“เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” นี่คือวลีที่หลายๆ คนมักจะใช้ปลุกใจ และแน่นอนว่าทุกทีมที่เข้าสู่ฤดูกาลใหม่ของพรีเมียร์ลีก ต่างต้องการประเดิมเกมแรกสุดของซีซั่นด้วยชัยชนะกันทั้งนั้น เพื่อเป็นกำลังใจสำคัญสำหรับการลุ้นเก็บแต้ม และรักษาโอกาสลุ้นจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้คงอยู่นานๆ
ในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024-25 หลังจากจบการแข่งขันวันที่ 2 หรือคืนวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2024 ทีมที่ขึ้นไปนำจ่าฝูงของตารางตอนนี้คือไบรท์ตัน ซึ่งบุกไปถล่มเอฟเวอร์ตันถึง กูดิสัน พาร์ค แบบสบายเท้า 3-0 ซึ่งหลายคนก็รอจับตาดูว่า ทีมที่จะลงแข่งทีหลังในวันอาทิตย์ หรือคืนวันจันทร์ จะมีใครที่ทำผลงานในเกมเปิดหัวฤดูกาลนี้ได้ดีกว่าทีมนกนางนวลหรือเปล่า เพราะทีมที่ทำได้จะแซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงแทนทันที
อย่างไรก็ตาม การเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกหลังจากทุกทีมแข่งกันไปทีมละ 1 นัด แทบไม่ช่วยอะไรกับการลุ้นแชมป์ในบั้นปลายสักเท่าไร เพราะหลังจากที่เราไปย้อนดูสถิติของทีมที่รั้งอันดับ 1 หลังจบเกมแรกของพรีเมียร์ลีกทุกฤดูกาล นับตั้งแต่ซีซั่น 1992-93 เป็นต้นมา จนกระทั่งจบฤดูกาลที่แล้ว มีทีมที่เป็นจ่าฝูงในนัดแรกแล้วจบซีซั่นด้วยการเป็นแชมป์แค่ 4 ทีมเท่านั้น หรือมีอัตราส่วนเพียง 12.5%
แล้วสิ่งที่น่าสนใจก็คือตลอด 4 ฤดูกาลหลังสุด หรือนับตั้งแต่ฤดูกาล 2020-21 เป็นต้นมา ทีมที่จบนัดแรกด้วยการขึ้นนำจ่าฝูง จะไม่สามารถทำอันดับติดท็อปโฟร์ได้ด้วยซ้ำ ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แม้จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้มากถึง 6 สมัย และเป็นแชมป์มาตลอด 4 ฤดูกาลหลังสุด แต่ทีมเรือใบสีฟ้าในยุคของเป๊ปก็เคยจบนัดแรกด้วยการเป็นจ่าฝูงแค่หนเดียวเท่านั้น คือในฤดูกาล 2019-20 ที่เปิดฉากด้วยการบุกถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 5-0 แต่ซีซั่นดังกล่าว พวกเขาก็ไม่ได้เป็นแชมป์แต่อย่างใด
สรุปทีมที่นำจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกหลังจบนัดแรกของทุกฤดูกาล พร้อมอันดับเมื่อจบซีซั่น
1992-93 : นอริช ซิตี้ (จบอันดับ 3)
1993-94 : โคเวนทรี ซิตี้ (จบอันดับ 11)
1994-95 : ลิเวอร์พูล (จบอันดับ 4)
1995-96 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (จบอันดับ 2)
1996-97 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (คว้าแชมป์)
1997-98 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (จบอันดับ 2)
1998-99 : วิมเบิลดัน (จบอันดับ 16)
1999-2000 : เชลซี (จบอันดับ 5)
2000-01 : ชาร์ลตัน แอธเลติก (จบอันดับ 9)
2001-02 : โบลตัน วันเดอเรอร์ส (จบอันดับ 16)
2002-03 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (จบอันดับ 3)
2003-04 : แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (จบอันดับ 15)
2004-05 : อาร์เซน่อล (จบอันดับ 2)
2005-06 : ชาร์ลตัน แอธเลติก (จบอันดับ 13)
2006-07 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (คว้าแชมป์)
2007-08 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (จบอันดับ 12)
2008-09 : เชลซี (จบอันดับ 3)
2009-10 : อาร์เซน่อล (จบอันดับ 3)
2010-11 : เชลซี (จบอันดับ 2)
2011-12 : โบลตัน วันเดอเรอร์ส (จบอันดับ 18 – ตกชั้น)
2012-13 : ฟูแล่ม (จบอันดับ 12)
2013-14 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (คว้าแชมป์)
2014-15 : เชลซี (คว้าแชมป์)
2015-16 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (จบอันดับ 4)
2016-17 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (จบอันดับ 6)
2017-18 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (จบอันดับ 2)
2018-19 : ลิเวอร์พูล (จบอันดับ 2)
