พรีเมียร์ลีกเคยมีแค่ 2 ทีม! 7 นัดแรกมีไม่เกิน 8 แต้ม แต่ติดท็อปโฟร์

Pipat Sathirawut

October 07, 2024 · 2 min read

พรีเมียร์ลีกเคยมีแค่ 2 ทีม! 7 นัดแรกมีไม่เกิน 8 แต้ม แต่ติดท็อปโฟร์
Football | October 07, 2024

หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก เพิ่งทำผลงานออกสตาร์ทพรีเมียร์ลีก 7 นัดแรกได้แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการ ด้วยการมีแค่ 8 แต้มจากผลงานชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 3 ทำให้โอกาสลุ้นติดท็อปโฟร์ เพื่อไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ริบหรี่มากๆ เพราะตอนนี้ทีมปีศาจแดงตามหลังอันดับ 4 อย่าง เชลซี และอันดับ 5 อย่าง แอสตัน วิลล่า มากถึงทีมละ 6 แต้มแล้ว

แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีโปรแกรมให้ลงเล่นอีกถึง 31 นัดในพรีเมียร์ลีก แต่ดูจากช่องว่างที่ตามหลังโซน แชมเปี้ยนส์ ลีก และดูจากฟอร์มการเล่นของพวกเขาในช่วงหลัง ยิ่งดูเป็นเรื่องยากเหลือเกิน ว่า เอริค เทน ฮาก จะพาพวกเขาพลิกสถานการณ์ติด 4 อันดับแรกของตารางได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 1992 เคยมี 2 ทีมที่สามารถจบฤดูกาลด้วยการติด 4 อันดับแรกพร้อมคว้าตั๋วไปเล่น UCL ได้สำเร็จ แม้จะเก็บแต้มได้ไม่เกิน 8 แต้มจาก 7 นัดแรกก็ตาม

 

อาร์เซน่อล (2011-12)

ผลงาน 7 นัดแรก : มี 7 แต้ม (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 4 – อันดับ 15)

จบฤดูกาล : มี 70 แต้ม (ชนะ 21 เสมอ 7 แพ้ 10 – อันดับ 3)

ในฤดูกาล 2011-12 อาร์เซน่อลภายใต้การคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องเสียตัวหลักออกจากทีมไปหลายคน โดย กาแอล กลิชี่ กับ ซามีร์ นาสรี่ ย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่ เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีมคนก่อน เซ็นสัญญาย้ายกลับไปซบทีมเก่าอย่าง บาร์เซโลน่า

ในช่วงต้นซีซั่นดังกล่าว ทีมปืนใหญ่ไม่ชนะใครเลยใน 3 เกมแรก แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเจอโปรแกรมที่ค่อนข้างหนัก เริ่มจากบุกเสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-0 ในนัดแรก, แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 คาบ้านในนัดที่ 2 และออกไปโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่มยับ 8-2 ในเกมที่ 3

นั่นทำให้ช่วงวันปิดตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2011 อาร์เซน่อลเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่เข้ามาเพิ่มขุมกำลังทีมชุดใหญ่อีก 5 คน ประกอบด้วย พาร์ค ชู-ยอง, อันเดร ซานโตส, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์ และ มิเกล อาร์เตต้า ที่ถูกซื้อเข้ามา แถมยังยืมตัว ยอสซี่ เบนายูน มาจากเชลซีเพื่อใช้งานจนจบฤดูกาลอีกคน

หลังผ่านช่วงเบรกทีมชาติเดือนกันยายน 2011 อาร์เซน่อลยังทำผลงานแบบชนะนัดแพ้นัด แต่พอเข้าสู่ช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป พวกเขาก็ค่อยๆ เก็บผลการแข่งขันที่ดีต่อเนื่องได้มากขึ้น และช่วงที่ฟอร์มดีสุดในลีกคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงมีนาคม 2012 ที่ทำผลงานชนะในพรีเมียร์ลีก 7 นัดติดต่อกัน

คีย์แมนสำคัญที่โชว์ผลงานร้อนแรงสุดๆ คือดาวยิงกัปตันทีมอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่คว้าดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกด้วยการซัดไป 30 ประตู แถมช่วงเดือนมกราคมจนถึงกุมภาพันธ์ อดีตดาวยิงตำนานของทีมอย่าง เธียร์รี่ อองรี ยังเซ็นสัญญาย้ายกลับมาอยู่กับทีมแบบยืมตัวเป็นช่วงสั้นๆ อีกต่างหาก

 

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (2022-23)

ผลงาน 7 นัดแรก : มี 8 แต้ม (ชนะ 1 เสมอ 5 แพ้ 1 – อันดับ 10)

จบฤดูกาล : มี 71 แต้ม (ชนะ 19 เสมอ 14 แพ้ 5 – อันดับ 4)

หลังจากที่ฤดูกาล 2021-22 เอ็ดดี้ ฮาว เข้ามาคุมทีมแทน สตีฟ บรูซ ในเดือนพฤศจิกายน หลังการเข้ามาเทคโอเวอร์ของกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย (PIF) ได้ไม่นาน นิวคาสเซิ่ลพลิกสถานการณ์จากทีมหนีตกชั้น กลายเป็นจบอันดับกลางตารางได้แบบสวยๆ เมื่อเสริมทัพได้ดีขึ้นในตลาดมกราคม 2022 ด้วยนักเตะอย่าง คีแรน ทริปเปียร์, แดน เบิร์น, บรูโน่ กีมาไรส์ ที่กลายเป็นตัวหลักมายาวๆ จนถึงตอนนี้

พอถึงช่วงซัมเมอร์ 2022 ทีมสาลิกาดงคว้าตัว นิค โป๊ป, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, สเวน บ็อตมัน เข้ามาเสริมแกร่งอีก บวกกับฟอร์มที่ร้อนแรงขึ้นมาของปีกขวาอย่าง มิเกล อัลมิร่อน ทำให้กลายเป็นทีมที่แพ้ยากทีมหนึ่งของพรีเมียร์ลีก และมีเกมในบ้านที่แข็งแกร่ง

ช่วง 7 นัดแรกของฤดูกาล 2022-23 นิวคาสเซิ่ลดูจะหนักไปที่ผลเสมอซะเยอะ แต่พอเข้าสู่เดือนตุลาคม 2022 เป็นต้นไปก็เริ่มเครื่องติด มีช่วงไม่แพ้ในพรีเมียร์ลีกนานถึง 17 นัดติดต่อกัน โดยระหว่างนัดที่ 9 จนถึงนัดที่ 17 เป็นช่วง 9 นัดที่สามารถชนะถึง 8 นัดเสมอ 1 ทำให้โอกาสติดท็อปโฟร์มีสูงทีเดียว

ในซีซั่น 2022-23 ทีมใหญ่อย่างเชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยังทำผลงานได้ย่ำแย่มากๆ จนหลุดจากโควตาลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปด้วย ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็มีช่วงหลุดฟอร์มแพ้บ่อยให้เห็น ทำให้เปิดโอกาสให้ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว สอดแทรกคว้าตั๋วไป UCL ได้ โดยจบฤดูกาลด้วยการมีแต้มมากกว่าลิเวอร์พูลที่รั้งอันดับ 5 อยู่ 4 แต้ม