบุกไปเก็บแต้มนอกบ้านได้ในเกมยากๆ อย่างการบุกเยือนเกาหลีใต้ และเยือนจีน ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ทั้ง 2 นัด

 

2. เจอคู่แข่งระดับอาเซียน ก็ไม่พลาดชัยชนะ

2 จาก 3 เกมที่ทีมชาติไทยคว้าชัยชนะได้ในยุคของอิชิอิ คือการเจอคู่แข่งในระดับอาเซียนด้วยกัน โดยสามารถเปิดบ้านชนะสิงคโปร์ 3-1 ในศึกคัดบอลโลก และล่าสุดก็บุกไปชนะเวียดนามได้ถึงถิ่น 2-1 นอกนั้นโปรแกรมอีก 8 นัด ล้วนเจอกับคู่ต่อสู้ที่มีแรงกิ้งสูงกว่า และเป็นทีมระดับเอเชียทั้งนั้น

แม้ 10 นัดที่ผ่านมา จะมีเกมที่พบกับความปราชัยไป 3 นัด แต่การออกไปแพ้ทีมที่มาตรฐานสูงที่สุดของเอเชียอย่างญี่ปุ่น 5-0, แพ้ให้ทีมอย่างอุซเบกิสถาน 2-1 ในรอบน็อคเอาท์ เอเชียน คัพ และการแพ้ทีมขาประจำฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอย่างเกาหลีใต้ ซึ่งเต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ที่ไปค้าแข้งที่ยุโรป 0-3 ไม่ใช่ผลงานที่แย่กว่ามาตรฐานแต่อย่างใด ไม่ใช่เกมที่แฟนบอลไทยต้องอายเลย

ขณะที่การผ่านเข้ารอบต่อไปของศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ไม่สำเร็จ คงจะโทษอิชิอิแบบเต็มๆ ไม่ได้ เพราะอันที่จริง ทีมชาติไทยแทบจะหมดลุ้นเข้ารอบตั้งแต่การแพ้จีนคาบ้าน 1-2 ในเกมแรกแล้วแท้ๆ แต่อิชิอิสามารถพาทีมบุกไปเก็บแต้มในเกมเยือนคู่แข่งที่แข็งแกร่งทั้ง เกาหลีใต้ และ จีน จนมีลุ้นจนถึงวันสุดท้ายได้ ซึ่งแน่นอนว่าการตกรอบคัดบอลโลกไว้แค่รอบ 2 มันคือเรื่องน่าผิดหวัง แต่เขาเกือบจะเข็นทีมเข้ารอบต่อไปได้อยู่แล้ว ถ้าหากยิงสิงคโปร์เพิ่มได้อีกสัก 1 ประตู

 

3. ผลักดันนักเตะสายเลือดใหม่ๆ

ในยุคของ มาซาทาดะ อิชิอิ เขาใช้เวลาเดินทางไปส่องฟอร์มนักเตะที่ผลงานดีในไทยลีกจนเรียกมาติดทีมหลายคน ล่าสุดก็เพิ่งให้โอกาส พาตริก กุสตาฟส์สัน กองหน้าลูกครึ่งสวีเดนวัย 23 ปี ซึ่งปัจจุบันถูก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่งตัวให้ นาระ คลับ สโมสรในเจลีกดิวิชั่น 3 ของญี่ปุ่นยืมใช้งาน ขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ในตำแหน่งศูนย์หน้า และประเดิมเกมเดบิวต์ด้วยผลงานสุดยอด ทำแอสซิสต์ 1 และยิงเองอีก 1 ประตู

โจนาธาร เข็มดี กองหลังลูกครึ่งไทย-เดนมาร์กวัย 22 ปี เจ้าของส่วนสูงถึง 190 เซนติเมตรจาก ราชบุรี เอฟซี ก็ประเดิมทีมชาติไทยชุดใหญ่นัดแรกด้วยการจับคู่เซนเตอร์กับ เอเลียส ดอเลาะ ได้น่าพอใจ ซึ่งเชื่อได้เลยว่าโจนาธารจะพร้อมเป็นตัวหลักในแนวรับของทัพช้างศึกไปได้อีกนานนับ 10 ปีแน่ๆ ถ้าหากรักษาสภาพร่างกายให้ยืนระยะต่อเนื่องได้ดีพอ