2019-20 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (จบอันดับ 2)
2020-21 : อาร์เซน่อล (จบอันดับ 8)
2021-22 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (จบอันดับ 6)
2022-23 : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (จบอันดับ 8)
2023-24 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (จบอันดับ 7)
จะเห็นได้ว่า ทีมที่สุดท้ายจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องรีบขึ้นนำจ่าฝูงตั้งแต่นัดแรก เพราะสุดท้ายแล้ว ความสม่ำเสมอในการเก็บแต้มสะสมตลอดช่วงเวลา 10 เดือนต่างหาก ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสมากที่สุด
ส่วนทีมที่ประเดิมนัดแรกด้วยฟอร์มสวยหรู ก็ถือว่าได้ขวัญกำลังใจไปก่อน แต่ไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าฟอร์มยอดเยี่ยมที่แสดงออกมาในสัปดาห์แรกของฤดูกาล มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ตลอดในระยะยาว
เรียกได้ว่าเป็นไวรัลอีกแล้ว เมื่อ ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนานนักเตะของสโต๊ค ซิตี้ และลิเวอร์พูลหรือแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มักถูกแฟนบอลแซวเรื่องคำวิจารณ์และทายผลลัพธ์ต่างๆ อยู่เสมอว่าความแม่นยำไม่ค่อยมีนั้น ได้ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป็ป…
แม้ว่าในเกมล่าสุดที่อาร์เซนอลสามารถบุกไปเอาชนะคริสตัล พาเชซ มาได้ด้วยสกอร์สุดสวย 5-1 แต่ถ้ามองในรายละเอียดเกมทั้งหมดก็จะเห็นว่าอาร์เซนอลยังมีความผิดพลาดอยู่บ้างเล็กน้อยโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก หนึ่งในจังหวะหวาดเสียวที่สุดคือในนาทีที่ 10 ที่อาร์เซนอลพยายามจะบิ้วอัพจากหลังแต่คริสตัล พาเลซก็สามารถเพลสซิ่งได้ดี ในขณะนั้นบอลอยู่กับ เดบิด ราย่า เขามองขึ้นหน้าและเลือกจ่ายบอลไปให้ โธมัส ปาเตย์…
ถ้าพูดถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงนี้ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย มีทั้งฝั่งที่เห็นใจ เข้าใจ และฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแรชฟอร์ด ในส่วนของฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับแรชฟอร์ดต่างบอกว่าต้องการให้แรชฟอร์ดย้ายออกจากทีมไปและไม่ว่าทีมไหนที่ได้ตัวไป นั้นจะเป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งนี่อาจจะเป็นความคิดเห็นที่สุดโต่งไปหน่อยและไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้นเช่นกันกับ เอียน ไรท์ อดีตตำนานกองหน้าของอาร์เซนอล ที่ออกแสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ผมย้ายไปอาร์เซนอลตอนอายุ…
วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (20 ธันวาคม 2562) มิเกล อาเตต้า ถูกแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ หลังปลด อูไนเอเมรี่ การทำงานตลอด 5 ปี ภายใต้…
“ความคิดของผมเกี่ยวกับ กิว คือ บาร์เซโลนา ปล่อยเขามาได้อย่างไร?” โจ โคล อดีตมิดฟิลด์ของเชลซีกล่าว เชลซี ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมฟุตบอลสโมสรยุโรป หลังไล่ถล่ม แชมร็อค โรเวอร์ส 5-1 ในศึกยูฟ่า…
ควันหลงจากเกมคาราบาว คัพที่สเปอร์สเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้สุดมันส์ 4-3 โดยในเกมนี้มาเรื่องดราม่ามากมายหลายประเด็น ในทุกคนรู้หรือไม่ว่าในระหว่างเกมที่เดือดไฟลุกแบบนี้มีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆสนามและนั้นก็ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญนั้นคือก็ลูกโป่งสีเหลืองที่แฟนๆสเปอร์สร่วมกันชูขึ้น ว่าแต่ว่าลูกโป่งสีเหลืองคืออะไร พวกเขาส่งสัญญาณถึงใคร มาค่อยๆไล่เลียงกันไปครับ เกิดอะไรขึ้น? ย้อนกลับไปในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาเกิดการลักพาตัวประชาชนชาวอังกฤษขึ้นหลายคนไปฉนวนกาซา และหนึ่งในนั้นคือ Emily…