เฟอร์กี้ไทม์ของอโมริม : ปาฏิหาริย์จากการคุยกันหลังเกมแพ้อาร์เซนอล

Maruak Tanniyom

December 16, 2024 · 1 min read

เฟอร์กี้ไทม์ของอโมริม : ปาฏิหาริย์จากการคุยกันหลังเกมแพ้อาร์เซนอล
Football | December 16, 2024
เมื่อเฟอร์กี้ไทม์ในยุค อโมริม เกิดขึ้นหลังความพ่ายแพ่ต่ออาร์เซนอล ว่าแต่เขาบอกอะไรกับลูกทีมในวันนั้น?

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผงาดคว้าชัยเป็นนัดแรกในรอบ 3 นัด ทว่าเกมนี้มันคือชัยชนะครั้งสำคัญ เมื่อเป็นการบุกไปยัดเยียดความปราชัยต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งร่วมเมืองถึง เอติฮัด สเตเดียม

ทั้งนี้ นอกจากสนามคะแนนแล้ว สิ่งที่ทำให้แฟนแมนฯยู รู้สึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ คือความกระหายชัยชนะ จนทำให้พวกเขาได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกม เหมือนที่เคยทำได้บ่อยๆ สมัยยุคเซอร์เฟอร์กี้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผงาดคว้าชัยเป็นนัดแรกในรอบ 3 นัด ทว่าเกมนี้มันคือชัยชนะครั้งสำคัญ เมื่อเป็นการบุกไปยัดเยียดความปราชัยต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งร่วมเมืองถึง เอติฮัด สเตเดียม

ทั้งนี้ นอกจากสนามคะแนนแล้ว สิ่งที่ทำให้แฟนแมนฯยู รู้สึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ คือความกระหายชัยชนะ จนทำให้พวกเขาได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกม เหมือนที่เคยทำได้บ่อยๆ สมัยยุคเซอร์เฟอร์กี้

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันมาจากความพยายามและความทุ่มเทของ รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่ของพวกเขา ที่เกิดขึ้นหลังเกมบุกไปพ่ายต่อ อาร์เซนอล

เขาทำอย่างไร? ติดตามไปพร้อมกัน

รูเบน อโมริม เข้ามาคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมีสภาพไม่ต่างจากเรือผุ ด้วยความคาดหวัง หลังเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ สปอร์ติง ลิสบอน ในบ้านเกิด ด้วยการพาทีมคว้าชัย 11 นัดรวมในลีก

ทว่า ช่วงเวลาแห่งการฮันนีมูน ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะแค่เพียงนัดที่ 4 กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาก็ต้องพบกับความปราชัยเป็นครั้งแรก ด้วยการบุกไปพ่ายอาร์เซนอล 2-0 ตามมาด้วยพ่ายคาบ้านต่อ น็อตติงแฮม ฟอร์เรสต์

ทำให้เกมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลายฝ่ายคาดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องตกเป็นรองเจ้าบ้านอย่างแน่นอน หลังเรือใบสีฟ้า กำลังมองหาจุดเปลี่ยน ในฤดูกาลอันเลวร้ายของพวกเขา

อย่างไรก็ดี รูปเกมที่ออกมากลับเหนือคาด เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นได้ดีเกินคาด แถมยังสามารถต่อกรกับคู่แข่งร่วมเมืองของพวกเขาได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะโดน ซิตี้ ยิงประตูออกนำไปก่อน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือพวกเขาไม่ยอมแพ้ ไล่บี้ที่จะทวงประตูคืนอย่างหนัก จนมาได้ 2 ประตูในช่วงท้ายเกม จากจุดโทษของ บรูโน เฟอร์นันเดซ และ อาหมัด ดิยัลโล พลิกแซงคว้าชัยไปได้สำเร็จ

“มันยอดเยี่ยมมาก ผมคิดว่าเราสมควรได้รับชัยชนะ มันเป็นเกมที่ยาก แต่เราก็เชื่อมันจนถึงวินาทีสุดท้าย เราทำประตูได้ เราต้องการชัยชนะนี้ มันสำคัญสำหรับเราและแฟนๆของเรา” อโมริมกล่าวหลังเกม

ทั้งนี้ ชัยชนะดังกล่าวยังทำให้หลายคนนึกไปถึงท่าไม้ตายในอดีตของแมน ยูไนเต็ด อย่าง “เฟอร์กี้ไทม์” หรือการที่พวกเขามักจะเอาชนะคู่แข่งในช่วงท้ายเกม สมัยที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุมบังเหียน

และมันก็ไม่ได้เป็นความบังเอิญ เมื่อ อโมริม ก็ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่เขานั่งลงพูดคุยกับลูกทีมอย่างจริงจัง หลังเกมพ่าย อาร์เซนอล ถึงความเชื่อของทีมที่ขาดหายไป

“เราอยู่กับเกมตลอด 90 นาที และนั่นก็เป็นสิ่งดี” อโมริมกล่าว

“เราได้คุยเกี่ยวกับเกมที่เจอ อาร์เซนอล กัน เราเล่นได้ดีในครึ่งแรก แต่เราไม่เชื่อว่าเราจะจะชนะ แต่วันนี้มันต่างออกไปมากเลยทีเดียว”

“ผมก็เชื่อแบบนั้นเหมือนกัน แล้วเราก็มีเฟอร์กี้ไทม์ เราได้เอาทุกอย่างมาไว้ด้วยกัน ทันใดนั้นสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น มันเป็นวันที่ดีสำหรับเรา”

สำหรับเกมนัดต่อไป ยูไนเต็ด มีโปรแกรมจะพบกับ ท็อตแนมป์ ฮ็อตสเปอร์ ในลีกคัพรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในวันที่ 20 ธันวาคม ก่อนจะกลับไปเปิดบ้านรับการมาเยือนของ บอร์นสมัธ ในอีก 2 วันต่อมา

มันคือจุดเริ่มต้นของ ลูปนรกในช่วง “บ็อกซิ่งเดย์” ที่ปีศาจแดง จะต้องลงเล่น 4 เกมในเวลาแค่ 11 วัน ซึ่งก็ต้องรอดูว่า “เฟอร์กี้ไทม์” จะช่วยชีวิตอโมริม และลูกทีมของเขาได้อีกหรือไม่