โทนี ชูมัคเกอร์ : โกลแชมป์ยูโรที่คนฝรั่งเศสเกลียดยิ่งกว่าฮิตเลอร์

Maruak Tanniyom

June 28, 2024 · 2 min read

โทนี ชูมัคเกอร์ : โกลแชมป์ยูโรที่คนฝรั่งเศสเกลียดยิ่งกว่าฮิตเลอร์
ฟุตบอล | June 28, 2024

แม้จะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ แต่ผลเสมอกับ โปแลนด์ในนัดสุดท้าย ทำให้ ฝรั่งเศส เป็นได้แค่รองแชมป์กลุ่ม ตกมาอยู่สายล่าง และมีโอกาสเจอกับเจ้าภาพอย่าง เยอรมัน ในรอบตัดเชือก ยูโร 2024

และหากผลการแข่งขันเป็นใจ นี่จะเป็นการรีแมตช์ หนึ่งในเกมสุดอื้อฉาวในปี 1982 และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ โทนี ชูมัคเกอร์ นายด่านอินทรีเหล็ก ถูกคนฝรั่งเศสเกลียดยิ่งกว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำพรรคนาซี ที่บุกยึดฝรั่งเศส ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียอีก

เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น? ติดตามไปพร้อมกัน

สำหรับ เยอรมัน และฝรั่งเศส พวกเขาเป็นคู่ขัดแย้งมาตั้งแต่ยังไม่เป็นประเทศ ไล่มาตั้งแต่สงครามปรัสเซีย-ฟรังโก, สงครามโลกครั้งที่ 1 และศึกที่ ฝรั่งเศส อับอายที่สุดก็คือ สงครามโลกครั้งที่ 2

ครั้งนั้น ฝรั่งเศส ที่ภาคภูมิใจในแสนยานุภาพของตัวเอง หลังเป็นผู้ชนะในสงครามโลกครั้งแรก กลับถูกเยอรมัน ที่มี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แห่งพรรคนาซี เป็นผู้นำ ตีแตกในเวลาอันรวดเร็วเพียงแค่ 46 วันเท่านั้น

ความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในครั้งนั้น ทำให้ชาวฝรั่งเศส รู้สึกเคียดแค้น และเกลียดชังเยอรมัน โดยเฉพาะ ฮิตเลอร์ เป็นอย่างมาก มันเป็นความรู้สึกที่ฝังใจ ที่ยังคงอยู่แม้ว่าสงครามจะจบลงแล้วด้วยซ้ำ

จนกระทั่งในปี 1982 ฝรั่งเศส และเยอรมันตะวันตก หนึ่งในดินแดนที่ถูกแบ่งเป็นสอง หลังสงคราม ต้องโคจรมาพบกัน ในฟุตบอลโลก ที่สเปน ในรอบรองชนะเลิศ

อันที่จริงในช่วงแรก เกมก็ดำเนินไปปกติ และเป็นเยอรมันตะวันตก ที่เป็นแชมป์เก่าเมื่อ 4 ปีก่อน เป็นฝ่ายได้เฮก่อน จากจังหวะที่ ปิแอร์ ลิตบาร์สกี ซ้ำลูกยิงของ เคลาส์ ฟิชเชอร์ ที่ติดเซฟ ฌอง ลุค เอ็ตโตรี โกลฝรั่งเศสเข้าไปตั้งแต่นาทีที่ 17

ทว่าในช่วงครึ่งหลัง ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น จากจังหวะที่ มิเชล พลาตินี จ่ายบอลให้ ปาทริค บัตติสตอง กองหลังของฝรั่งเศสขึ้นมายิง ก่อนจะเข้าไปปะทะกับ เฮอราลด์ “โทนี” ชูมัคเกอร์ ผู้รักษาประตูเยอรมันตะวันตก จนแน่นิ่งไป

มองอย่างผิวเผิน มันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ในทุกเกม แต่อาการของ บัตติสตอง แย่กว่าที่คิด เขาแทบไม่ได้สติ จนต้องเรียกเปลมาหาม และนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

ก่อนที่ภาพช้าในเสี้ยววินาทีจะไขปริศนาว่า ในจังหวะที่ บัตติสตอง ถไลไปชนกับ ชูมัคเกอร์ มันไม่ใช่การปะทะกันธรรมดา แต่นายด่านอินทรีเหล็กหันสะโพกเข้าหา แล้วเอาท่อนแขนฟาดไปที่คู่แข่งอย่างจัง

จากผลดังกล่าวทำให้ บัตติสตอง ฟันหัก 3 ซี่ ซี่โครงร้าว กระดูกสันหลังเสียหายบางส่วน ที่ทำให้เขาอยู่ในภาวะโคม่า และต้องใช้เวลารักษาถึง 6 เดือนกว่าจะหายเป็นปกติ

แต่ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ ฝรั่งเศส ไม่ได้ฟาวล์ แถมชูมัคเกอร์ ก็ไม่ได้ถูกคาดโทษอะไร เนื่องจาก ชาร์ล โคเวอร์ ผู้ตัดสินในวันนั้น ไม่เห็นเหตุการณ์

