ครั้งหนึ่งเขาคือแข้งดาวรุ่ง ที่ถูกเปรียบกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ดาวเตะระดับตำนานของโปรตุเกส
อย่างไรก็ดี ตอนนี้ คาอัสโซ ดาราเม นี้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อเขาเปลี่ยนสถานะตัวเอง จากนักเตะพรีเมียร์ลีก มาเป็นอาชญากรค้ายา และเพิ่งถูกจำคุกจากคดีแทงคน
เกิดอะไรกับชีวิตของเด็กหนุ่มรายนี้ ติดตามไปพร้อมกัน
แม้ว่าชื่อของ คูอัสโซ ดาราเม อาจจะไม่คุ้นหูแฟนบอลมากนัก แต่เขาคือหนึ่งในแข้งดาวรุ่งน่าจับตาในทีมเยาวชนของ สวอนซี ซิตี้ สมัยที่ยังอยู่ในพรีเมียร์ลีก
ดาราเม ย้ายจากโปรตุเกส มาอยู่ที่เวลส์ ตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี ด้วยความฝันที่จะค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก แม้ว่าตอนนั้นเขาจะมีอีกตัวเลือกก็คือไปคัดตัวกับ สปอร์ติง ลิสบอน ยักษ์ใหญ่แห่งโปรตุเกสก็ตาม
“ผมมาที่นี่ตอนอายุ 11 ปี การย้ายทีมช่วยผมในหลายเรื่องทั้งวินัยและการเรียน” ดาราเมกล่าวกับ swanseacity.com
“ตอนนั้น ผมไม่ได้อยากย้าย เพราะว่าผมกำลังจะไปคัดตัวกับอคาเดมีของ สปอร์ติง ลิสบอน และมันก็มีโอกาสมากที่พวกเขาจะเซ็นสัญญากับผม”
“แต่แม่ของผมก็ยืนกรานและทำให้ผมเชื่อมั่นว่าการย้ายทีมนี้จะดีแน่ และจะทำให้ผมสามารถหาสโมสรในอังกฤษเพื่อลงเล่นได้”
ดาราเม ที่เล่นในตำแหน่งปีก มีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็วและความคล่องแคล่วในการเลี้ยงบอล จนทำให้เขาเปรียบตัวเองกับคริสเตียโน โรนัลโด้ เพื่อนร่วมชาติโปรตุเกส และ เนย์มาร์ สตาร์ของบราซิล
“ผมพยายามเล่นเหมือน โรนัลโด้ หรือ เนย์มาร์ พวกเขาเป็นนักเตะที่ผมดูมาตั้งแต่เด็ก” ดาราเม กล่าว
“โรนัลโด้ เป็นฮีโรของผม หลักการทำงานหนักของเขาเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเตะอายุน้อยเหมือนผม ผมอยากเป็นให้ได้เหมือนเขา”
หลังจากนั้นไม่นาน ดาราเม ก็ก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกของทีม U18 ของสวอนซี ซิตี้ และได้รับโอกาสลงเล่นไป 25 นัด ก่อนจะได้รับสัญญาอาชีพตอนอายุครบ 18 ปี
ทว่า ชีวิตของเขาตอนนี้ กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ผ่านเวลามา 7 ปี นับตั้งแต่ได้สัญญาอาชีพครั้งแรก ตอนนี้ ดาราเม ไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพอีกแล้ว เมื่อเขาเพิ่งถูกสั่งจำคุกจากคดีจี้ปล้น และแทงผู้อื่น จนทำให้เหยื่อต้องกลายเป็นอัมพาต
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงตี 3 ของวันที่ 12 พฤษภาคม 2023 เมื่อ ดาราเม ที่อายุ 23 ปีในตอนนั้น และพวก ได้ใช้มีดจี้เพื่อปล้นเอาสร้อยคอ และสร้อยข้อมือ จาก รอนนี อีแวนส์ เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ใกล้ร้าน KFC ในมณฑลแฮมป์เชียร์ของอังกฤษ
อีแวนส์ พยายามหนี แต่โชคร้ายเขาดันล้มลง ก่อนจะโดน ดาราเม ใช้มีดแรมโบ้ขนาดใหญ่แทงไปที่ขา แล้วกระชากสร้อยหนีไป
