แกรห์ม พ็อตเตอร์ อดีตกุนซือของไบรท์ตันและเชลซี ให้สัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ตส์ ระหว่างที่เข้ารับปริญญาเอกกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัย ลีดส์ เบ็คเก็ตต์ โดยยังสงวนท่าทีเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่าตัวเองมีโอกาสได้ตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติอังกฤษคนต่อไป หลังจากที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ประกาศลาออกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
“วันนี้ไม่ใช่วันที่จะมาพูดถึงเรืองนั้น” พ็อตเตอร์ตอบนักข่าว เมื่อถูกถามว่าคิดยังไงกับตำแหน่งกุนซือทีมชาติอังกฤษที่กำลังว่างอยู่ในตอนนี้
โดยพ็อตเตอร์ได้กล่าวชื่นชมผลงานที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ทำตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถพาทีมสิงโตคำรามคว้าโทรฟี่มาครองได้สำเร็จ แต่ก็ถือว่าวางตัวในบทบาทนายใหญ่ทัพ ทรี ไลอ้อนส์ ได้อย่างยอดเยี่ยม และรักษาผลงานโดยรวมอยู่ในมาตรฐานระดับสูง
“ผมภูมิใจไปกับงานที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้ทำ ในฐานะชาวอังกฤษในวงการฟุตบอล ผมไม่คิดว่าจะมีใครที่มีความเคารพมากไปกว่าที่เขามี ทั้งในแง่การประพฤติตนของเขาเองรวมถึงทีมงานสต๊าฟฟ์ของเขา การผ่านรอบคัดเลือกในหลายๆ ทัวร์นาเมนต์ และเข้ารอบลึกๆ ในทัวร์นาเมนต์ โดยทำให้ทั้งประเทศหนุนหลังเขา เขาทำงานที่มหัศจรรย์”
“ผมอยากจะอวยพรให้เขาโชคดี ผมหวังว่าเขาจะมีช่วงพักที่ดี และขออวยพรให้เขาสำหรับสิ่งใดก็ตามที่เขาจะตัดสินใจต่อไป”
พ็อตเตอร์ยังเผยอีกว่า ช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่โดนเชลซีปลดออกจากตำแหน่งกุนซือเมื่อเดือนเมษายน 2023 และว่างงานมานานกว่า 1 ปีเต็ม เขามีโอกาสได้รับการทาบทามจากหลายๆ ทีม แต่ที่ยังไม่ได้งานใหม่ในตอนนี้ เพราะตัวเขาเองคิดว่ายังไม่เจอกับโอกาสที่เหมาะสม แต่ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะรับงานคุมทีมอีกครั้ง แต่รอจังหวะได้งานที่ใช่สำหรับตัวเองเท่านั้น
“ผมได้คุยกับหลายๆ ทีมและหลายๆ สโมสร แต่ผมก็ตระหนักดีว่าการเดินทางนั้นมันคือการเดินทางที่ยาวนานและยากลำบาก นอกเสียจากโอกาสที่เหมาะสมมันจะมาถึง ผมจะไม่รีบกลับไปสู่วงการฟุตบอล มันจะต้องเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับผมด้วย”
“ผมได้คุยกับหลายสโมสร แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ใช่เลย มันเป็นเรื่องสำคัญที่ผมอดทนและรอคอยโอกาสที่ใช่ และใช้เวลาไปกับครอบครัวในการไตร่ตรองเกี่ยวกับสิ่งที่ผมอยากจะทำ”
“ตอนนี้ผมอยู่ในจุดที่ดีที่ผมมีความสุขสำหรับการเตรียมพร้อม และมองหาความท้าทายครั้งต่อไป”
“ผมมีช่วงเบรกที่ยอดเยี่ยม การเดินทางจากจุดที่ผมเริ่มต้นจนถึงจุดที่ผมสิ้นสุดมันไม่ได้มาแบบฟรีๆ การต้องย้ายไปทำงานใน 3 ประเทศ (สวีเดน, เวลส์, อังกฤษ) กับครอบครัวที่ยังเด็ก และทั้งหมดนั้นมาพร้อมกับการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล”
“มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมที่จะได้พักเบรก, ไตร่ตรอง และเติมพลังอีกครั้ง มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะมองดูสิ่งอื่นบ้างนอกเหนือจากกีฬา หรือทีมอื่นๆ และได้ไปเยี่ยมชมหลายๆ สถานที่”
“ผมรู้สึกพร้อมจริงๆ และตื่นเต้นมากที่จะได้กลับมาทำงานเมื่อโอกาสที่ใช่เข้ามาถึง”
ทั้งนี้โค้ชชาวอังกฤษยืนยันว่า เขาพอใจมากๆ กับเส้นทางอาชีพกุนซือตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา และเขาภาคภูมิใจกับผลงานทั้งหมดของตัวเอง ซึ่งถ้าหากเขาทำได้แบบนั้นอีกกับงานคุมทีมต่อไป เขาก็คิดว่ามันคือผลงานที่น่าพอใจ
