ขอเวลา 4 ปี : "เบร์ราด้า" ซีอีโอผีแดงตั้งเป้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2028
โอมาร์ เบร์ราด้า ซีอีโอของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่สโมสรของทีมปีศาจแดงว่าเขาตั้งเป้าให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ในปี 2028 ซึ่งจะเป็นปีที่ครบรอบ 150 ปีของการก่อตั้งสโมสรพอดี
จากการรายงานของ ลอรี่ วิตเวลล์ ผู้สื่อข่าวสายเจาะลึก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งสื่อดังอย่าง ดิ แอธเลติก เผยว่า เบร์ราด้า ซึ่งย้ายจากสโมสรในเครือ ซิตี้ กรุ๊ป เข้ามาดำรงตำแหน่งซีอีโอทีมปีศาจแดงตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ขึ้นกล่าวคำปราศรัยระหว่างการประชุมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันพุธที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา และพูดถึงความทะเยอทะยานที่ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ซึ่งเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นสโมสรจำนวน 27.7% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ มีร่วมกับบรรดาผู้บริหารระดับสูงด้านแผนกฟุตบอลของสโมสร
โครงการของ โอมาร์ เบร์ราด้า ที่มีเป้าหมายพา แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ในปี 2028 มีชื่อว่า “โปรเจ็กต์ 150” ซึ่งสอดคล้องต่อวาระครบรอบ 150 ปีของการก่อตั้งสโมสร โดยเริ่มต้นในปี 1878 ภายใต้ชื่อ นิวตัน ฮีธ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 1902 เป็นต้นมา
เป้าหมายดังกล่าวถือเป็นการเน้นย้ำว่าทีมปีศาจแดงจำเป็นต้องดำเนินงานพัฒนาทีมอย่างถูกทาง ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันภายใต้การคุมทีมโดย เอริค เทน ฮาก ถือว่ายังดูห่างไกลจากการลุ้นประสบความสำเร็จในรายการใหญ่อยู่มาก เนื่องจากรั้งแค่อันดับ 11 ในพรีเมียร์ลีกหลังจากผ่านไปแล้ว 5 นัดแรกของฤดูกาล 2024-25 แถมในศึก ยูโรปา ลีก นัดแรกของรอบ ลีก เฟส ก็ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอกับ เอฟซี ทเวนเต้ ทีมจากเนเธอร์แลนด์ไป 1-1 ทั้งที่เป็นคู่แข่งที่มีแรงกิ้งต่ำที่สุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้เจอในรอบนี้
นอกจากเป้าหมายพาทีมชายกลับไปเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ภายใน 4 ปีต่อจากนี้แล้ว เขายังพูดถึงเป้าหมายการพาทีมหญิงของ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกในปี 2028 ซึ่งถือว่ามีความสำคัญเท่าเทียมกัน โดยระหว่างการปราศรัย เบร์ราด้าพยายามใช้น้ำเสียงพูดสร้างแรงบันดาลใจ และยอมรับว่าการจะบรรลุภารกิจนั้นได้ต้องอาศัยการทำงานหนักอย่างยิ่งยวด
โดยย้อนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ เข้าถือหุ้นสโมสรใหม่ๆ นั้น เซอร์ จิม ได้เผยว่า สโมสรต้องการเวลาประมาณ 3 ปีหลังจากที่กลุ่ม INEOS เข้ามามีอำนาจบริหารด้านฟุตบอล เพื่อพาทีมกลับไปประสบความสำเร็จ
เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ให้สัมภาษณ์ในตอนนั้นถึงแผนงานพัฒนาสโมสรว่า “มันไม่ใช่แผนงาน 10 ปี แฟนบอลจะหมดความอดทนถ้ามันคือแผนที่ต้องใช้เวลา 10 ปี แต่แน่นอนว่ามันคือแผนที่ต้องใช้เวลา 3 ปีเพื่อไปถึงจุดนั้น”
“การคิดว่าเราจะเล่นฟุตบอลได้ดีเหมือนอย่างที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่นกับ เรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาลที่แล้วภายในปีหน้า มันคือเรื่องไม่สมเหตุสมผล และถ้าหากเราสร้างความคาดหวังที่ผิดๆ ให้กับผู้คน เมื่อนั้นพวกเราก็จะผิดหวัง ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือวิถีทางของเรา ซึ่งคนสามารถมองเห็นได้ว่าเรากำลังก้าวหน้า”
“ผมคิดว่ามันคือวาระครบรอบ 150 ปีของสโมสรในปี 2028 ถ้าหากวิถีทางของเรานำพาเราไปอยู่ในจุดที่ดีมากๆ ภายในกรอบเวลานั้น พวกเราจะมีความสุขกับมันมากๆ เพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับไปสู่การเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในโลก”
“เป้าหมายสูงสุดสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปอย่างแท้จริง ก็คือการที่เราควรท้าทายสำหรับการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก และท้าทายกับ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเป็นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
โดยเมื่อไม่นานมานี้ โอมาร์ เบร์ราด้า กับผู้อำนวยการกีฬาคนปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง แดน แอชเวิร์ธ เพิ่งให้สัมภาษณ์ยืนยันต่อหน้าสื่อว่า งานของพวกเขาคือการพยายามทำงานร่วมกับผู้จัดการทีมอย่าง เอริค เทน ฮาก อย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้กุนซือชาวดัตช์พาทีมคว้าผลการแข่งขันที่ดีที่สุดให้ได้ และบรรดาผู้บริหารยังเชื่อว่า เทน ฮาก ยังเป็นโค้ชที่ใช่
อย่างไรก็ตาม ในมุมของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ณ ตอนนี้ ส่วนใหญ่หมดความเชื่อมั่นในตัวของ เทน ฮาก ไปแล้ว และทางเดียวที่อดีตนายใหญ่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จะได้ศรัทธาจากแฟนบอลกลับคืนมาอีกครั้ง คือต้องหาทางทำให้ทีมคว้าผลการแข่งขันที่ดีอย่างคงเส้นคงวาให้ได้เร็วที่สุด
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.