“โชคร้ายที่ผมไม่เห็นการชนกัน เพราะว่าผมกำลังตามบอลที่หลุดกรอบออกไป” โคเวอร์ให้สัมภาษณ์กับ L’Equipe เมื่อปี 2012

“ผมเข้าไปถามผู้ช่วยของผมทันทีว่าเห็นเหตุการณ์มั้ย และเขาก็บอกผมว่าในความคิดของเขามันไม่ใช่ความตั้งใจ ดังนั้นผมจึงทำอะไรไม่ได้เลย”

ทว่า สิ่งที่ทำให้ชาวฝรั่งเศสเจ็บแค้นมากที่สุดคือ ท่าทีของ ชูมัคเกอร์ ที่ไม่ยี่หระ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งที่ทำให้เพื่อนร่วมอาชีพบาดเจ็บขนาดนั้น แถมยังแสดงออกถึงความเบื่อหน่าย ระหว่างรอการเคลื่อนย้าย บัตติสตอง ออกจากสนาม

แม้ว่าสุดท้าย ชูมัคเกอร์ จะกลายเป็นฮีโร่ ของเยอรมันตะวันตก หลังเซฟได้ถึง 2 ครั้งในช่วงการดวลจุดโทษ พาทีมเข้าชิงชนะเลิศไปเจอ อิตาลี แต่เสียงก่นด่าเขาจากทั่วทุกสารทิศ ก็ตามมาหลังเกมนั้น

แถมหลังจบทัวร์นาเมนต์ เขายังกลายเป็นคนที่ชาวฝรั่งเศสเกลียดมากที่สุด จากการสำรวจของหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส โดยเอาชนะ ฮิตเลอร์ ที่ตามมาเป็นอันดับ 2

นอกจากนี้ การกระทำของ ชูมัคเกอร์ ยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศส และเยอรมันตะวันตกต้องสั่นคลอน จนถึงขนาดที่ เฮลมุต ชมิดท์ นายกรัฐมนตรีเยอรมันตะวันตก ต้องส่งโทรเลขหา ฟรองชัวร์ มิตเตอร์รองด์ ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างสองชาติ

อย่างไรก็ดี ชูมัคเกอร์ ยืนยันว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นวิธีเข้าหาบอลโดยไม่เจ็บที่เขาเรียนมา และเขาก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และยินดีที่จะช่วยออกค่าทำฟันให้

“ผมไม่ได้อยากทำให้เขาบาดเจ็บ แต่จะทำในสิ่งเดิมอีกครั้งหากมันเกิดขึ้นอีก มันเป็นวิธีเดียวที่จะได้บอล” ชูมัคเกอร์กล่าวกับ Le Figaro

“ผมเสียใจที่ตัวแทนของเยอรมันและผม ไม่ได้ไปโรงพยาบาลทันทีที่ได้ข่าวของปาทริค บัตทิสตอง”

ส่วนเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ได้เข้าไปดูอาการคู่แข่ง เขาอ้างว่าเป็นเพราะความกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง เนื่องจากอาการของ บัตติสตอง ดูจะไม่สู้ดี

“ความลับคือผมกลัวว่า บัตติสตอง จะได้รับบาดเจ็บหนัก หรืออยู่ในภาวะโคม่า” ชูมัคเกอร์อธิบาย

ซึ่ง บัตติสตอง ก็เข้าใจ ทำให้หลังจากที่เขารักษาตัวจนหายดี ก็ได้นัดเจอกับ ชูมัคเกอร์ เพื่อเคลียร์ความในใจ แม้ว่าสุดท้ายจะจบลงด้วยการเจอกับสื่อฝรั่งเศสที่ตามมาทำข่าวก็ตาม

“บางทีเขาอาจจะรู้สึกสำนึกผิด มันสามารถดึงข้อสรุปในสิ่งที่เขารู้สึก ทั้งหมดที่ผมรู้คือชูมัคเกอร์ เป็นคนที่ชัยชนะมีค่าเหนือทุกสิ่ง และเขาก็ทำมันตลอดในเย็นวันนั้น” บัตทิสตองกล่าวกับ Goal

จนกระทั่งในปี 1984 ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลายลง หลังทั้งคู่ได้เจอกันอีกครั้งในเกมกระชับมิตร ระหว่าง ฝรั่งเศส และเยอรมันตะวันตก ที่สตาร์บูร์ก

แม้ว่าก่อนเกมเริ่มเกมจะเต็มไปด้วยความตึงเครียด จนถึงขั้นต้องขั้นต้องวางรั้วลวดหนามไว้ที่ริมสนาม พร้อมด้วยตำรวจ เพื่อรักษาความปลอดภัย แต่ชัยชนะของ ฝรั่งเศส ก็ทำให้ความรู้สึกเคียดแค้นของชาวฝรั่งเศสนั้นเริ่มเบาบางลง

“ฝรั่งเศสชนะ 1-0 แต่ผมเล่นได้ดี และเมื่อเกมเดินหน้าไปเรื่อยๆ ผู้คนก็เริ่มปรบมือให้ผม” ชูมัคเกอร์ กล่าว

“ผมแลกเสื้อกับ บัตติสตอง แต่แลกในห้องแต่งตัว ไม่ได้แลกในสนาม”

ก่อนที่หลังจากนั้น มันจะกลายเป็นแค่เหตุการณ์หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์