โก คุโรดะ : อดีตครูมัธยมที่พาน้องใหม่ “มาจิดะ เซลเวียร์” นำจ่าฝูงเจลีก
หลายคนที่ได้ดูตารางเจลีกในฤดูกาลนี้ อาจจะประหลาดใจ เมื่อจ่าฝูงกลายเป็นทีมไม่คุ้นหูที่ชื่อว่า มาจิดะ เซลเวียร์ ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะพวกเขาคือทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในเจลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในซีซั่นนี้
อย่างไรก็ดี นั่นไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์เรื่องเดียว เพราะ โก คุโรดะ กุนซือของพวกเขา ก็เพิ่งจะรับงานกับสโมสรอาชีพครั้งแรกกับที่นี่ หลังจากคุมทีมในระดับมัธยมปลายมาหลายสิบปี
และนี่คือเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ของอดีตครูระดับมัธยมคนนี้
สำหรับ คุโรดะ อาจจะแตกต่างจากโค้ชส่วนใหญ่ในเจลีก เพราะเขาไม่เคยเล่นให้ทีมระดับอาชีพมาก่อน และแม้จะเคยเล่นฟุตบอลตอนสมัยมัธยมและมหาวิทยาลัย แต่อาชีพแรกหลังเรียนจบของเขาคือผู้จัดการโรงแรมแบบเรียวกัง (โรงแรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) ของ โฮชิโนะ รีสอร์ท ในจังหวัดนางาโนะ
โชคดีที่โรงแรมแห่งนั้น มีทีมฟุตบอลสำหรับพนักงาน ที่ทำให้เขาได้มีโอกาสคุมทีมเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับจริงจังมากนัก
จนกระทั่งในปี 1994 คุโรดะ ได้มีโอกาสข้องเกี่ยวกับฟุตบอลที่ตัวเองรักอย่างเต็มตัว หลังกลับไปเป็นครูสอนฟุตบอลให้กับโรงเรียนมัธยมปลาย ฮอกไกโด เอคิวะ คิตะ และมัธยมปลาย ฮอกไกโด โอตานิ มุราคัง ในบ้านเกิด
ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นาน เขาจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโค้ชของโรงเรียนมัธยมปลายอาโอโมริ ยามาดะ ในจังหวัดอาโอโมริ ที่อยู่ห่างจากฮอกไกโด แค่ทะเลกั้นกลาง
และที่นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของ คุโรดะ เมื่อเขาสามารถพาทีมจากจังหวัดอาโอโมริ ผงาดคว้าแชมป์ฤดูหนาว หรือการแข่งขันฟุตบอลมัธยมปลายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ถึง 3 สมัย จากการเข้าชิงชนะเลิศถึง 6 ครั้ง และกลายเป็นมหาอำนาจลูกหนังในระดับเยาชนของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ คุโรดะ ยังสามารถปั้นนักเตะจนติดทีมชาติ หรือลงเล่นในเจลีกได้อีกหลายราย หนึ่งในนั้นคือ กาคุ ชิบาซากิ อดีตกองกลาง คาชิมา อันท์เลอร์ส ชุดคว้ารองแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก 2016 ที่ต่อมาได้ย้ายไปค้าแข้งในลีกสเปน กับ เตเนริเฟ, เกตาเฟ และ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา
นั่นทำให้หลายคน อยากเห็นเขาขึ้นมาคุมทีมอาชีพอย่างจริงจัง เพราะในยุทธภพมัธยมปลายไม่มีใครเทียบเทียมเขาได้อีกแล้ว แต่จนแล้วจนรอด คุโรดะ ก็ไม่มีทีท่าที่จะอำลาโรงเรียนอาโมโมริ ยามาดะ เสียที
จนกระทั่งในปี 2022 เขาก็ทำเซอร์ไพรส์ ด้วยการลาออกจากโค้ชของ อาโอโมริ ยามาดะ เพื่อไปรับงานคุมสโมสรอาชีพเป็นครั้งแรกกับ มาจิดะ เซลเวียร์ ทีมท้ายตารางในเจ2 ลีก
อย่างไรก็ดี ในช่วงแรก คุโรดะ ก็ถูกตั้งคำถาม เนื่องจากเขายังไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมอาชีพมาก่อน แถมยังใช้เวลาส่วนใหญ่กว่า 28 ปี หรือเกือบค่อนชีวิตไปกับฟุตบอลมัธยมปลายเป็นหลัก