แม้ว่า อีแวนส์ จะรอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้น แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องเป็นอัมพาตตั้งแต่หัวเขาลงไป ที่ทำให้เขาต้องใส่เฝือกช่วยเดินไปตลอดชีวิต
การบาดเจ็บ ยังทำให้ อีแวนส์ ไม่สามารถประกอบอาชีพช่างไฟฟ้าฝึกหัดต่อไปได้ รวมถึงเล่นกีฬาที่เขารักอย่าง เทนนิส ได้อีกแล้ว
ขณะที่ ดาราเม ถูกจับหลังจากนั้นไม่นาน ก่อนจะถูกตัดสินลงโทษจำคุก 4 ปี 4 เดือน จากข้อหาปล้นทรัพย์ และอีก 3 เดือนในข้อหาครอบครองอาวุธมีด
อันที่จริง นี่ไม่ใช่อาชญากรรมครั้งแรกที่ ดาราเม ก่อขึ้น เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเขาได้ผันตัวไปเป็นพ่อค้ายาเสพติด ทั้ง โคเคน และ เฮโรอีน มาก่อน
อะไรที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้
ย้อนกลับไปตอนอายุ 18 ดาราเม เต็มไปด้วยความฝัน เพราะเขากำลังก้าวไปสู่บันไดขั้นแรก ที่จะตามรอย โรนัลโด้ ฮีโรของชาติ และตัวเขาเองในฐานะนักเตะระดับพรีเมียร์ลีก
ทว่าความจริงกับความฝัน กลับต่างไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อ ดาราเม ไม่สามารถเบียดขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของ สวอนซี ได้ ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกไป หลังหมดสัญญาในปี 2018
แม้ว่าเขาจะกลับไปเล่นให้ ดาไมเอนเซ ในบ้านเกิด แต่ก็ยังไม่ได้รับโอกาสลงสนาม จนต้องย้ายมาเล่นให้ทีมในลีกรองเยอรมัน ทว่าก็ไม่สามารถทำผลงานได้มากนัก
ความล้มเหลวซ้ำๆ เหล่านี้ สร้างความเจ็บปวดให้ ดาราเม มาก และทำให้เขาเริ่มหันเหเข้าสู่ทางที่ผิด นั่นก็คือการใช้ยาเสพติด อดีตเยาวชนสวอนซี จมดิ่งไปกับมัน จนในที่สุดมันก็กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
“ทั้งหมดดูเหมือนว่าจะเป็นทุกสิ่งที่เคยฝันไว้ มันเกือบจะผลิดอกออกผล และมอบทุกสิ่งที่คุณ ดาราเมเคยหวังเอาไว้” ดาเนียล ไรล์ลี ทนายของดาราเมกล่าวกับศาล
“เขาไม่มีความสามารถที่จะพัฒนาขึ้นไป และเมื่อสัญญา 2 ปีหมดลง ซึ่งนำมาถึงจุดสิ้นสุดของช่วงเวลานั้น กลับไม่มีการหารือกับเขามาก่อน หรือเรื่องการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขาจากนายจ้าง”
บวกกับที่ช่วงเวลาดังกล่าว เขาเพิ่งจะได้ลูกคนแรก มันยิ่งทำให้เขาได้รับความกดดันในฐานะหัวหน้าครอบครัว จนกลายเป็นต้นเหตุของคดีอันโหดร้าย
“คุณดาราเมรู้สึกว่าเขาต้องเป็นผู้เลี้ยงดูครอบครัว เขาคิดว่าตัวเองล้มเหลวในบทบาทนั้นในครอบครัว และนั่นคือจุดที่ทำให้เขาต้องดิ้นรน” ไรล์ลีอธิบาย
“นั่นคือจุดที่ทำให้ยาเสพติดเข้ามา พร้อมกับการแนะนำให้รู้จักกับคนอื่น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคุณดาราเมมาก่อน”
ทั้งนี้ ในวันพิจารณาคดี ดาราเม ได้แต่นิ่งเงียบ และไม่ได้แสดงปฏิกริยาใดๆ ต่อคำพิพากษา ราวกับว่าได้ยอมรับผลกรรมต่อสิ่งที่กระทำลงไป โดยไม่มีเงื่อนไข
