ประเด็นน่ากังขาที่สุดของเกมยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ ที่อังกฤษสามารถพลิกแซงชนะเนเธอร์แลนด์ 2-1 นั่นก็คือจังหวะที่ทีมสิงโตคำรามได้จุดโทษตามตีเสมอเป็น 1-1 ตั้งแต่ครึ่งแรก
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 14 ของเกม เมื่อ แฮร์รี่ เคน ถูก เดนเซล ดุมฟรีส แบ็กขวาของเนเธอร์แลนด์เตะใส่ในจังหวะตามน้ำในกรอบเขตโทษ ซึ่งเดิมทีผู้ตัดสินอย่าง เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ จากเยอรมนีไม่เป่าเป็นจุดโทษ แต่ว่า บาสเตียน ดังแคร์ต ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินวีเออาร์เกมนี้กลับส่งสัญญาณแจ้งซวาเยอร์ว่าน่าจะเป็นจุดโทษ ทำให้ เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ เดินไปดูจอที่ข้างสนามเพื่อเช็คเหตุการณ์ย้อนหลังโดยละเอียด แล้วตัดสินใจกลับมาเป่าให้จุดโทษกับทีมสิงโตคำราม ก่อนที่เคนจะสังหารไม่พลาดเข้าไป
นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้อังกฤษกลับสู่เกมได้ไว ทั้งที่โดน ชาบี ซิมอนส์ ยิงให้เนเธอร์แลนด์ออกนำก่อนอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วงหลังจากนั้น อังกฤษเล่นได้ดีกว่า ครองบอลเหนือกว่า (60% ต่อ 40%) และมีโอกาสลุ้นประตูมากกว่าตลอดทั้ง 90 นาที ก่อนจะเผด็จศึกได้จากประตูชัยของกองหน้าตัวสำรองอย่าง โอลลี่ วัตกิ้นส์ และผ่านเข้าไปชิงกับสเปนได้สำเร็จ
แฟนบอลหลายคนไม่เห็นด้วยกับการได้จุดโทษครั้งนี้ เพราะก่อนที่เคนจะโดนดุมฟรีสยันใส่นั้น ดาวยิงจาก บาเยิร์น มิวนิค ได้ยิงบอลออกจากเท้าไปก่อนแล้ว ดังนั้นจังหวะที่แบ็กขวาจาก อินเตอร์ มิลาน เตะเข้าจนล้มลงทีหลังจึงไม่น่าจะส่งผลต่อโอกาสทำประตู แต่สุดท้ายผู้ตัดสินก็เลือกให้จุดโทษ และเป็นจุดพลิกโมเมนตัมครั้งสำคัญในเกม
2 ตำนานคู่แสบยังยืนยันว่าไม่ควรเป็นจุดโทษ
คนส่วนใหญ่ชี้ว่าทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้จุดโทษตีเสมอมาแบบโชคเข้าข้างสุดๆ แม้กระทั่ง 2 อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษที่ปัจจุบันเป็นกูรูชื่อดังอย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ แกรี่ เนวิลล์ ก็ยังไม่เข้าข้างชาติตัวเอง และแสดงออกชัดเจนว่าทัพ ทรี ไลอ้อนส์ ไม่สมควรได้จุดโทษลูกนี้
เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังวันคลับแมนของลิเวอร์พูล ทวีตข้อความลงบัญชี X (ทวิตเตอร์) ของตัวเองทันทีที่เห็นเหตุการณ์นี้ว่า “ไม่มีทางเป็นจุดโทษ (พร้อมกับอีโมจิหัวเราะทั้งน้ำตา)“
ทางด้าน แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็กขวาตำนานทีมชาติอังกฤษและ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พูดระหว่างทำหน้าที่คอมเมนเตเตอร์บรรยายเกมคู่นี้แบบสดๆ ทางช่อง ITV ของอังกฤษว่า “ในฐานะกองหลัง ผมคิดว่ามันน่าอับอาย กับการให้จุดโทษแบบนั้นตอนไหนก็ตาม นอกเหนือจากรอบรองชนะเลิศแล้ว”
“ไม่มีจุดไหนใกล้เคียงจะเป็นจุดโทษเลย และมีนักเตะอังกฤษไม่มากนักที่เรียกร้อง อันนี้คุณได้โชคมา”
อย่างไรก็ตาม อดีตกองหน้าอาร์เซน่อลอย่าง เอียน ไรท์ ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรคู่กันกับ แกรี่ เนวิลล์ ก็แย้งทันทีว่า “นั่นเป็นความประมาท สตั๊ดของเขา (ดุมฟรีส) ยกสูง พวกเขาต้องให้ไม่ว่าจะจุดไหนของสนาม และนั่นคือการฟาวล์”
แกรี่เมื่อได้ยินดังนั้นก็สวน เอียน ไรท์ กลับไปว่า “มีใครคิดว่านั่นคือความประมาทด้วยหรือ? ด้วยความสัตย์จริงเลยมันไม่ใช่จุดโทษ ถ้างั้นคงต้องมีใบอนุญาตเพื่อพยายามบล็อคลูกยิงแล้วล่ะ”
สื่อดังวิเคราะห์ละเอียด ทำไมจังหวะนี้อังกฤษได้จุดโทษ?
