ก่อนจะถึง โอลโม : ย้อนรอยคดี ‘โอคาซากิ’ เพิ่งย้ายมา แต่ต้องลาทีมภายในเดือนเดียว

ถือเป็นประเด็นที่สะเทือนตลาดนักเตะรอบนี้ สำหรับกรณีของ ดานี โอลโม กองกลางทีมชาติสเปน ที่อาจจะต้องย้ายออกจากทีมแบบไร้ค่าตัว หลัง บาร์เซโลนา ไม่สามารถลงทะเบียนเขาได้ ซึ่งเป็นผลพวงจากปัญหาทางการเงิน

อย่างไรก็ดี โอลโม ไม่ใช่คนแรก ที่เผชิญกับเรื่องนี้ เพราะครั้งหนึ่ง ชินจิ โอคาซากิ อดีตกองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น ก็ประสบกับชะตากรรมที่คล้ายกันที่ มาลากา ด้วยเหตุผล “หวังน้ำบ่อหน้า” คล้ายกับ บาร์ซา

ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน

แพ้ภัยตัวเอง

ย้อนกลับไปในปี 2018-2019 มาลาก้า อดีตทีมเงินถุงถัง ที่เคยเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ต้องกระเด็นลงมาเล่นใน เซกุนดา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาทางการเงิน ที่ทำให้พวกเขาต้องขายดาวดังของทีมเพื่อพยุงรายได้สโมสร

แต่ถึงอย่างนั้นในปีที่ มาลากา ต้องมาเล่นในลีกรอง อับดุลลาห์ อัล-ธานี ประธานสโมสรชาวซาอุฯ ก็ยังทุ่มเงินไปพอสมควรในการดึงนักเตะมาเสริมทัพ ด้วยความหวังว่าหากพวกเขาได้เลื่อนชั้น สถานการณ์ทางการเงินก็อาจจะคลี่คลาย

น่าเศร้าที่ในฤดูกาลนั้น มาลาก้า ต้องจบในอันดับ 3 ของเซกุนดา ห่างจากโซนเลื่อนชั้นอัตโนมัติ 5 คะแนน แถมในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น พวกเขาต้องพ่ายต่อ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ทั้ง 2 เกม ตกรอบไปอย่างชอกช้ำ

และการใช้เงินแบบหวังน้ำบ่อหน้าของพวกเขา ก็มาส่งผลในฤดูกาลต่อมา

หนึ่งเดือนอันสูญเปล่า

30 กรกฎาคม 2019 มาลาก้า ที่ตอนนั้นยังอยู่ในเซกุนดา เปิดตลาดนักเตะหน้าร้อนได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการคว้าตัว ชินจิ โอคาซากิ อดีตกองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น มาจากเลสเตอร์ ซิตี้ แบบไร้ค่าตัว

หลังจากนั้น เพียงหนึ่งวันหลังลงเล่นในเกมกระชับมิตรกับ คอร์โดบา ดาวยิงเลือดซามูไร ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสโมสร ในสีเสื้อของ มาลาก้า พร้อมด้วยหมายเลข 23 ที่กลางหลัง ซึ่งเป็นหมายเลขนำโชคที่เขาใส่มาตั้งแต่ตอนค้าแข้งในบ้านเกิด

การย้ายมาอยู่กับ มาลาก้า ของ โอคาซากิ ได้รับการต้อนรับที่ดีจากแฟนบอลที่นี่ เมื่อเสื้อหมายเลข 23 ที่สกรีนชื่อของเขาเป็นภาษาญี่ปุ่น (おかざき）กลายเป็นสินค้าขายดีของช็อปสโมสร และทำยอดไปกว่า 300 ตัวในวันแรก ๆ

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความชื่นมื่น เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยปัญหา เมื่ออันที่จริง มาลาก้า ยังไม่สามารถลงทะเบียน โอคาซากิ ได้ จากปัญหาทางการเงิน รวมถึงยังเป็นหนี้สูงถึง 25 ล้านยูโร

แม้ว่า มาลาก้า จะพยายามดิ้นรน แต่โจทย์เดียวที่พวกเขาแก้ก็คือ สโมสรต้องสร้างรายได้ให้มากกว่า 8 ล้านยูโร ก่อนจะถึงเส้นตาย เพื่อจะสามารถลงทะเบียน โอคาซากิ ได้ แน่นอนว่ามันเป็นภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ และสุดท้ายมันก็เป็นอย่างนั้น

3 กันยายน 2019 หรือ 34 วันหลัง มาลาก้า เซ็นสัญญากับ โอคาซากิ พวกเขาต้องจำใจปล่อยตัวดาวยิงชาวญี่ปุ่นออกจากทีม หลังไม่สามารถหาเงินได้ตามกำหนด

ทั้งนี้ โอคาซากิ ไม่ใช่นักเตะรายเดียว ที่ถูก มาลาก้า ปล่อยตัวทั้งที่เพิ่งเซ็นสัญญา เพราะ ลอเรนโซ กอนซาเลซ ที่เพิ่งได้มาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เผชิญกับชะตากรรมที่ไม่ต่างจาก อดีตกองหน้า ไมนซ์ 05

ตลกร้ายที่หลังจาก โอคาซากิ ชวดโอกาสลงเล่นให้ มาลาก้า เขาได้ย้ายไปอยู่กับ ฮูเอสกา ใน เซกุนดา ก่อนจะโชว์ฟอร์มโหด ยิงไป 12 ประตูจาก 37 เกม พาทีมคว้าแชมป์ลีก พร้อมได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในลาลีกา

ส่วน มาลาก้า ต้องเรียกว่าแทบตรงข้าม เพราะหลังฤดูกาลนั้น ฟอร์มของพวกเขาก็ดิ่งลงเหว จนกลายเป็นทีมหนีตกชั้นในลีกรอง ก่อนที่ในซีซั่น 2023-2024 พวกเขาก็ต้องกระเด็นลงไปเล่นในพรีเมรา เฟเดอเรชัน หรือลีกระดับ 3 ของสเปนอย่างชอกช้ำ