เรียกได้ว่าเป็นไวรัลอีกแล้ว เมื่อ ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนานนักเตะของสโต๊ค ซิตี้ และลิเวอร์พูลหรือแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มักถูกแฟนบอลแซวเรื่องคำวิจารณ์และทายผลลัพธ์ต่างๆ อยู่เสมอว่าความแม่นยำไม่ค่อยมีนั้น ได้ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป็ป…
แม้ว่าในเกมล่าสุดที่อาร์เซนอลสามารถบุกไปเอาชนะคริสตัล พาเชซ มาได้ด้วยสกอร์สุดสวย 5-1 แต่ถ้ามองในรายละเอียดเกมทั้งหมดก็จะเห็นว่าอาร์เซนอลยังมีความผิดพลาดอยู่บ้างเล็กน้อยโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก หนึ่งในจังหวะหวาดเสียวที่สุดคือในนาทีที่ 10 ที่อาร์เซนอลพยายามจะบิ้วอัพจากหลังแต่คริสตัล พาเลซก็สามารถเพลสซิ่งได้ดี ในขณะนั้นบอลอยู่กับ เดบิด ราย่า เขามองขึ้นหน้าและเลือกจ่ายบอลไปให้ โธมัส ปาเตย์…
ถ้าพูดถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงนี้ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย มีทั้งฝั่งที่เห็นใจ เข้าใจ และฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแรชฟอร์ด ในส่วนของฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับแรชฟอร์ดต่างบอกว่าต้องการให้แรชฟอร์ดย้ายออกจากทีมไปและไม่ว่าทีมไหนที่ได้ตัวไป นั้นจะเป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งนี่อาจจะเป็นความคิดเห็นที่สุดโต่งไปหน่อยและไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้นเช่นกันกับ เอียน ไรท์ อดีตตำนานกองหน้าของอาร์เซนอล ที่ออกแสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ผมย้ายไปอาร์เซนอลตอนอายุ…
วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (20 ธันวาคม 2562) มิเกล อาเตต้า ถูกแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ หลังปลด อูไนเอเมรี่ การทำงานตลอด 5 ปี ภายใต้…
“ความคิดของผมเกี่ยวกับ กิว คือ บาร์เซโลนา ปล่อยเขามาได้อย่างไร?” โจ โคล อดีตมิดฟิลด์ของเชลซีกล่าว เชลซี ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมฟุตบอลสโมสรยุโรป หลังไล่ถล่ม แชมร็อค โรเวอร์ส 5-1 ในศึกยูฟ่า…
ควันหลงจากเกมคาราบาว คัพที่สเปอร์สเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้สุดมันส์ 4-3 โดยในเกมนี้มาเรื่องดราม่ามากมายหลายประเด็น ในทุกคนรู้หรือไม่ว่าในระหว่างเกมที่เดือดไฟลุกแบบนี้มีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆสนามและนั้นก็ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญนั้นคือก็ลูกโป่งสีเหลืองที่แฟนๆสเปอร์สร่วมกันชูขึ้น ว่าแต่ว่าลูกโป่งสีเหลืองคืออะไร พวกเขาส่งสัญญาณถึงใคร มาค่อยๆไล่เลียงกันไปครับ เกิดอะไรขึ้น? ย้อนกลับไปในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาเกิดการลักพาตัวประชาชนชาวอังกฤษขึ้นหลายคนไปฉนวนกาซา และหนึ่งในนั้นคือ Emily…