ครั้งหนึ่ง ตง ฟางโจว ได้รับการยกย่องในฐานะนักเตะประวัติศาสตร์ หลังจรดปากกาเซ็นสัญญากับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ทว่า กว่า 4 ปีในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด นักเตะชาวจีนผู้นี้ไม่เคยเข้าใกล้กับความว่าประสบความสำเร็จ แถมหลังจากนั้น ยังมีข่าวลือว่าเจ้าตัวต้องไปศัลยกรรมเพราะอับอายกับชีวิตนักฟุตบอล
เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตนักเตะที่เคยถูกมองว่าเป็นความหวังใหม่ของวงการฟุตบอลจีนรายนี้กันแน่? ติดตามไปพร้อมกัน
แม้ว่าในปัจจุบัน ตง ฟางโจว อาจจะไม่ใช่ชื่อคุ้นหู แต่หากย้อนกลับไปเมื่อกว่า 10 ปีก่อน เขาคือนักเตะที่ผู้คนจับจ้อง หลังสร้างประวัติกลายเป็นนักเตะจีนคนแรกที่ได้เซ็นสัญญากับ แมนเชสเเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยวัยเพียง 18 ปี
ในตอนแรก เขาถูกมองว่านี่น่าจะเป็นความหวังใหม่ของวงการฟุตบอลแดนมังกร เพราะถึงขนาดได้รับการยอมรับจากยักษ์ใหญ่ปีศาจแดง ที่มีกุนซือระดับตำนานคุมทัพ ทว่า เมื่อเวลาผ่านไป ก็ได้รู้ว่านี่เป็นเพียงแค่การตลาดเท่านั้น
“เขาถูกซื้อในช่วงที่เวลาที่เหมาะสมสำหรับฟุตบอลจีน แต่เขายังห่างไกลจากการเป็นนักเตะที่มีตัวตน” แบรนดอน เชมเมอร์ หัวหน้าบรรณาธิการ Wild East Football กล่าวกับ Bleacher Report
“เขาเพิ่งอายุ 18 และเพิ่งเล่นเกมลีกไม่กี่เกม มันเป็นความรู้สึกว่าเขาถูกเซ็นมาเพื่อขายเสื้อ”
ตลอด 4 ปีในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ตง ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการถูกปล่อยให้ รอยัล อันเวิร์ป ยืมตัว และได้ลงเล่นให้ปีศาจแดงไปเพียงแค่ 1 เกมเท่านั้น ก่อนจะลาทีมไปในปี 2008
อย่างไรก็ดี ชีวิตหลังจากนั้นกลับเลวร้ายกว่าที่คิด
ปกติแล้วนักเตะส่วนใหญ่ที่ไปค้าแข้งในยุโรป มักจะกลับมาพร้อมกับฝีเท้าที่พัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน แต่สำหรับ ตง อาจเป็นข้อยกเว้น เมื่อเขาไม่สามารถโชว์พิษสงในสีเสื้อ ตาเหลียน ซรือเต๋อ ได้เลย ด้วยสถิติ 0 ประตูจาก 26 นัด ใน 2 ซีซั่น
แม้ว่าหนึ่งในสาเหตุคืออาการบาดเจ็บ ที่เรื้อรังมาตั้งแต่เล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จนทำให้เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างที่คาดหวัง แต่อีกปัจจัยเสริมก็คืออีโก้ทะลุเพดานของเขา
“ทัศนคติของเขามันผิด หลังการเล่นที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตงคิดว่าทุกอย่างคงดำเนินไปอย่างง่ายดาย และตอนที่เขากลับมาที่จีน เขาจะเป็นนักเตะที่เก่งที่สุด” ซู เหมาเฉิน อดีตแข้งจีนที่เคยมาทดสอบฝีเท้ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าว
