เฟอร์กี้ - เวนเกอร์ การแข่งขันสุดเข้มที่ทำให้แข้งพรีเมียร์ลีก "เลิกเป็นขี้เมา"

Chayuntorn Chaimool

September 16, 2024 · 1 min read

เฟอร์กี้ - เวนเกอร์ การแข่งขันสุดเข้มที่ทำให้แข้งพรีเมียร์ลีก
Football | September 16, 2024

หลายคนคงเคยได้ยินสิ่งที่นักเตะยุค 90s พูดถึงกุนซือที่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ อาร์แซน เวนเกอร์ อยู่บ่อย ๆ 

ฟุตบอลอังกฤษยุคก่อนหน้านั้นไม่ใช่แค่โบราณในสนาม แต่มันรวมถึงนิสัยเจ้าสำราญของกลุ่มนักฟุตบอลอังกฤษที่ไม่ค่อยฟังใคร ติดเมา และไม่ค่อยดูแลสุขภาพร่างกายตัวเอง ขอแค่พอเล่นได้ก็จบ ไม่อยากพัฒนาตัวเองไปมากกว่านี้

 

เฟอร์กี้ เข้ามารื้อวัฒนธรรมการดื่มกินของนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างนักเตะที่มีความพร้อมทั้งสภาพร่างกาย สภาพจิตใจ และทัศนคติในการลงเล่น ขณะที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ก็ทำไม่ต่างกัน ก่อนหน้านี้กลุ่มนักเตะของ อาร์เซน่อล จะมีกลุ่มแยกที่ตั้งชื่อว่า Tuesday Club ที่สรุปง่าย ๆ ก็คือกลุ่มรวมตัวกันดื่มเหล้า นำโดย โทนี่ อดัมส์, พอล เมอร์สัน และ ลี ดิ๊กสัน โดยจะดื่มกันในคืนวันอังคารและลากยาวถึงเช้า เพราะวันพุธจะเป็นวันที่สโมสรให้เป็นวันหยุดซ้อม ซึ่ง เวนเกอร์ ก็เข้ามาทำลายวัฒนธรรมนี้ทิ้ง และสร้างมาตรฐานนักฟุตบอลในแบบของเขาใหม่ขึ้นมาคล้าย ๆ กับที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำ 

 

สิ่งที เฟอร์กี้ และ เวนเกอร์ ทำกลายเป็นการเห็นผลแบบชัดเจนในด้านผลงาน แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล คือ 2 ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในอังกฤษในยุคของพวกเขา ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็กลายเป็นมาตรฐานที่ทีมอื่นพยายามทำตาม มันทำให้พวกเขาเข้าใจว่าถ้าทีมจะผลงานดี นักฟุตบอลต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดในทุก ๆ ด้าน และการดื่มเหล้าก็ค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ หลังจากวันนั้น 

 

แม้ในช่วงปลายยุค 90s ต่อต้นยุค 2000s จะยังมีนักเตะที่มีพฤติกรรมชอบการดื่ม แต่ก็ลดน้อยลงมาก ซึ่งมันเหมือนกับวิธีธรรมชาติคัดสรร กล่าวคือถ้าพวกเขาดื่มกิน ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง ผลงานในสนามของพวกเขาก็จะตกลง และถ้าถึงวันนั้นขึ้นมาสโมสรก็จะไม่เก็บพวกเขาไว้ พวกเขาจะเสียสิทธิ์ของ “คนพิเศษ” ในการเป็นนักฟตุบอลอาชีพที่มีรายได้มากมาย … นี่คือความรับผิดชอบที่นักเตะในพรีเมียร์ลีก เริ่มปรับพฤติกรรมตัวเอง ยิ่งในยุคนี้ทุกสโมสรยังมีทีมโค้ชฟิตเนส ที่สามารถประมวลตัวเลขออกมาและฟ้องได้เลยว่าแต่ละคนใช้ชีวิตอย่างไร กินดื่มหรือไม่ ดูแลตัวเองดีหรือเปล่า นักเตะก็แทบจะโกหกไม่ได้แล้วด้วยซ้ำไป