ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาชื่อของ เร็กซ์แฮม ทีมจากนอกลีกของอังกฤษเป็นที่รู้จักมากขึ้นมากๆ เพราะไรอัน เรย์โนลด์ส และ ร็อบ แม็กเอลเฮนนีย์ ซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดมาซื้อกิจการไปบริหารด้วยเงินประมาณ 2 ล้านปอนด์
และนี่ไม่ใช่การลงทุนเพื่อความสนุก แต่พวกเขามีแพชชั่นและทุ่มเทกับสโมสรแห่งปีเป็นอย่างมาก และด้วยเวลาแค่ 2 ปี เร็กซ์แฮม ก็สามารถก้าวขึ้นมาสู่ลีกวันได้สำเร็จ
เร็กซ์แฮม พัฒนาขึ้นมากๆภายใต้การบริหารของนักแสดงเจ้าของบทบาท เดดพูล นี้ แต่ที่บอกว่าพัฒนาไม่ได้มีแค่ในสนาม แต่นอกสนามพวกเขาก็ใส่ใจด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือการสร้างอะคาเดมี่ของตัวเอง แต่โปรเจคนี้อาจจะไปไม่รอดแล้ว
ตามรายงานที่ได้ว่าบอกว่า ทั้ง 2 คนมองไปที่โรงเรียนมัธยมดาร์แลนด์ในชุนรอสเซ็ตต์ เพื่อลงทุนมูลค่าหลายล้านปอนด์สำหรับโครงการอะคาเดมี่ แต่แผนนี้ได้รับการตอบสนองเชิงลบจากชาวบ้าน
โดยพวกเขาได้มีการร่างจดหมายไปที่สภาเมืองเร็กซ์แฮมใจความว่า
“สิ่งที่ทั้ง 2 คนนั้นต้องการจะทำทั้งรูปลักษณ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ไม่สอดคล้องกับพื้นที่สีเขียวของเรา การพัฒนาของพวกเขาขัดกับคำแนะนำและนโยบายพื้นที่สีเขียว”
“โรงเรียนจะสูญเสียพื้นที่ที่ใช้ในการฝึกซ้อมกีฬาอื่นๆบางส่วน นี่ไม่ใช่การพัฒนา แต่เป็นการย้อนหลัง สภาควรให้พวกเขาหยุดจนกว่าจะมีการพิจารณาใหม่ การพัฒนาไม่ก่อประโยชน์กับชุมชนรอสเซ็ตต์ของพวกเรา”
และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทั้ง ไรอัน เรย์โนลด์ส และ ร็อบ แม็กเอลเฮนนีย์ ได้มีการพูดคุยกับสภาท้องถิ่นบ้างแล้วโดย ไรอัน เรย์โนลด์ส บอกว่า
“ผมคิดว่าระบบราชการที่หนาแน่นนั้นคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในเวลส์ มันทำให้เป็นเทปสีแดง (เปรียบเทียบเส้นทางสีแดงในแผนแอพแผนที่) เราต้องหาวิธีการแก้ไขคำถามของทุกคนทั้งหมดและทำให้แน่ใจว่าข้าราชการ ชาวบ้าน ทุกคนมีความสุข”
เช่นกันกับ ร็อบ แม็กเอลเฮนนีย์ เขาก็บอกไว้ว่า
“มันเป็นเรื่องที่น่าตลกมากถ้าคุณรู้ว่าเราต้องเจอกับระบบราชการบ่อยแค่ไหน การสร้างบางสิ่งบางอย่างในสหราชอาณาจักรยากกว่าทุกที่บนโลก”
ต้องมาติดตามกันต่อครับว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถหาตรงกลางกันได้ไหม เพราะทั้ง 2 มุมต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง และก็หวังดีกับพื้นที่ของตัวเองทั้งคู่ การพูดคุยกันจะเกิดขึ้นแน่นอน
ควันหลงเกมแดงเดือดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสามารถบุกแบ่งแต้มลิเวอร์พูลมาได้ 2-2 แบบเหนือความคาดหมาย ในฝั่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่นอนว่าพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข ผลการแข่งขันในวันนี้แม้จะเป็นเพียงผลเสมอ นั้นก็น่าพอใจแล้วสำหรับพวกเขา ต่างกันกับฝั่งของลิเวอร์พูล ที่ถือว่านี่คือผลงานที่น่าผิดหวัง และแน่นอนเมื่อเป็นแบบนั้นก็มักจะมีนักเตะที่ตกเป็นเป้าโจมตีของแฟนบอลเสมอ เช่นกันกับวันนี้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์…