“นั่นมันไม่จริง คุณต้องแสดงให้เห็นพรสวรรค์ในทุกที่ ผู้เล่นที่ดีจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอทั้งในการฝึกซ้อมและชีวิตปกติ ผมคิดว่าเขาน่าจะไม่มีคนบอกว่าควรจะใช้ชีวิตอย่างไรเมื่อไม่มีฟุตบอล”
นอกจากนี้ เขายังถูกวิจารณ์จากเรื่องพฤติกรรมก้าวร้าวนอกสนาม จนทำให้ครั้งหนึ่งเขาต้องถูกแบนยาวถึง 6 เกม หลังไปชูนิ้วกลางใส่แฟนบอล
“ความรับผิดชอบของเขาถูกตั้งคำถามจากสื่อเป็นประจำ เขาแสดงให้เห็นเป้าหมายที่สูงขึ้นเพียงเล็กน้อย” คริสโตเฟอร์ แอตกินส์ ตัวแทนของนักเตะที่จีนกล่าวกับ Bleacher Report
“เขาทำให้ตัวเองมีปัญหาในฤดูกาลนั้น ถูกแบน 6 นัดหลังไปชูนิ้วกลางให้แฟนบอลของสถาบันเทคโนโลยีปักกิ่ง หลังจากถูกเยาะเย้ยตอนที่ถูกไล่ออก”
ขณะเดียวกัน ตง ยังขึ้นชื่อในฐานะนักเตะจอมปาร์ตี้ เขาหลงใหลในของมึนเมาและแสงสี จนทำให้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งได้เลย ตอนกลับมาค้าแข้งในบ้านเกิด
สุดท้าย ตง ก็ฝึนสภาพตัวเองไม่ไหว ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2014 ด้วยวัยเพียง 29 ปี ซึ่งถือว่าน้อยมาก สำหรับผู้เล่นที่ครั้งหนึ่งเคยไปค้าแข้งในยุโรป และไม่มีใครได้ยินข่าวคราวของเขาอีกเลยหลังจากนั้น
ตง กลายเป็นแข้งที่ถูกลืม จนกระทั่งในปี 2015 เขาก็ถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังมีชื่อเป็นผู้ร่วมรายการของจีน เพื่อทำศัลยกรรมพลาสติก ท่ามกลางข่าวลือว่าเขาไม่อยากให้ใครจำได้ เนื่องจากอับอายกับชีวิตนักฟุตบอล
และหลังจากหายหน้าไปสื่ออยู่พักใหญ่ ตง ก็ออกมาพูดเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในปี 2019 และยืนยันว่าข่าวลือทั้งหมด ไม่มีเค้าโครงของความจริงแม้แต่น้อย
“ผมแค่ลองแต่งหน้าง่าย ๆ ถ้าคุณบอกว่าผมไปทำศัลยกรรมมา มันคงเป็นการศัลยกรรมที่ล้มเหลว” ตง กล่าวกับ AFP เมื่อปี 2019
เนื่องจากงานที่ ตง ทำอยู่ฉากหลัง ก็ยังข้องเกี่ยวกับฟุตบอลที่เขารัก นั่นก็คือการเป็นโค้ชฟุตบอลให้กับเด็กเล็กและเด็กพิการที่ เซี่ยเหมิน ประเทศจีน
มันเป็นงานที่เขารักและภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นฟันเฟืองเล็กๆ ในการพัฒนาฟุตบอลจีน แม้ว่ามันจะห่างไกลจากความรู้สึกของการได้เป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกก็ตาม
“ผมรู้สึกถึงความบริสุทธิ์ในสายตาและจิตใจของพวกเขา” ตงกล่าว
“แม้ว่าพวกเขาอาจจะมีข้อจำกัดทางร่างกาย แต่สมาธิและความจริงจังของพวกเขา แพชชั่นเหล่านั้นทำให้ผมซาบซึ้งจริงๆ”
นอกจากนี้ปลายปี 2023 เขายังมีโอกาสได้กลับไปเยี่ยมถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมถึงได้คุยกับ เวสต์ บราวน์ อดีตเพื่อนเก่าของเขาอีกด้วย
แม้ว่าไม่แน่ชัดว่าเขามาที่รังเหย้าของปีศาจแดงในฐานะอะไร แต่ที่แน่นอนคือการได้เห็นสีหน้าของ ตง ที่สดใด ต่างจากตอนค้าแข้ง ซึ่งอาจจะหมายความว่าเขาสามารถก้าวผ่านความเจ็บปวดที่เคยได้รับจากที่นี่ไปหมดแล้ว