เดล จอห์นสัน บรรณาธิการทั่วไปของสื่อกีฬาเจ้าดังอย่างอีเอสพีเอ็น ซึ่งเป็นคนที่มักจะเขียนบทความวิเคราะห์จังหวะตัดสินที่น่าสนใจเป็นประจำ และศึกษาเรื่องการตัดสินจากวีเออาร์โดยละเอียดอยู่เสมอ แสดงความเห็นประเด็นนี้ผ่านเว็บไซต์ของอีเอสพีเอ็นเอาไว้
“มันไม่มีกฎเขียนไว้ในเกมฟุตบอล ว่าถ้าหากนักเตะยิงประตูไปแล้ว แล้วถูกสัมผัสโดยผู้เล่นฝ่ายรับ มันจะไม่ควรเป็นจุดโทษ”
“แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ? หลักๆ ก็เพราะทีมฝ่ายรุกไม่สามารถสูญเสียอะไรได้จากการปะทะ ซึ่งการยิงได้ถูกปล่อยไปแล้ว และการเคลื่อนไหวก็จบลง”
“มันดูเหมือนจะแปลก เพราะบ่อยครั้งในสถานการณ์แบบนี้ พวกเราจะบอกว่า “แต่มันจะเป็นการฟาวล์ในพื้นที่อื่นของสนามนะ” “
“แต่อย่าเข้าใจผิด มันก็ไม่มีกฎที่เขียนไว้เช่นกัน ว่าเกณฑ์ในการให้จุดโทษในจังหวะทำประตูจะต้องสูงกว่า เมื่อเทียบกับการให้ฟรีคิกในบริเวณที่ไม่ได้สร้างอันตรายใดๆ ทันที”
“แล้วอังกฤษได้จุดโทษในสถานการณ์นี้ได้ยังไง?”
“มันถือเป็นการแทรกแซงที่รุนแรงมากจากผู้ตัดสินวีเออาร์อย่าง บาสเตียน ดังแคร์ต นี่คือเกมที่ 9 ของเขาแล้วในทัวร์นาเมนต์ ซึ่งมากกว่าผู้ช่วยวีเออาร์คนอื่นๆ เขาได้รับเกียรติจากยูฟ่าอย่างชัดเจน ว่าเป็นคนคุมวีเออาร์ที่น่าเชื่อถือที่สุดของทัวร์นาเมนต์นี้”
“แล้วทำไมดังแคร์ตถึงแนะให้เป็นจุดโทษล่ะ? เขายึดธรรมชาติของการเข้าปะทะของดุมฟรีส เขายกสตั๊ดนำขึ้นมาซึ่งตรงข้ามจากความพยายามจะเตะลูกบอล ซึ่งมันกลายเป็นความประมาท และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมนักเตะเนเธอร์แลนด์รายนี้ถึงโดนจดชื่อ”
“แล้วนั่นคือจุดหนึ่งที่กองหลังเข้าถึงฝ่ายรุกหลังจากยิงไปแล้ว ซึ่งสามารถมองให้เป็นจุดโทษได้ เมื่อมันคือจังหวะประมาทหรืออันตราย”
“คุณมองเห็นว่าทำไมมันถึงเป็นจุดโทษได้หรือไม่? …ได้”
“แล้วจังหวะนี้มันถึงเกณฑ์ระดับสูงของยูฟ่า ที่จะบอกว่ามันชัดเจนและเป็นความผิดพลาดโจ่งแจ้งของการแทรกแซงโดยวีเออาร์หรือเปล่า? ไม่เลย”
“คุณคิดได้แต่เรื่องปฏิกิริยาของเคนเท่านั้น เขาลงไปนอนเจ็บปวด เพื่อโน้มน้าวให้วีเออาร์ทำงาน และในรายการแข่งขันของยูฟ่า คุณจะแทบไม่มีวันเห็นการแทรกแซงจากวีเออาร์ที่ผู้ตัดสินปฏิเสธการไปดูจอเลย”
เผยคำอธิบาย Official จากยูฟ่า
หลังจากที่ผู้ตัดสินอย่าง เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ ได้ตัดสินใจเป่าจุดโทษให้ทีมชาติอังกฤษแล้ว ทางยูฟ่าก็ได้ขึ้นคำอธิบายจากวีเออาร์บนจอที่สนามเวสต์ฟาเล่นสตาดิโอนให้แฟนบอลได้เห็นพร้อมกัน ว่าทำไมจังหวะนี้ เดนเซล ดุมฟรีส ถึงถูกจับฟาวล์ ซึ่งถ้าจะให้คำจำกัดความสั้นๆ ก็คือ “การเข้าปะทะโดยประมาท”
