แชมป์สมัย 16! ไทยดับซีเรีย 2-1 คว้าถ้วย คิงส์ คัพ หนแรกใน 7 ปี
ทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ไปครองได้สำเร็จ ถือเป็นการคว้าแชมป์ คิงส์ คัพ ได้เป็นหนแรกในรอบ 7 ปี ต่อจากที่คว้าแชมป์รายการนี้หนสุดท้ายเมื่อปี 2017 และเป็นแชมป์สมัยที่ 16 ของไทย โดยถือเป็นครั้งแรกที่คว้าถ้วยนี้ได้ในการแข่งขันที่จัดนอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังจากเอาชนะซีเรียไป 2-1 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ที่สนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา
เกมนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ จัด 11 ตัวจริงมาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ปฏิวัติ คำไหม (ผู้รักษาประตู) – นิโคลัส มิคเกลสัน, เอเลียส ดอเลาะ, โจนาธาร เข็มดี, ศศลักษณ์ ไหประโคน – วีระเทพ ป้อมพันธุ์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ – ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ชนาธิป สรงกระสินธ์ (กัปตันทีม), เอกนิษฐ์ ปัญญา – ศุภชัย ใจเด็ด
ถือว่ามีการเปลี่ยนไลน์อัพจากตัวจริงชุดเอาชนะฟิลิปปินส์ 3-1 ทั้งหมด 5 ตำแหน่ง โดย อภิสิทธิ์ โสรฎา, คคนะ คำยก, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, อนันต์ ยอดสังวาลย์ และ ปรเมศย์ อาจวิไล เกมนี้หลุดไปเป็นตัวสำรอง
ในครึ่งแรก ไทยนำก่อน 1-0 ในนาที 44 จากจังหวะที่ นิโคลัส มิคเกลสัน เติมขึ้นไปครอสจากฝั่งขวาให้ เอกนิษฐ์ ปัญญา วอลเลย์ในเขตโทษเข้าไปอย่างสุดสวย แต่ว่าครึ่งหลังซีเรียตีเสมอได้ในนาที 53 เมื่อ ศศลักษณ์ ไหประโคน จ่ายคืนหลังพลาด ทำให้ เอเซเกล ฮาม หลุดเดี่ยวไปยิงง่ายๆ ให้ทีมเยือนไล่มาเป็น 1-1
เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมออยู่แล้วใน 90 นาที แต่ “กัปตันเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ มาเป็นฮีโร่ซัดประตูชัยในนาที 90+1 เมื่อเก็บตกลูกยิงของ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว กองกลางที่ลงมาเป็นตัวสำรองที่ซัดเรียดไปติดบล็อค แล้วกดเต็มข้อด้วยเท้าซ้ายนอกกรอบเขตโทษเข้าไปอย่างสุดงาม ทำให้ทีมช้างศึกในยุคของ มาซาทาดะ อิชิอิ ชนะเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันรวมทุกรายการแล้ว และเตรียมขยับอันดับโลกบนแรงกิ้งฟีฟ่าให้สูงขึ้นไปอีก เพราะได้คะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งเพิ่มอีกถึง 5.3 คะแนน
สำหรับเกมนัดชิงอันดับ 3 ที่จบลงไปก่อนหน้านั้น ฟิลิปปินส์เอาชนะทาจิกิสถานไป 3-0
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.