วีระเทพ ป้อมพันธุ์ มิดฟิลด์วัย 27 ปีจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็กลายเป็นกองกลางตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้ไปแล้ว และเป็นตัวจ่ายบอลที่มีคุณภาพสูงมาก ซึ่งช่วงก่อนหน้าจะถึงปี 2024 เขาอาจจะยังไม่ใช่นักเตะที่ยึด 11 ตัวจริงได้ต่อเนื่อง แต่อิชิอิค้นพบแล้วว่าจะให้ใครคือคีย์แมนสำคัญในบทบาทห้องเครื่องของเขา

นอกจากนั้นแล้ว ในรายชื่อนักเตะทีมชาติไทยชุดล่าสุด อิชิอิยังเปิดโอกาสให้นักเตะหลายๆ คนได้มีชื่อติดทีมชาติเป็นครั้งแรกด้วย ไม่ว่าจะเป็น พาตริก กุสตาฟส์สัน, โจนาธาร เข็มดี, วิลเลียม เวเดอร์เฌอ, อนันต์ ยอดสังวาลย์ และ กรวิชญ์ ทะสา ในขณะที่ อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ ที่เคยเรียกติดทีมมาแล้วก่อนหน้านี้ ก็ได้ลงสัมผัสเกมกับทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเรียบร้อย

 

4. ขันเกมรับให้ดีขึ้นกว่าเดิมเห็นๆ

ภายใต้การคุมทีม 10 นัดที่ผ่านมาของอิชิอิ ทีมชาติไทยเสียประตูไปแค่ 14 ประตู โดยสามารถเก็บคลีนชีตได้ 3 นัด ถ้าหากเทียบกับ 10 นัดสุดท้ายในยุคของเฮดโค้ชคนก่อนหน้าอย่าง มาโน่ โพลกิ้ง ที่เสียไปถึง 24 ประตู และเก็บคลีนชีตแค่นัดเดียว จะเห็นว่าจำนวนประตูที่เสียลดลงไปเยอะมาก ทั้งที่คู่ต่อสู้ที่ทีมช้างศึกต้องเจอในช่วง 10 เกมที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นคู่แข่งหินๆ ทั้งนั้น

อิชิอิเข้ามาปรับวินัยการเล่นให้นักเตะไทยช่วยกันปิดพื้นที่ได้ดี และแนวรับสามารถทดแทนกันได้ตลอด ที่เห็นชัดเจนว่าเล่นเกมรับได้น่าประทับใจคือในศึก เอเชียน คัพ 2023 รอบแบ่งกลุ่มที่เก็บคลีนชีตทั้ง 3 นัด และนั่นทำให้ผลการแข่งขันในการเจอกับคู่แข่งนอกอาเซียนดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา

 

5. พาแรงกิ้งขยับขึ้นจนกลับมาเป็นที่ 1 อาเซียน

ย้อนไปในเดือนธันวาคม 2023 ซึ่งฟีฟ่าประกาศแรงกิ้งโลกครั้งสุดท้ายก่อนที่ มาซาทาดะ อิชิอิ จะได้โอกาสคุมทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก ในตอนนั้น ทีมช้างศึกรั้งอันดับที่ 113 ของโลก และรั้งอันดับ 2 ของอาเซียนต่อจากเวียดนาม ซึ่งอันดับโลกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว อยู่ที่อันดับ 94 เหนือกว่าไทยอยู่ถึง 19 อันดับ

แต่อิชิอิสามารถพาทีมชาติไทยค่อยๆ เก็บผลการแข่งขันที่ดี จนอันดับขยับขึ้นสู่อันดับ 100 ได้เมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นการติด 100 อันดับแรกของแรงกิ้งฟีฟ่าเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี

แม้อันดับโลกจะหล่นลงมา 1 อันดับเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ทีมไม่มีโปรแกรมแข่งขัน แต่จากการคิดคำนวณอย่างไม่เป็นทางการหลังจากทุกทีมลงเตะเกมสุดท้ายของช่วงเบรกทีมชาติเดือนกันยายนไปแล้ว คาดว่าทีมชาติไทยจะรั้งอันดับที่ 99 ของโลกในเดือนนี้อย่างแน่นอน

