แพ้ไปก็ไม่เสียหาย! ชี้เหตุผลเอาเกมอุ่นเครื่องมาชี้วัดฟอร์มจริงๆ ไม่ได้

Pipat Sathirawut

July 28, 2024 · 2 min read

แพ้ไปก็ไม่เสียหาย! ชี้เหตุผลเอาเกมอุ่นเครื่องมาชี้วัดฟอร์มจริงๆ ไม่ได้
Football | July 28, 2024

บรรดาทีมดังของพรีเมียร์ลีกมีผลงานที่ไม่ค่อยดีนักในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นปีนี้ โดยแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ที่สหรัฐอเมริกามา 2 นัดติดต่อกัน ทั้งพ่ายต่อ กลาสโกว์ เซลติก 3-4 และล่าสุดก็แพ้ เอซี มิลาน ไป 2-3 ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็แพ้ไปแล้วถึง 2 จาก 3 นัดแรกในเกมอุ่นแข้งช่วงซัมเมอร์นี้ ส่วนลิเวอร์พูลที่เปลี่ยนกุนซือมาเป็น อาร์เน่อ สล็อต ก็เริ่มต้นนัดแรกของช่วงปรีซีซั่นด้วยการแพ้ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ 1-0 ในเกมที่เตะกันที่ศูนย์ฝึกซ้อมของตัวเอง

เชลซีที่เปลี่ยนเฮดโค้ชจาก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาเป็น เอ็นโซ่ มาเรสก้า คือทีมใหญ่ที่ดูน่าเป็นห่วงที่สุด หากดูจากฟอร์มการเล่นเฉพาะเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดที่ผ่านมาที่สหรัฐอเมริกาล้วนๆ เพราะไม่สามารถเอาชนะทีมจาก ลีก วัน อย่างเร็กซ์แฮมได้ เมื่อทำได้แค่เสมอ 2-2 และล่าสุดก็แพ้ต่อ กลาสโกว์ เซลติก ไป 1-4 ชนิดที่เกมรับเละเทะสุดๆ เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม บางทีสิ่งที่เราได้เห็นจากเกมอุ่นเครื่อง มันอาจไม่เหมือนกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในฤดูกาลจริงๆ ก็เป็นได้ ทีมที่คว้าผลการแข่งขันได้ดีต่อเนื่องในช่วงปรีซีซั่น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ได้ยอดเยี่ยม ขณะที่ทีมที่พบกับความพ่ายแพ้หลายนัดในช่วงซัมเมอร์ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเจอกับช่วงเปิดซีซั่นใหม่ที่เลวร้ายเสมอไป

 

หลายทีมยังขาดนักเตะจากยูโร, โกปา อเมริกา

การที่ในช่วงซัมเมอร์นี้ มีฟุตบอลทีมชาติทัวร์นาเมนต์ใหญ่ทั้ง ยูโร 2024 และ โกปา อเมริกา 2024 ทำให้ทีมชุดที่ลงเตะเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นกันอยู่ตอนนี้ อาจจะแทบเป็นคนละทีมกับที่จะใช้ในการแข่งขันจริงเมื่อฤดูกาลเริ่มขึ้น

แมนฯ ซิตี้ ที่คุมโดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่แพ้เกมอุ่นเครื่องมา 2 นัดติดต่อกัน ไม่มีนักเตะอย่าง โรดรี้ (สเปน), จอห์น สโตนส์ (อังกฤษ), ไคล์ วอล์คเกอร์ (อังกฤษ), ฟิล โฟเด้น (อังกฤษ), แบร์นาร์โด้ ซิลวา (โปรตุเกส), รูเบน ดิอาส (โปรตุเกส), มานูเอล อคานจี (สวิตเซอร์แลนด์), นาธาน อาเก้ (เนเธอร์แลนด์), เควิน เดอ บรอยน์ (เบลเยียม) และ เฌเรมี่ โดกู (เบลเยียม) ในทีมชุดเดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา เพราะต่างเป็นผู้เล่นที่ช่วยให้ทีมชาติเข้ารอบน็อคเอาท์ยูโร 2024 กันทั้งหมด

แม้กระทั่งปีกตัวใหม่อย่าง ซาวินโญ่ ก็ยังไม่ได้เดินทางไปด้วย เพราะได้พักร้อนเพิ่มเติมจากการไปเล่นให้ทีมชาติบราซิลในศึก โกปา อเมริกา เช่นเดียวกับ ฮูเลียน อัลวาเรซ ก็จะยังไม่กลับไปแมนเชสเตอร์ จนกว่าจะเสร็จภารกิจกับทีมชาติอาร์เจนตินาในศึกฟุตบอลชายโอลิมปิก

