ชูเอา ปาลินญ่า : จิ๊กซอว์สำคัญที่เสือใต้ยอมรอ 1 ปีเพื่อคว้าตัว

บาเยิร์น มิวนิค สามารถบรรลุข้อตกลงคว้าตัว ชูเอา ปาลินญ่า กองกลางตัวรับทีมชาติโปรตุเกสของฟูแล่มไปร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว โดยจากการรายงานของสื่อทุกสำนัก เผยว่าตัวเลขค่าตัวเบื้องต้นที่ทีมเสือใต้ต้องจ่ายอยู่ที่ 43.2 ล้านปอนด์ (51 ล้านยูโร) และยังมี add-ons ในอนาคตอีก 4.2 ล้านปอนด์ (5 ล้านยูโร)

อันที่จริง ปาลินญ่าน่าจะได้เซ็นสัญญาไปร่วมทัพบาเยิร์นมาตั้งแต่วันปิดตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้วด้วยซ้ำ เพราะเจ้าตัวได้รับอนุญาตให้เดินทางไปตรวจร่างกายที่เยอรมนีแล้ว เพียงแต่ดีลต้องล่มลง และฟูแล่มจำเป็นต้องเรียกตัวเขากลับมา เพราะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเซ็นสัญญาคว้ากองกลางตัวตายตัวแทนของปาลินญ่ามาได้ทันเวลา

แต่ในปีนี้ บาเยิร์นวางแผนเจรจาคว้าตัวกลางรับวัย 28 ปีมาตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งทีมยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกาทราบดีว่าใจของนักเตะต้องการย้ายมาเล่นด้วยแค่ไหน ทำให้พวกเขาเริ่มยื่นข้อเสนอให้ฟูแล่มมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ก่อนที่สุดท้ายจะตกลงกันได้ในราคาที่ทำให้ ชูเอา ปาลินโญ่ เตรียมกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดเท่าที่ฟูแล่มเคยขาย ทำลายสถิติเดิมของ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ที่ย้ายไปเล่นที่ซาอุดีอาระเบียกับ อัล-ฮิลาล เมื่อปีที่แล้วด้วยค่าตัวรวม 53 ล้านยูโร

ดีลที่เสือใต้ใช้เวลารอนับปี

บาเยิร์น มิวนิค ไม่ได้มีกองกลางตัวรับในสไตล์แบบ ชูเอา ปาลินญ่า มาตั้งแต่ปล่อยตัว ฆาบี มาร์ติเนซ ให้ย้ายไปเล่นกับ กาตาร์ เอสซี เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2021

ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมา พวกเขาจะมีนักเตะอย่าง โยชัว คิมมิช กับ เลออน โกเร็ตซ์ก้า เป็นตัวหลัก ขณะที่ คอนราด ไลเมอร์ ก็ถูกดึงตัวจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ไปร่วมทีมแบบฟรีๆ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีก่อน นอกจากนั้นแล้วยังมีการแจ้งเกิดขึ้นมาของดาวรุ่งอย่าง อเล็กซานดาร์ พาฟโลวิช อีกต่างหาก แต่บาเยิร์นก็ยังคงต้องการมิดฟิลด์ที่จะมาทำหน้าที่ปักหลักตัดเกมตรงกลางสนามอย่างมีคุณภาพมาตลอด เพราะปัญหาการโดนคู่แข่งโจมตีเร็วผ่านกลางสนามถึงหน้าประตู ทำให้บรรดาเซนเตอร์แบ็กชื่อดังของพวกเขาทั้ง คิม มิน-แจ, มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ และ เอริก ดายเออร์ ต้องเจอกับความยากลำบากในการปรับฟอร์มการเล่น

คิมมิช และ โกเร็ตซ์ก้า ไม่ใช่นักเตะสไตล์กลางรับจ๋า แถมอนาคตของทั้งคู่ก็ไม่แน่นอน ส่อแววว่าอาจจะต้องย้ายออกจากถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า ในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วยซ้ำ แต่ว่าคุณสมบัติของ ชูเอา ปาลินญ่า นั้นแตกต่างออกไป

สุดยอดจอมเข้าปะทะอันดับหนึ่งแห่งพรีเมียร์ลีก

ชูเอา ปาลินญ่า คือหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรับที่โดดเด่นที่สุดของพรีเมียร์ลีกตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาอย่างแท้จริง แม้จะไม่ได้เล่นให้สโมสรระดับ “บิ๊ก ซิกซ์” หรือทีมที่ได้โควตาไปเล่นฟุตบอลยุโรปก็ตาม

สถิติจากพรีเมียร์ลีกบอกว่า ปาลินญ่าคือนักเตะที่มีตัวเลขเข้าปะทะมากเป็นอันดับหนึ่งตลอดทั้ง 2 ซีซั่นล่าสุด โดยในฤดูกาล 2022-23 เขาทำได้ 148 ครั้ง ส่วนในฤดูกาล 2023-24 ที่ผ่านมา ทำได้อีก 152 ครั้ง ซึ่งสถิติจากเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Whoscored.com ยังบอกอีกว่า ในพรีเมียร์ลีกซีซั่น 2023-24 เขาจะมีค่าเฉลี่ยเข้าปะทะนัดละ 6.1 ครั้ง และสามารถปะทะแย่งบอลมาได้สำเร็จถึงนัดละ 4.6 ครั้ง ถือว่าโอกาสที่เขาจะโดนคู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านในแต่ละเกม จะไม่เกินนัดละ 1.5 ครั้ง