ซึ่งถ้าหากทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ ยังรักษามาตรฐานไม่ให้ตก และเก็บผลการแข่งขันที่ดีได้เรื่อยๆ น่าจะช่วยให้แรงกิ้งฟีฟ่าอยู่ในระดับ 18 อันดับแรกของเอเชียได้แน่ และจะเพิ่มโอกาสการลุ้นเข้ารอบลึกๆ ของศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกครั้งต่อไปได้

Pipat Sathirawut

Recent Posts

“เพื่อนร่วมรุ่นฮาก” – “มือขวา อาร์เน่อ” บอก 2 คนนี้เหมือนกันแค่ทรงผม

ฟุตบอลของ เอริค เทน ฮาก และ อาร์เน่ สล๋อต ต่างมีแนวทางของตัวเองกันทั้งคู่ อาจจะไม่ได้เอาสไตล์ที่ถือเป็นศาสตร์เบื้องต้นของฟุตบอลดัตช์ทั้ง 2 แบบ ไม่ว่าจะจาก โยฮัน ครัฟฟ์ หรือ…

14 hours ago

ใครเตะเยอะไป? รู้จักลีกบราซิลสุดโหดหวดหลัก 60 นัดต่อฤดูกาล

ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รูปแบบใหม่ ประเดิมนัดแรกกันไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากเหล่าผู้เล่น ที่มองว่าพวกเขากำลังจะลงเตะ “มากเกินไป” ในหนึ่งฤดูกาล อย่างไรก็ดีในอีกซีกโลก มีลีกประเทศหนึ่งที่เตะกันอย่างดุเดือดในระดับ 50-60 นัดต่อฤดูกาลอยู่เสมอ และ บราซิล ก็คือประเทศนั้น…

18 hours ago

อาร์เตต้าชี้ปืนเตะ UCL วันพฤหัสไม่เสียเปรียบเรือ ยันจัดเต็มเจอ อตาลันต้า

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มของอาร์เซน่อล เผยว่าการที่ต้องลงเตะเกมแรกของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส ที่จะต้องบุกเยือนแชมป์ ยูโรปา ลีก อย่างอตาลันต้าในคืนวันพฤหัสบดี ไม่น่าจะทำให้ทีมปืนใหญ่เสียเปรียบ…

20 hours ago

แปลกกว่าที่เคย : เผยเหตุผล ทำไมปีนี้มีเกม UCL เตะวันพฤหัสบดี

ปกติแล้ว ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มักจะแข่งกันในคืนวันอังคารหรือไม่ก็คืนวันพุธ มีเพียงแค่เกมรอบชิงชนะเลิศที่จะเตะกันในคืนวันเสาร์เท่านั้นที่เตะในวันที่แตกต่างจากรอบปกติ แต่ในฤดูกาลนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกไปจากที่เคยพอสมควร เมื่อจะมีเกม UCL ในคืนวันพฤหัสบดีด้วย โปรแกรม แชมเปี้ยนส์ ลีก วันพฤหัสบดีที่…

23 hours ago

ฮาลันด์พลาดโอกาสโค่นสถิติพี่โด้ หลังยิงงูใหญ่ไม่ได้

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ พลาดโอกาสโค่นสถิติที่ไม่เคยมีใครใกล้เคียงจะโค่นลงได้ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงอย่างน่าเสียดาย หลังจากที่ไม่สามารถมีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้สำเร็จ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส ที่…

24 hours ago

มือขวาอาร์เตต้า รับงานปุ๊ปนั่งดูวีดีโอย้อนหลัง 2 ปี เพื่อแก้เซ็ตพีซโดยเฉพาะ

มิเกล อาร์เตต้า รับงานกับ อาร์เซน่อล และไม่ได้ร้องขอแค่การเสริมทัพเพื่อได้นักเตะที่ถูกต้องตรงปรัชญาเท่านั้น แต่เขายังเรียกร้องการเสริมทีมงานสต๊าฟฟ์ที่แก้ไขจุด่อนทุกทีมที่เคยมี โดยเฉพาะเรื่องของลูกตั้งเตะที่เป็นจุดสลบของทีมมาตลอด กระบวนการสรรหาของ อาร์เซน่อล เริ่มขึ้นหลังจากนั้น คนที่ อาร์เตต้า ร้องขอคือ นิโคลาส โจเวอร์…

1 day ago