“ถ้าหากสิ่งที่จะมาถึงมันเป็นอะไรที่เหมือนกับ 12 ปีที่ผ่านมา ผมจะยินดีเลย”
“ผมเลื่อนชั้น 3 ครั้งที่สวีเดน และคว้าโทรฟี่ระดับเมเจอร์ได้ในสวีเดน ได้ผ่านเข้าไปเล่น ยูโรปา ลีก และเข้ารอบ ยูโรปา ลีก ด้วยทีมจากทางตอนเหนือของสวีเดน ผมได้ช่วยให้สวอนซีกลับไปเดินถูกทาง และออกจากไบรท์ตันตอนที่ทีมรั้งอันดับ 4 ของตาราง ด้วยขุมกำลังที่ถ้าเทียบแบบปอนด์ต่อปอนด์อาจจะดีที่สุดของลีกในตอนนั้น มันคือความสำเร็จที่เหลือเชื่อด้วยผู้คนมากมาย ถ้าหากผมทำได้อีกครั้ง ผมคงจะพอใจมาก”
“ผมรู้สึกว่าอยู่ในสถานที่ที่ดี ประสบการณ์ทุกอย่างที่ผมมีทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น และเป็นโค้ชที่ดีขึ้น ทั้งในแง่ดีและร้าย”
“ประสบการณ์กับเชลซีมันคือประสบการณ์ที่มหัศจรรย์สำหรับผม ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้จบลงในแบบที่ผมต้องการในท้ายที่สุด ตอนนี้มันคือเรื่องของการก้าวต่อไปข้างหน้าอีก”
โดย ณ ตอนนี้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษหรือเอฟเอ จะพยายามมองหาคนที่เหมาะสมจะมารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ต่อไป แต่ถ้าหากได้กุนซือคนใหม่ไม่ทันเดือนกันยายนนี้ ที่ทีมมีโปรแกรมทำศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ก็น่าจะต้องให้ ลี คาร์สลี่ย์ เฮดโค้ชของทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปีทำหน้าที่คุมทีมขัดตาทัพแทนไปก่อน
เขาเพิ่งจะโชว์ลีลาการลากเลื้อยจากฝั่งตัวเองไปซัดประตูปิดกล่องให้โรงเรียนคว้าแชมป์จังหวัด พร้อมได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในศึกชิงแชมป์ฤดูหนาวทั่วประเทศ เขาคือคนที่ติดทีมชาติญี่ปุ่นชุด U17 ตั้งแต่อยู่ ม.4 และอยู่ในทีมชุดแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศไทย และเขาคนนี้ก็เป็นเพียงไม่กี่คนที่มาจากทีมโรงเรียนที่ติดทีมชาติญี่ปุ่นไปเล่นฟุตบอลโลก U17 2024 รอบสุดท้าย ก่อนจะซัดไป 4…
เรื่องราวของ ไอมาน เคลีฟ นักชกแชมป์เหรียญทองโอลิมปิกที่ ปารีส กำลังเป็นประเด็นเพราะมีการเปิดเผยว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นผู้ชาย โดยในโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา เคลิฟ สร้างกระแสเป็นอย่างมาก เพราะชกนักชกอิตาลีจนฝั่งอิตาลีต้องขอยอมแพ้ และบอกว่านี่คือหมัดที่หนักที่สุดในชีวิต ซึ่งตอนนั้นกระแสก็ไปหลายทาง บอกคนบอก…
"อันเชล็อตติ ทำอะไรผิดน่ะเหรอ ? ... ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน" นี่คือคำตอบผ่านสื่อของของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ที่ไล่ คาร์โล อันเชล็อตติ ออกจากการเป็นกุนซือในฤดูกาล…
แม้ว่าจะ เอริค เทน ฮาก ถูกปลดจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ในฤดูกาลนี้ แต่ต้องยอมรับว่าการซื้อขายนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของเขา มีความคึกคักเป็นพิเศษ ด้วยผู้เล่นขาเข้า 6 รายในราคารวมกันเกือบ 200…
เอริค คันโตนา คือนักเตะที่แฟน ๆ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีวันลืมลง เขาเป็นคนที่ย้ายมาอยู่กับทีมในปี 1992 และเป็นคนที่เริ่มต้นยุคสมัยความยิ่งใหญ่ของทีมปีศาจเเดงก็คงไม่ผิดนัก ไม่ว่าสตาฟโค้ช, เพื่อนร่วมทีม และแม้แต่ เซอร์…
เรื่องของ เจมี่ วาร์ดี้ นั้นชัดเจนมาก นับตั้งแต่เขาเเจ้งเกิดกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เขาก็กลายเป็น "เดอะ แบก" ของทีมมาจนถึงทุกวันนี้ โดยช่วงฤดูกาล 2015-16 ที่เลสเตอร์คว้าเเชมป์พรีเมียร์ลีกนั้นเป็นปีที่วาร์ดี้พีกสุด ๆ…