สไตล์การเป็นนักเตะที่ชอบเข้าปะทะอย่างดุดัน ทำให้ ชูเอา ปาลินญ่า ครองสถิตินักเตะที่โดนใบเหลืองมากที่สุดของพรีเมียร์ลีกตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยซีซั่น 2022-23 เขาโดนจดชื่อไป 14 ครั้ง ขณะที่ฤดูกาล 2023-24 เขาโดนใบเหลืองไปอีก 13 ใบ ทำให้ตลอดทั้ง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาจะต้องมีช่วงที่ถูกแบนเพราะสะสมใบเหลืองครบโควตาไม่ต่ำกว่า 3 นัด แบ่งเป็นโดน 1 นัดเมื่อสะสมครบ 5 ใบก่อนผ่านครึ่งซีซั่น และโดนแบน 2 นัดเมื่อสะสมครบ 10 ใบก่อนจบเกมนัดที่ 32

ในฤดูกาล 2022-23 ฟูแล่มอดใช้งานกองกลางทีมชาติโปรตุเกสรายนี้ไป 3 นัดเพราะโทษแบน และทั้ง 3 เกมที่ปาลินญ่าไม่ได้ลงสนาม ทีมเจ้าสัวน้อยแพ้รวดทั้งหมด บ่งบอกว่าทำไมเขาถึงเป็นนักเตะที่ทีมขาดไม่ได้ และทำไมฟูแล่มถึงไม่ยอมขายเขาจนกว่าจะหาตัวตายตัวแทนที่เหมาะสมมาได้ทันเวลา

โดยเหตุผลที่ฟูแล่มยอมขายปาลินญ่าให้บาเยิร์นจริงๆ เสียที และนักเตะจะไปเซ็นสัญญาร่วมทีมเสือใต้ทันทีที่เสร็จภารกิจกับทีมชาติโปรตุเกสในศึกยูโร 2024 แม้จะยังไม่ได้กองกลางตัวรับคนใหม่มาแทน ก็เพราะครั้งนี้ พวกเขาจะมีเวลานานเกือบๆ 2 เดือนเต็มก่อนที่ตลาดจะปิด ซึ่งถือว่ามากพอที่ทีมเจ้าสัวน้อยจะนำเงินค่าตัวสถิติสโมสรที่ได้จากการขาย ชูเอา ปาลินญ่า ไปตามหาตัวตายตัวแทนได้

ใจของปาลินญ่า โหยหาเสือใต้มาตลอด

เชื่อว่า ชูเอา ปาลินญ่า ต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ กับการพลาดโอกาสย้ายร่วมทัพหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรปในวันสุดท้ายของตลาดซัมเมอร์ปีก่อน ซึ่งในช่วงที่เขากำลังรับใช้ทีมชาติในศึกยูโรหนนี้ที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพ สื่อดังอย่าง สกาย สปอร์ตส์ ได้ไปสอบถามเรื่องอนาคตของเจ้าตัวในช่วงซัมเมอร์นี้ และปาลินญ่าได้ให้สัมภาษณ์ส่งสัญญาณชัดเจน ว่าเขาอยากจะย้ายทีมมากกว่าจะเล่นในถิ่น คราเว่น ค็อทเทจ ต่อไป

“ทั้ง 2 สโมสรรู้ดีว่าผมอยากจะไปอยู่กับทีมไหนในอีก 1 เดือนข้างหน้า ตอนนี้ผมกำลังตั้งสมาธิกับงานของผมในทีมชาติ และเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศของผม”

ผู้สื่อข่าวคนดังอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ รายงานว่าระหว่างที่ปาลินญ่ามีภารกิจรับใช้ทีมชาติ เขาพยายามทำทุกอย่างที่จะทำให้การย้ายไปอยู่กับบาเยิร์นครั้งนี้สำเร็จให้ได้ โดยยืนยันหนักแน่นว่าต้องการย้ายออกจากทีมแห่งกรุงลอนดอน เพื่อไปร่วมงานกับ แว็งซ็องต์ กอมปานี ที่เยอรมนี นั่นทำให้สัญญาที่เจ้าตัวเพิ่งเซ็นอยู่ยาวกับฟูแล่มจนถึงปี 2028 หลังจากดีลย้ายไปเสือใต้ล่มไม่นานเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ไม่อาจรั้งให้เขาพร้อมเล่นให้ทีมเจ้าสัวน้อยอีกต่อไป

ค่าตัวที่ บาเยิร์น มิวนิค ตกลงกับฟูแล่มได้ในปีนี้ ถือว่าต่ำกว่าราคาที่ตกลงกันได้เมื่อปีก่อนถึงเกือบๆ 20 ล้านยูโร แต่เนื่องจากนักเตะยอมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อช่วยต้นสังกัดเดิมต่ออีก 1 ปี ทั้งที่การย้ายทีมมันควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว และตัวเลข 47.4 ล้านปอนด์ มันก็มากพอที่จะทำให้ฟูแล่มได้กำไรไม่น้อยจากที่ซื้อจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน เมื่อ 2 ปีก่อนด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์แล้ว แถมเป็นราคาที่ทำให้ปาลินญ่าจะกลายเป็นนักเตะที่ขายได้ราคาสูงที่สุดตลอดกาลของสโมสร นั่นทำให้สุดท้ายการปล่อยให้เจ้าตัวไปอยู่กับทีมที่เหมาะสมกว่า คือเรื่องที่ดีที่สุด