สำหรับนักฟุตบอล ไม่มีใครอยากได้ใบแดง เพราะนอกจากจะไม่ได้เล่นต่อแล้ว ยังทำให้ทีมต้องเสียเปรียบ ด้วยจำนวนผู้เล่นที่น้อยกว่า แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับกรณีของ ดาวี คลาสเซน กองกลางกัปตันทีมของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เมื่อเขาได้รับใบแดง แต่กลับได้เล่นต่อจนจบเกม เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน…
ท่ามกลางเหตุการณ์ดราม่าในนัดชิงชนะเลิศศึกอาเซียนคัพ ที่ทีมชาติเวียดนามเอาชนะทีมชาติไทยไปด้วยสกอร์รวม 5-3 ในจังหวะที่ทีมชาติไทยได้ประตูขึ้นไป 2-1 จาก สุภโชค สารชาติ ในจังหวะนั้นกรรมการในสนามมีการเป่าหยุดเกมทำให้ทีมชาติเวียดนามหยุดชะงัก แต่ทีมชาติไทยก็อาศัยจังหวะนั้นเล่นเร็วและทำประตูเข้าไป ซึ่งสร้างความไม่พอใจทีมชาติเวียดนามเป็นอย่างมาก แต่กรรมการก็ต้องให้เป็นประตูไปเพราะไม่มีกฎที่ห้ามทำแบบนั้น เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเหมือนและเป็นรายการใหญ่อย่าง เอฟเอ คัพ…
ท่ามกลางโปรแกรมการแข่งขันมากมายหลายคู่ในพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนนี้ เกมระหว่างเซาแธมป์ตันกับเบรนท์ฟอร์ดคงจะเป็นคู่ที่คนสนใจน้อยที่สุด และในเกมนี้เจ้าบ้านอย่าง ‘นักบุญ’ เซาแธมป์ตันแพ้ไปถึง 5-0 แน่นอนว่านี่คือผลงานที่น่าผิดหวังมากๆสำหรับเจ้าบ้าน มันแย่ไปหมดทั้งรูปเกม วิธีการ ผลการแข่งขัน เรื่องในสนามเรียกได้ว่าแหลกสลายไม่มีชิ้นดี แต่ในสนามก็เรื่องหนึ่งซึ่งนักเตะและทีมงานทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันและแก้ไขให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปเร็วที่สุด แต่มันคนละเรื่องกับนอกสนามที่มันควรจะเป็นช่วงเวลาที่นักเตะได้พัก ‘ร่างกายและจิตใจ’ แต่ไม่ใช่กับ…
เรียกว่าเวลาเหมาะเจาะเหลือเกินสำหรับการเปิดเผยข้อมูลว่าทำไม มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าระดับเสี่ยของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงโดน รูเบน อโมริม โค้ชคนปัจจุบันตัดชื่อทิ้ง 4 เกมรวด ก่อนที่จะกลับมามีชื่อในเกมเปิดบ้านรับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด…
ในทุกๆตลาดซื้อขายมักจะมีคำถูกอยู่คำหนึ่งที่ถูกหยิบเอาใช้ทุกครั้งคือ ‘ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้’ ไม่ว่าจะเป็นทีมไหนย้ายไปทีมไหนก็สามารถย้ายไปได้ ความยากความง่ายก็จะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ แต่นั้นอาจจะข้อยกเว้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับลิเวอร์พูล เพราะนี่คือคีปรับตลาดที่มีประวัติศาสตร์มากกว่าแค่เรื่องฟุตบอล ดังนั้นการที่ย้ายไปทีมตรงข้ามโดยตรงแทบไม่ต่างการกระโดดเข้ากองไฟ แต่ใครจะเชื่อว่าครั้งหนึ่ง กาเบรียล ไฮน์เซ่ อดีตกองหลังทีมชาติอาร์เจนติน่าที่ในช่วงเวลานั้นค้าแข้งอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเคยต้องการและเกือบมากๆที่จะย้ายไปลิเวอร์พูล ย้อนกลับไปในช่วงเวลาปี 2007…