ไม่งั้นอัศวินสีส้มคงมีแชมป์โลก : จุดเริ่มต้นแข้งดัตช์ชังฟ้า-ขาว

Chayuntorn Chaimool

October 13, 2024 · 1 min read

ไม่งั้นอัศวินสีส้มคงมีแชมป์โลก : จุดเริ่มต้นแข้งดัตช์ชังฟ้า-ขาว
ฟุตบอล | October 13, 2024

ชาวเนเธอร์แลนด์ ไม่เคยลืมสิ่งที่ อาร์เจนติน่า ทำกับพวกเขา…. เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาคงเป็นทีมที่มีแชมป์โลกไปแล้ว…

จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดต้องย้อนกลับไปในฟุตบอลโลก 1978 ที่ อาร์เจนตินา เป็นเจ้าภาพ ครั้งนั้นทัพ”ฟ้าขาว” นำโดย มาริโอ เคมเปส กองหน้าผู้ยิงกว่า 300 ประตูในระดับสโมสร และคู่หูในเกมรุกอย่าง เลโอปอลโด้ ลูเก้ ที่ยิง 75 ประตูภายในเวลา 3 ปีกับ ริเวอร์เพลท ขณะกุนซือใช้บริการ เซซาร์ หลุยส์ เมน็อตติ ผู้คลั่งไคล้เกมรุกจนเป็นที่มาถึงเกมบุกแบบดุดันตามสไตล์ละติน

อย่างไรก็ตามเรื่องราวนอกสนามไม่ได้พร้อมเหมือนกับรายละเอียดด้านคุณภาพของทีมแบบที่ได้กล่าวไป แต่ก็ไม่รู้ว่าบนความไม่พร้อมนี้จะส่งผลแง่บวกหรือแง่ลบให้กับทัพฟ้า-ขาวกันแน่?

ปี 1976 หรือ 2 ปีก่อนที่ฟุตบอลโลกจะมาแข่งขันกันที่อาร์เจนตินา รัฐบาลของประธานาธิบดีหญิง อิซาเบล เปรอง ถูกรัฐประหารโดย นายพล ฮอร์เก้ ราฟาเอล วิเดลา ผู้นำทางการทหารของอาร์เจนตินา

การมีชาติเจ้าภาพที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการทหารสร้างความไม่พอใจให้กับชาติฝั่งยุโรปไม่น้อย ตลอด 2 ปีก่อนฟุตบอลโลกจะแข่งขันที่นายพล วิเดล่า ปกครองประเทศ อาร์เจนตินามีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นเสมอ และยังมีเรื่องสงครามบริเวณพรมแดนของประเทศที่ยังไม่มีความสงบเลย

ดังนั้นนายพลวิเดล่า จึงต้องการให้ฟุตบอลโลกปี 1978 คือศูนย์รวมใจของประชาชนในประเทศ ให้ผู้คนเริ่มรักเขา นั่นเองทำให้ฟุตบอลโลกครั้งนั้นถูกเรียกว่าชัยชนะที่สกปรกของ อาร์เจนตินา

เรื่องราวมีอยู่ว่าในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ อาร์เจนตินา พบ เปรู มีเงื่อนไขว่า ฟ้า-ขาว ต้องยิงให้ยับ เพราะผลสกอร์นั้นเป็นรอง บราซิล ถึง 3 ลูก (รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นการแบ่งกลุ่มละ 4 ทีม ทีมอันดับ 1 ของสายจะได้ไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ส่วนทีมอันดับ 2 จะได้แค่ชิงที่ 3 เท่านั้น) ซึ่งในเกมกับ เปรู อาร์เจนตินา ก็ทำได้ตามเป้าด้วยการยิงรวดเดียวในครึ่งหลัง 6 ลูก ชนะไป 6-0 ผ่านเข้ารอบชิงได้สำเร็จ

โดยนักเตะของเปรูในชุดนั้นออกมาแฉว่า อยู่ ๆ โค้ชของพวกเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนนักเตะตัวสำคัญของทีมออกในระหว่างพักครึ่ง นอกจากนี้ก่อนเกมที่ อาร์เจนตินา จะเจอ เปรู นายพล วิเดล่า และ เฮนรี่ คิสซิงเกอร์ เพื่อนซี้ของเขาที่ ณ เวลานั้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา เดินเข้าไปในห้องแต่งตัวของนักเตะเปรูก่อนเกม และมีข่าวลือว่าเขาเข้าไปเล่นเกมจิตวิทยากับคู่แข่ง

จะจริงหรือไม่ ไม่มีหลักฐานเรื่องนี้ 100% หลังจากนั้น อาร์เจนตินา ก็เข้าชิงกับ เนเธอร์แลนด์ ที่ไม่มี โยฮัน ครัฟฟ์ นักเตะเทวดาลงสนาม เพราะ ครัฟฟ์ ไม่ได้ติดทีมชุดนี้มาด้วย … ว่ากันว่า ครัฟฟ์ ที่แสดงจุดยืนต่อต้านเผด็จการของนายพล วิเดล่า ถูกผู้ประสงค์ร้ายบุกเข้าโจมตีถึงบ้านในเมืองบาร์เซโลน่าโดยตัวเขาถูกปืนไรเฟิลจ่อเข้าที่หัว ขณะที่ภรรยาและลูก ๆ ของเขาถูกมัดไว้ด้วยกัน นั่นจึงทำให้หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น บ้านของครัฟฟ์ต้องมีตำรวจเฝ้าระวังภัยนานถึง 4 เดือน

จนถึงวันนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุลักพาตัว และข่มขู่ครอบครัวของครัฟฟ์ แต่จากการที่นักเตะรายนี้เลือกปฏิเสธเสียงแข็งเกี่ยวการเดินทางไปเล่นฟุตบอลโลกที่อาร์เจนตินา หลายฝ่ายจึงเชื่อว่ารัฐบาลทหารของนายพลวิเดล่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มากก็น้อย

เมื่อไม่มี ครัฟฟ์ อะไรก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ อาร์เจนตินา พวกเขาชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-1 โดยเนื้อหาในเกมคือ อาร์เจนตินา เล่นหนักใส่ผู้เล่นชาวดัตช์ตลอดทั้งเกม แต่กลับโดนปล่อยปะละเลยจากผู้ตัดสิน จนผลออกมาดังที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น

ดังนั้นชาวเนเธอร์แลนด์จึงมองว่าหากไร้ซึ่งเพาเวอร์จากรัฐบาลเผด็จการของอาร์เจนตินา พวกเขาคงเตรียมทีมชุดที่ดีที่สุด และคงได้รับการตัดสินในเกมชิงชนะเลิศดีกว่านี้ เรื่องมันควรจะต้องจบลงด้วยที่พวกเขาเป็นแชมป์โลกไปแล้ว