“มีหลายคนที่กังวลว่าทีมนี้จะไม่สามารถเอาชนะได้เลยในปีแรกของการคุมทีมอาชีพของผม” คุโรดะ กล่าวกับ Japan Times
ทว่า คุโรดะ ก็หักปากกาเซียน พา มาจิดะ ที่จบในอันดับ 15 เมื่อปี 2022 ก้าวขึ้นมาอยู่หัวตาราง ก่อนจะคว้าแชมป์เจ2 ลีก พร้อมได้สิทธิ์เลื่อนชั้น ด้วยคะแนนที่มากกว่าอันดับ 2 ถึง 12 แต้ม
“ผู้เล่นในทีมนี้เผชิญกับมัน (ความท้าทาย) อย่างแท้จริง และทุ่มเททุกอย่างเพื่อชัยชนะ และสิ่งนั้นก็กลายเป็นพลังที่ผลักดันให้เราสำหรับการเลื่อนชั้น” คุโรดะ ให้เครดิตทีม
“พวกเขาเอาคำพูดของผู้จัดการทีมปีแรกไปใส่ไว้ในใจ และยึดติดกับผมโดยไม่บ่นใดๆ ตัวผมไม่มีอะไรนอกจากความรู้สึกขอบคุณผู้เล่น”
ทั้งนี้ แม้จะประสบความสำเร็จด้วยการพาทีมเลื่อนชั้นตั้งแต่ปีแรกที่คุมทีม แต่ คุโรดะ ก็ยังถูกปรามาสว่าน่าจะไปไม่รอดในเจ1ลีก ที่เต็มไปด้วย เสือ สิงห์ กระทิง แรด
สำหรับ คุโรดะ เองก็รู้ดี เขาจึงตัดสินใจผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ ด้วยการดึงตัวผู้เล่นใหม่เข้ามาร่วมทีมถึง 17 ราย ที่มีทั้งผู้เล่นจอมเก๋า และดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ไม่มีตำแหน่งในทีมยักษ์ใหญ่ สวนทางกับผู้เล่นที่ถูกปล่อยออกจากทีมไปถึง 10 คน
ไม่ว่าจะเป็น เกน โชจิ อดีตกองหลังทีมชาติญี่ปุ่นของ คาชิมา อันท์เลอร์ส, โคเซอิ โอตานิ ผู้รักษาประตูของ กัมบะ โอซากา รวมไปถึง โชตะ ฟูจิโอะ ที่เซ็นสัญญาถาวร หลังยืมตัวมาจาก เซเรโซ โอซากา เมื่อฤดูกาลก่อน
ก่อนที่มันจะกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว เมื่อทั้งผู้เล่นหน้าใหม่ และผู้เล่นเดิมทำให้ทีมชานเมืองของโตเกียว ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของเจลีกอย่างเซอร์ไพรส์ หลังผ่านพ้นนัดที่ 16 ด้วยสถิติชนะ ชนะ 11 เสมอ 2 แพ้ 3
สำหรับ คุโรดะ ฟุตบอลของเขามีจุดเด่นอยู่ที่ความเป็นสมัยใหม่ เขาทำให้ มาจิดะ กลายเป็นทีมที่เน้นการขึ้นเกมจากแนวหลัง แล้วผ่านบอลเข้าไปทำประตู
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการปลูกฝัง “ความกระหายในชัยชนะ “ที่ทำให้ มาจิดะ โดดเด่นในการคุกคามคู่ต่อสู้ตลอดทั้งเกม และทำให้พวกเขา กลายเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุด และเสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีกในขณะนี้
“มันคงจะดีที่สุดหากเราสามารถบิวด์อัพจากแดนหลังและทำประตูได้ แต่มันก็เป็นแค่สไตล์ในอุดมคติของผม” คุโรดะกล่าว
“แทนที่จะเล่นฟุตบอลให้ดี เราจำเป็นต้องข่มขู่คู่แข่ง เราจำเป็นที่จะทำให้พวกเขากลัวฟุตบอลของเรา เราต้องพยายามฆ่าพวกเขาให้ได้ ส่วนแทคนิคและแทคติก สามารถได้มาหลังจากนั้น”
ตอนนี้ก็ต้องรอดูกันว่า คุโรดะ จะพา มาจิดะ ไปได้ไกลแค่ไหน เพราะพวกเขายังเหลือการแข่งขันอีกกว่าค่อนฤดูกาล รวมถึงตลาดนักเตะหน้าร้อน ที่คู่แข่งน่าจะต้องเสริมทัพเพื่อมาต่อกรกับเขา
แต่ไม่ว่า มาจิดะ จะคว้าแชมป์เจลีกได้หรือไม่ หรือจบฤดูกาลด้วยอันดับเท่าไร แต่เชื่อว่าตอนนี้ คงไม่มีใครคลางแคลงใจกับฝีไม้ลายมือในการคุมทีมของ คุโรดะ อีกแล้ว
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.