รู้จัก ชิโอะ ฟูคูดะ : แข้ง ม.ปลายญี่ปุ่น โดดเข้าบุนเดสลีกา ลงสนามแค่ 7 นัด ยิงได้เลย

ถือเป็นการเริ่มต้นปี 2025 ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ ชิโอะ ฟูคูดะ หัวหอกดาวรุ่งชาวญี่ปุ่นของ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัด หลังทำประตูได้ตั้งแต่เกมที่ 2 ของฤดูกาลนี้

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อ 24 เดือนก่อน เขามีสถานะเป็นเพียงแค่เด็กมัธยมปลาย ที่พาโรงเรียนมัธยมคามิมูระ กัคเอ็น โชว์ฟอร์มโหดในศึก “ชิงแชมป์ฤดูหนาว” เวทีศักดิ์สิทธิ์ของฟุตบอลญี่ปุ่น ครั้งที่ 101

และนี่คือเรื่องราวของ แข้งมัธยมปลาย ที่กระโดดเข้ามาเล่นในบุนเดสลีกา แล้วสร้างแรงกระเพื่อมได้ทันที

ผลผลิตบอลม.ปลายญี่ปุ่น

ชิโอะ ฟูคูดะ ถือเป็นแข้งโนเนมสมัยเยาวชน เมื่อแทบจะไม่มีใครรู้จักกับเขาเลย จนกระทั่งได้ย้ายมาเรียนมัธยมต้นกับโรงเรียนคามิมูระ กัคคุเอน สถาบันที่มีชื่อเสียงด้านชมรมกีฬาแห่งจังหวัดคาโงชิมะ ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

อันที่จริง แต่เดิมแล้ว ฟูคูดะ เริ่มเล่นในตำแหน่งกองหลัง แต่หลังจากที่ใช้เวลาไป 2 ปีกับตำแหน่งนี้ โค้ชก็ลองเปลี่ยนให้เขามาเล่นกองกลางตัวรุก และมันก็ทำให้ศักยภาพที่หลับใหลของเขาตื่นขึ้นมา

เพราะหลังจากนั้น ฟูคูดะ ก็สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นตัวรุกคนสำคัญของทีมโรงเรียน ก่อนจะพามัธยมต้นคามิมูระ เข้าไปเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติรอบสุดท้าย

ในปีดังกล่าว ฟูคูดะ ยังชกข้ามรุ่น ด้วยการถูกเรียกติดทีมอายุไม่เกิน 16 ปีของจังหวัดคาโงชิมะ และทัวร์นาเมนต์นี้ก็เป็นตอนที่เขาได้เล่นศูนย์หน้าเต็มตัว ก่อนจะยิง 2 ประตูในเกมพบทีมจังหวัดจิบะ

อย่างไรก็ดี นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะหลังตัดสินใจเรียนต่อมัธยมปลายที่คามิมูระ ฟูคูดะ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของโรงเรียน ตั้งแต่อยู่ชั้นม.4 ก่อนจะซัดประตูได้อย่างต่อเนื่องและพาคามิมูระ เข้าไปเล่นในฟุตบอลมัธยมปลายชิงแชมป์แห่งชาติญี่ปุ่น หรือศึกชิงแชมป์ฤดูหนาว ครั้งที่ 99

ทั้งนี้ แม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้ลงเล่นในชิงแชมป์ฤดูหนาวรอบสุดท้าย แต่ ฟูคูดะ ก็ไม่ได้ตื่นกลัว เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น แถมยังกลายเป็นฮีโรซัดประตูชัยให้ทีมในรอบที่ 2 จนได้รับเลือกเป็นหนึ่งในกองหน้ายอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ ซึ่งเป็นเด็ก ม.4 คนเดียวในตำแหน่งนี้

จุดเด่นของ ฟูคูดะ คือการเคลื่อนที่ เขาเป็นกองหน้าที่หาตำแหน่งได้ดีมาก แถมยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ ที่ทำให้เขาสามารถทำประตูได้หลากหลายรูปแบบ และเกือบทุกมุมของสนาม

หลังจากนั้น “ชิงแชมป์ฤดูหนาว” ก็กลายเป็นเวทีประจำของฟูคูดะ เขาสามารถพาคามิมูระ มาเล่นในรอบสุดท้ายได้ทุกปี ทว่าที่น่าจดจำที่สุดคือตอนเขาอยู่ ม.6 เมื่อสามารถพาโรงเรียนเข้าไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย ก่อนจะพ่าย โรงเรียนโอคายามะ กัคคุเกคัง ที่ต่อมาเป็นแชมป์ในบั้นปลาย