สถานการณ์การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้เริ่มชัดเจนมากขึ้นเมื่อ ลิเวอร์พูล จัดการกำราบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 0-2 ถึง เอติฮัต สเตเดี้ยม และ อาร์เซนอล ผลงานไม่เข้าตาแพ้คาถิ่นต่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด…
"หลังจากประตูนั้นเกิดขึ้น จากไอ้หนุ่มจากชนชั้นแรงงาน หน้าตาสกปรก และผอมแห้งแรงน้อย ก็กลายเป็นคนดัง ผมกลายเป็นคนรวย มีชื่อเสียง และกลายเป็นเด็กหนุ่มที่เท่ที่สุดในอิตาลี" คาสซาโน่ อธิบายจุดเปลี่ยนอย่างแรกเริ่ม แม้จะตกชั้นไปกับ บารี่ ในฤดูกาล…
กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้งสำหรับปฏิบัติการกู้วิกฤติแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การบริหารของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ เมื่อล่าสุดมีรายงานว่าพวกเขาเตรียมยกเลิกอาหารฟรีสำหรับพนักงาน และปลดคนอีกราว 200 คน นั่นทำให้เกิดคำถามว่า นับตั้งแต่เซอร์จิมเข้ามาบริหาร ปีศาจแดงได้ลดค่าใช้จ่ายอะไรไปแล้วบ้าง? ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน สัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นสัปดาห์ที่หนักหน่วงสำหรับ…
อย่างที่เราทราบกันว่า โคโม่ ทีมน้องใหญ่ของเซเรีย อา อิตาลีตอนนี้พวกเขากำลังมาแรงอย่างมาก ถึงแม้ว่าผลงานในภาพรวมจะไม่ได้อยู่ในถึงขั้นลุ้นพื้นที่ยูโรปหรืออะไร แต่ถ้าเทียบกับความคาดหวังตั้งแต่ต้น นั้นจะถือว่าพวกเขาทำได้เกินเป้าหมายไปไกลมาก หลายคนอาจจะบอกว่าเป้นเพราะกำลังทรัพย์ของทีมที่ถึงนักเตะที่มีชื่อเสียงมาได้เยอะ แต่อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ กุนซืออย่าง เชส ฟาเบรกัส ที่เป็นทั้งกุนซือและผู้ถือหุ้นของสโมสร เขามีแนวทางการทำทีมที่น่าสนใจมาก…
เรียกได้ว่าเสือเฒ่าที่ชื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ ตัวนี้ยังคงไว้ลายไม่เลิกหลังในตุรกี ซูเปอร์ลีก เกมล่าสุดที่ เฟเนร์บาห์เช่เสมอกับกาลาตาซารายไป 0-0 ที่ถ้าเราดูแค่ผลการแข่งขันก็คงจะคิดว่าไม่มีอะไรมาก แน่นอนว่าภายนอกเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเรามาดูรายละเอียดในเกมจริงๆ จะเห็นว่าเกมนี้เข้มข้นมากและก็มีหลายจังหวะที่เป็นที่กังขากัน และนั้นก็มาจากผู้ตัดสินอีกเช่นเคย นั้นทำให้ โชเซ่…
อดีตดาวแอสซิสต์ระดับเทพของ อาร์เซนอล และ เรอัล มาดริด ประกาศแขวนสตั๊ดไปเมื่อมีนาคมปี 2023 และหลังอำลาวงการฟุตบอลไป เจ้าตัวใช้เวลาส่วนใหญ่ในฟิตเนส และทุ่มเทอย่างหนักเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ล่าสุด เมซุต โอซิล ในวัย 36…