ผลจับสลาก แชมเปี้ยนส์ ลีก 2024-25 ถ้าแต้มเท่ากัน จัดอันดับยังไง?

ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2024-25 ได้ทำการจับสลากกำหนดคู่เตะของทั้ง 36 ทีม ในการแข่งขันรูปแบบใหม่เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา

การจับสลากในซีซั่นนี้ถือเป็นเรื่องแปลกตาสำหรับแฟนบอลมากๆ เพราะไม่มี “รอบแบ่งกลุ่ม” แบบที่ทุกทีมในแต่ละกลุ่มพบกันหมดเหมือนก่อน แต่ว่าทั้ง 36 ทีมจะเจอโปรแกรมการแข่งขันที่ไม่เหมือนกันเลย โดยแต่ละทีมจะได้ลงเตะทีมละ 8 นัดเท่ากัน ทว่าโปรแกรม 8 นัด จะพบกับคู่แข่งที่แตกต่างกันทั้ง 8 เกม

ยกตัวอย่างเช่นแชมป์เก่าอย่าง เรอัล มาดริด มีเกมที่ต้องบุกไปเยือนลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ แต่พวกเขาไม่ได้มีโปรแกรมลงเจอทีมหงส์แดงที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว แต่อย่างใด ซึ่งทุกทีมจะได้โปรแกรมลงเล่นในบ้านทีมละ 4 นัด และไปเยือนทีมละ 4 นัดเท่ากัน แต่ว่าเกมในบ้านจะยากหรือง่ายนั้น ก็ขึ้นอยู่กับวาสนาตามแต่ที่คอมพิวเตอร์จะสุ่มโปรแกรมออกมา

อย่างไรก็ตาม ในการจับสลากยังคงมีการจัดลำดับโถอยู่ ซึ่งทีมแชมป์เก่าจะอยู่ในโถแรก หลังจากนั้นก็จะจัดลำดับตามค่าสัมประสิทธิ์แรงกิ้งของแต่ละสโมสร ทุกทีมจะได้เจอคู่แข่งจากทั้ง 4 โถ โถละ 2 ทีม (การเจอ 2 ทีมจากแต่ละโถ จะแบ่งเป็นเกมเหย้า 1 นัด และเกมเยือนอีก 1 นัด)  นั่นหมายความว่าจะมีข้อแตกต่างจากเดิม ตรงที่ในรูปแบบการแข่งขันใหม่นี้ ทีมในโถเดียวกันจะเจอกันเองได้ จากเดิมที่ทีมใหญ่ๆ ในโถแรกจะยังไม่มีโอกาสพบกันในรอบแรก

ทุกทีมจะมีโปรแกรมแข่ง 8 นัดเท่ากัน และระดับความยาก-ง่ายค่อนข้างใกล้เคียงกัน โดยทั้ง 36 ทีมจะถูกจัดตารางคะแนนอยู่ในลีกเดียวกัน ทีมที่คว้าอันดับ 1-8 จะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์โดยทันที ส่วนทีมอันดับที่ 9-24 จะต้องไปเพลย์ออฟกัน (ทีมอันดับ 9-16 จะเป็นทีมวางในรอบเพลย์ออฟ ไม่เจอกันเอง และจะได้เล่นในบ้านในเลกสอง) ขณะที่ทีมอันดับ 25-36 จะต้องตกรอบ โดยไม่มีโอกาสลงไปเล่นในรายการ ยูโรปา ลีก แบบเดิมอีกแล้ว

เผยเกณฑ์จัดอันดับ ถ้าแต้มเท่ากัน ดูอะไรก่อน?

คาดว่าสิ่งที่หลายคนสงสัย ก็คือถ้าหากเกิดกรณีที่มีทีมแต้มเท่ากัน จะมีเกณฑ์การจัดอันดับอย่างไร

เพราะจากเดิมที่เป็นในรูปแบบรอบแบ่งกลุ่ม แบ่งเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แล้วให้ทั้ง 4 ทีมในกลุ่มนั้นพบกันหมด จะใช้วิธีเอา “เฮด ทู เฮด” หรือผลการแข่งขันในการเจอกันเองมาชี้วัดว่าใครดีกว่ากัน

แต่ถ้าเป็นในรูปแบบใหม่นี้ ที่แต่ละทีมจะมีโปรแกรมการแข่งขันที่แตกต่างกัน ทำให้บางทีมที่คะแนนเท่ากัน อาจไม่มีโอกาสเจอกันเองเลยก็ได้ ซึ่งทางยูฟ่าได้สรุปลำดับเกณฑ์การจัดอันดับบนตารางคะแนน สำหรับทีมที่มีแต้มเท่ากันดังนี้

1. ดููผลต่างประตูได้-เสีย

2. ดูจำนวนประตูได้

3. ดูจำนวนประตูที่ทำได้ในเกมเยือน

4. ดูจำนวนนัดที่ชนะ

5. ดูจำนวนนัดที่ชนะในเกมเยือน

6. แต้มของทีมคู่แข่ง 8 นัดรวมกัน

7. ผลต่างประตูของทีมคู่แข่ง 8 นัดรวมกัน

8. จำนวนประตูที่ทีมคู่แข่งทั้ง 8 นัดทำได้รวมกัน

9. คะแนนวินัย (โดนใบแดง – 3 คะแนน, โดนใบเหลือง – 1 คะแนน, ถ้าหากโดนใบเหลือง 2 ใบในเกมเดียว – 3 คะแนน ถ้าหากโดนใบเหลืองก่อน แล้วตามด้วยใบแดงโดยตรง – 4 คะแนน)

10. ค่าสัมประสิทธิ์สโมสรของยูฟ่า

จะเห็นได้ว่า การปรับรูปแบบการแข่งขันใหม่ของยูฟ่า จะทำให้ทุกนัดมีความหมายและส่งผลต่ออันดับบนตารางคะแนนอย่างแท้จริง ซึ่งการลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์จะเป็นเรื่องที่ขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นและสูสีขึ้นมากแน่นอน จากเดิมที่ทีมใหญ่ๆ มักจะตุนแต้มผ่านเข้ารอบไว้ตั้งแต่ลงเตะไปแค่ 4 นัด จนทำให้หลายๆ เกมในรอบแบ่งกลุ่มกลายเป็นเกมที่ไร้ความหมาย

แต่ในรูปแบบใหม่ ซึ่งใช้เกณฑ์ใหม่ นอกจากแข่งขันกันเก็บแต้มแล้ว แต่ละทีมยังต้องพยายามทำประตูตุนไว้ให้มากๆ ด้วย เพื่อความได้เปรียบในการจัดอันดับ และตราบใดที่สถานการณ์บนตารางคะแนนยังไม่อาจวางใจได้ว่าอยู่ใน 8 อันดับแรกแน่ๆ ก็ยังต้องพยายามคว้าผลการแข่งขันที่ดีให้ได้ตลอดเพื่อผ่านเข้ารอบให้ได้

สำหรับศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีก ฤดูกาล 2024-25 จะเริ่มทำการแข่งขันนัดแรกในช่วงกลางสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน (อังคารที่ 17 กันยายน – พฤหัสบดีที่ 19 กันยายน)