แต่ถึงอย่างนั้น ฟูคูดะ ก็ยังได้รางวัลปลอบใจในฐานะดาวซัลโวร่วมของทัวร์นาเมนต์ หลังทำไป 3 ประตูในชิงแชมป์ฤดูหนาวครั้งที่ 101 นอกจากนี้ เขายังได้รับเลือกให้เป็นกองหน้ายอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

แน่นอนว่าผลงานดังกล่าว ทำให้ ฟูคูดะ ได้รับการจับตามองจากสโมสรในเจลีก ทว่ามันก็ช้าไป เมื่อตอนนั้นเขาได้เซ็นสัญญาล่วงหน้ากับ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัด ในบุนเดสลีกาของเยอรมันไปแล้ว

จากมัธยมสู่ระดับโลก

ฟูคูดะ บอกว่าเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจมายุโรปทันทีหลังจบมัธยมปลาย แทนที่จะหาประสบการณ์ในเจลีกก่อน เป็นเพราะการมีโอกาสได้คุยกับ โค อิทาคุระ และ มายะ โยชิดะ สองดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น ตอนเดินทางมาเยอรมัน

“อิทาคุระซังบอกผมว่า ‘ถ้านายมีประสบการณ์กับเวทีระดับโลกตั้งแต่อายุยังน้อย มันจะเปลี่ยนอนาคตนายได้เลยนะ’” ฟูคูดะ กล่าวกับ Soccer Digest

แม้ว่าในช่วงแรก ฟูคูดะ ถูกส่งไปให้ทีม U19 ของ มึนเช่นกลัดบัด เพื่อปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในเยอรมัน แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าฝีเท้าดีกว่าจะเล่นในระดับเยาวชน เมื่อสามารถซัดประตูให้ทีมไปถึง 7 ประตูจาก 8 นัด

ทำให้ฤดูกาลต่อมา ดาวยิงจากคาโงชิมะ ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในทีมสำรองของ มึนเช่นกลัดบัด และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อทำไป 7 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ จาก 21 นัด โดยได้รับโอกาสลงเล่นในบุนเดสลีกาไปถึง 5 เกมในฤดูกาล 2023-2024 ที่ผ่านมา

“ชิโอะ แสดงให้เราเห็นในการซ้อม เขามีสายตาที่เฉียบคมในกรอบเขตโทษ และเคลื่อนที่เข้าไปในพื้นที่สุดท้ายได้ดี เขามีทั้งความคล่องตัว ความเร็ว และทรงพลัง” เจอร์ราโด เซอัวเน กุนซือของมึนเชนกลัดบัดกล่าว

และฤดูกาลนี้ ฟูคูดะ ในวัย 20 ปี ก็ยังรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมในทีมสำรองของ มึนเชนกลัดบัด ด้วยผลงาน 4 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์จาก 10 เกม และถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสรตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นมา

ทว่าสิ่งที่ต่างไปจากซีซั่นที่แล้วคือ ฟูคูดะ ใช้เวลาเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น ก็สามารถเบิกประตูในบุนเดสลีกา หลังเป็นผู้ยิงตีตื้นในเกมบุกพ่าย โวล์ฟบวร์ก 5-1 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

ประตูดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงจุดแข่งเขาเป็นอย่างดี หลังเป็นผู้แตะบอลได้ก่อนจากจังหวะส่วนกลับ ก่อนจะฉีกหนีตัวประกบ เข้าไปยิงสวนตัวผู้รักษาประตูเจ้าบ้านเข้าไปอย่างเลือดเย็น

นอกจากนี้ มันยังแสดงให้เห็นถึงเซนส์บอลที่ยอดเยี่ยม และความนิ่งที่เกินตัว ทำให้คาดกันว่าเขาน่าจะได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่ของ มึนเชนกลัดบัด มากขึ้น ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง

“มีผู้เล่นไม่มากที่ย้ายมาเล่นในต่างประเทศทันทีแล้วประสบความสำเร็จ แต่ผมก็อยากสร้างตัวอย่างของความสำเร็จนั้น ผมจึงต้องประสบความสำเร็จให้ได้” ฟูคูดะ กล่าว

ก็มารอดูกันว่า ฟูคูดะ จะสามารถเบิกสกอร์เพิ่มได้อีกหรือไม่ หรือทำผลงานเป็นอย่างไรต่อจากนี้ แต่ที่ชัดเจนก็คือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดก็คือวงการฟุตบอลญี่ปุ่นอย่างแน่นอน