ข้อความที่ขึ้นบนจอระบุว่า “เป็นจุดโทษ – คือการฟาวล์ นักเตะหมายเลข 22 ของเนเธอร์แลนด์ (ดุมฟรีส) ได้เข้าปะทะโดยประมาทใส่คู่แข่งในขณะที่พยายามเล่นบอล”
แม้ว่าในเกมล่าสุดที่อาร์เซนอลสามารถบุกไปเอาชนะคริสตัล พาเชซ มาได้ด้วยสกอร์สุดสวย 5-1 แต่ถ้ามองในรายละเอียดเกมทั้งหมดก็จะเห็นว่าอาร์เซนอลยังมีความผิดพลาดอยู่บ้างเล็กน้อยโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก หนึ่งในจังหวะหวาดเสียวที่สุดคือในนาทีที่ 10 ที่อาร์เซนอลพยายามจะบิ้วอัพจากหลังแต่คริสตัล พาเลซก็สามารถเพลสซิ่งได้ดี ในขณะนั้นบอลอยู่กับ เดบิด ราย่า เขามองขึ้นหน้าและเลือกจ่ายบอลไปให้ โธมัส ปาเตย์…
ถ้าพูดถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงนี้ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย มีทั้งฝั่งที่เห็นใจ เข้าใจ และฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแรชฟอร์ด ในส่วนของฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับแรชฟอร์ดต่างบอกว่าต้องการให้แรชฟอร์ดย้ายออกจากทีมไปและไม่ว่าทีมไหนที่ได้ตัวไป นั้นจะเป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งนี่อาจจะเป็นความคิดเห็นที่สุดโต่งไปหน่อยและไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้นเช่นกันกับ เอียน ไรท์ อดีตตำนานกองหน้าของอาร์เซนอล ที่ออกแสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ผมย้ายไปอาร์เซนอลตอนอายุ…
วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (20 ธันวาคม 2562) มิเกล อาเตต้า ถูกแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ หลังปลด อูไนเอเมรี่ การทำงานตลอด 5 ปี ภายใต้…
“ความคิดของผมเกี่ยวกับ กิว คือ บาร์เซโลนา ปล่อยเขามาได้อย่างไร?” โจ โคล อดีตมิดฟิลด์ของเชลซีกล่าว เชลซี ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมฟุตบอลสโมสรยุโรป หลังไล่ถล่ม แชมร็อค โรเวอร์ส 5-1 ในศึกยูฟ่า…
ควันหลงจากเกมคาราบาว คัพที่สเปอร์สเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้สุดมันส์ 4-3 โดยในเกมนี้มาเรื่องดราม่ามากมายหลายประเด็น ในทุกคนรู้หรือไม่ว่าในระหว่างเกมที่เดือดไฟลุกแบบนี้มีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆสนามและนั้นก็ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญนั้นคือก็ลูกโป่งสีเหลืองที่แฟนๆสเปอร์สร่วมกันชูขึ้น ว่าแต่ว่าลูกโป่งสีเหลืองคืออะไร พวกเขาส่งสัญญาณถึงใคร มาค่อยๆไล่เลียงกันไปครับ เกิดอะไรขึ้น? ย้อนกลับไปในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาเกิดการลักพาตัวประชาชนชาวอังกฤษขึ้นหลายคนไปฉนวนกาซา และหนึ่งในนั้นคือ Emily…