เชลซีที่เปลี่ยนโค้ชมาเป็น เอ็นโซ่ มาเรสก้า ยังไม่ได้ “ตัวแบก” อย่าง โคล พาลเมอร์ รวมถึงแบ็กซ้ายฟอร์มเด่นทีมชาติสเปนอย่าง มาร์ก กูกูเรย่า และกองกลางที่ติดทีมชาติอังกฤษอย่าง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กลับไปรายงานตัว ส่วน เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กับ มอยเสส ไกเซโด้ ก็ได้พักร้อนต่ออีกนิด จากการไปเล่นให้ทีมชาติในศึก โกปา อเมริกา 2024

อาร์เน่อ สล็อต กุนซือคนใหม่ของลิเวอร์พูลก็ชี้ว่า เกมล่าสุดที่เอาชนะ เรอัล เบติส 1-0 เขาต้องทดลองใช้แท็กติก ฟอลส์ ไนน์ คู่กัน 2 คน เพราะกองหน้าอย่าง ดีโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ และ โคดี้ กัคโป ยังไม่มีใครที่พร้อมลงเล่นเกมอุ่นเครื่องตอนนี้ ซึ่งเฮดโค้ชชาวดัตช์เผยว่า ถ้าหากฤดูกาลจริงเปิดฉาก เขาจะจัดทีมลงสนามโดยมีกองหน้าแท้ๆ แน่นอน ดังนั้นแผนการเล่นต่างๆ ที่แฟนบอลได้เห็นกันไป มันคือเรื่องของการทดลองไอเดียเป็นหลัก

 

เป้าหมายหลักของปรีซีซั่น คือปรับระดับความฟิต

สิ่งสำคัญของการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่น ไม่ใช่มุ่งมั่นจะต้องเอาชนะแบบเอาเป็นเอาตาย แต่เป็นการให้นักเตะที่หยุดพักเบรกช่วงปิดฤดูกาลไปนาน ค่อยๆ มีเวลาฟื้นฟูสภาพร่างกาย และปรับความฟิตกลับมาสู่โหมดพร้อมเริ่มลงเตะกันอีกครั้ง ซึ่งปกติแล้ว ในช่วงปรีซีซั่น และแม้กระทั่งตอนที่พรีเมียร์ลีกเปิดฤดูกาลใหม่ในช่วงแรกๆ สภาพความฟิตของผู้เล่นก็อาจจะยังไม่เต็ม 100% ดีด้วยซ้ำ แต่กว่าจะเข้าที่เข้าทางกันทั้งหมด อาจจะต้องรอให้เข้าสู่ช่วงเดือนที่ 2 ของซีซั่นใหม่ หรือเมื่อเข้าเดือนกันยายนไปแล้ว

พรีเมียร์ลีกซีซั่น 2024-25 มีกำหนดเปิดฤดูกาลในคืนวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม หรืออีกราวๆ กว่า 3 สัปดาห์ในช่วงต่อจากนี้ ทำให้ตอนนี้กระบวนการปรับสภาพร่างกายนักเตะ อาจดำเนินไปแค่ราวๆ ครึ่งทางเท่านั้น ซึ่งนักเตะหลายคนได้ลงสนามกันแค่ไม่เกิน 60 นาที และถ้าหากใครมีโอกาสเสี่ยงบาดเจ็บ จะรีบโดนเปลี่ยนตัวออกแต่เนิ่นๆ ทันที

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ 2 นัดติดต่อกันในช่วงปรีซีซั่น 2024 แต่พวกเขายังขาดนักเตะตัวหลักไปเกินครึ่งทีมตอนนี้

 

โอกาสทดลองใช้ดาวรุ่ง + ตัวสำรอง ที่คงยากจะได้ลงในซีซั่นจริง

ในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่น อีกสิ่งที่แฟนบอลของทุกทีมจะได้เห็น ก็คือการให้โอกาสบรรดานักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ได้ลองลงสนามพร้อมๆ กับรุ่นพี่ หรือแม้กระทั่งกลุ่มนักเตะที่มีความเสี่ยงว่าจะต้องถูกปล่อยออกจากทีมไป ก็จะได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย

เชลซีที่เพิ่งเซ็นสัญญาคว้าตัว มาร์ก กูยู กองหน้าดาวรุ่งมาจากบาร์เซโลน่า ใช้ช่วงปรีซีซั่นในการพิจารณาว่าควรเก็บกองหน้าวัย 18 ปีรายนี้ไว้เป็นอะไหล่สำหรับทีมชุดใหญ่ หรือควรจะปล่อยยืมตัวกันแน่

หรืออย่างลิเวอร์พูลชุดที่บินไปสหรัฐอเมริกา ก็มีชื่อของ เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และแม้กระทั่ง แนท ฟิลลิปส์ ที่โดนปล่อยยืมตัวมาตลอดช่วงหลัง เพราะ อาร์เน่อ สล็อต ตั้งใจจะใช้ช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่น ที่ยังไม่ได้ร่วมงานกับพวกดาวดังบางคนที่ยังได้พักร้อนจากเสร็จภารกิจทีมชาติ ในการประเมินว่าคนไหนยังดีพอที่จะอยู่กับทีมของเขาต่อ ไม่รวมกับพวกดาวรุ่งอีกมากมาย ที่แฟนหงส์หลายคนอาจจะพอคุ้นหน้าคุ้นตาจากเกมบอลถ้วยในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาบ้างแล้ว

 

เผยตัวอย่างทีมที่ฟอร์มอุ่นเครื่อง กับตอนเปิดซีซั่นตรงข้ามกัน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งได้ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่เมื่อปี 2014 พยายามใช้ระบบเดียวกับทีมชาติเนธอร์แลนด์ชุดคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลกปีนั้น นั่นก็คือ 3-4-1-2 แล้วพวกเขาก็ได้ผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่น เมื่อไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้ง 6 นัดก่อนเปิดฤดูกาล (ชนะ 5 เสมอ 1) แถมเกมที่เสมอก็สามารถดวลจุดโทษเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ได้ด้วย โดยคู่แข่งของทีมปีศาจแดงในช่วงปรีซีซั่น 2014 ส่วนใหญ่ก็เป็นทีมดังๆ ทั้งนั้น จากการได้ไปเล่นในรายการอย่าง อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะลิเวอร์พูล 3-1 ในเกมนัดชิง

แต่พอพรีเมียร์ลีกเปิดฉาก ระบบ 3-4-1-2 ที่ ฟาน กัล พยายามจะติดตั้งกลับใช้งานจริงไม่ได้ พวกเขาเปิดฉากเกมลีกนัดแรกด้วยการแพ้ สวอนซี ซิตี้ คาบ้าน 1-2 และไม่ชนะใครเลยใน 3 เกมแรกของฤดูกาลทั้งที่ยังไม่เจอทีมใหญ่ แถมยังตกรอบ ลีก คัพ อย่างรวดเร็วด้วยการแพ้ มิลตัน คีย์น ดอนส์ 4-0 อีกต่างหาก

ส่วนทีมที่มีผลการแข่งขันเกมอุ่นเครื่องไม่ค่อยดี อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ 2018 ที่แพ้ 2 นัดแรกในเกมอุ่นเครื่อง พอเปิดซีซั่นจริงเมื่อได้ตัวหลักหลายคนคัมแบ็กกลับมาครบๆ ก็ระเบิดฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง โดยไม่แพ้ใครเลยในพรีเมียร์ลีก 15 นัดแรก แถมกวาดแชมป์ครบทุกรายการของอังกฤษในซีซั่นนั้น

แม้กระทั่งลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2019-20 ภายใต้การคุมทีมโดย เจอร์เก้น คล็อปป์ พวกเขาก็ไม่ชนะเลยในการยกพลไปทัวร์อุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกาในช่วงซัมเมอร์ 2019 โดยตลอดช่วงปรีซีซั่นปีนั้น พวกเขาแพ้เกมอุ่นเครื่องถึง 3 นัด และไม่มีการเซ็นสัญญานักเตะใหม่ระดับดาวดังเข้ามาเพิ่ม แต่กลายเป็นว่าพอพรีเมียร์ลีกเริ่มแข่งจริงๆ พวกเขาเดินหน้ารักษาฟอร์มร้อนแรง แล้วเข้าป้ายซิวแชมป์ได้แบบแทบจะม้วนเดียวจบ

ลิเวอร์พูลมีผลงานอุ่นเครื่องที่ย่ำแย่ในช่วงปรีซีซั่น 2019 แต่สามารถทำผลงานสุดยอดมาก จนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019-20

 

สิ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือ ช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่น ไม่ว่าจะแพ้ไปด้วยสกอร์เท่าไร ก็ไม่ได้ส่งผลต่ออันดับบนตารางคะแนน และไม่ได้ส่งผลต่อโอกาสลุ้นแชมป์บอลถ้วยติดมือแต่อย่างใด แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะรักษาผลการแข่งขันในเกมอุ่นเครื่องได้ดีขนาดไหน มันก็ไม่มีประโยชน์ถ้าหากพอถึงเวลาเปิดซีซั่นจริงๆ กลับทำผลงานได้แย่