เวสลี่ย์ สไนเดอร์ : ชีวิตที่ เรอัล มาดริด ต้องพังยับเพราะหลงแสงสี-ติดเหล้าจัดๆ

Rittichai Sermsuteeanuwat

June 09, 2024 · 1 min read

เวสลี่ย์ สไนเดอร์ : ชีวิตที่ เรอัล มาดริด ต้องพังยับเพราะหลงแสงสี-ติดเหล้าจัดๆ
ฟุตบอล | June 09, 2024

9 มิถุนายน 2024 นี่คือวันสำคัญของอดีตแข้งดังที่ชื่อ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ที่อายุเข้าสู่หลักสี่อย่างเป็นทางการ นี่คือผู้เล่นกองกลางตัวรุกที่ได้รับการยกย่องในเรื่องความสามารถที่รอบด้าน โดยเฉพาะการจบสกอร์จากลูกยิงไกลที่เด็ดดวงสุดๆ

บนเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพกว่า 17 ปีถ้าจะให้พูดถึงช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตก็คงต้องยกให้ช่วงเวลาค้าแข้งที่ เรอัล มาดริด

ตอนอายุ 20 ต้นๆ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ได้ชื่อว่าเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งจากฟอร์มอันร้อนแรงกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จน เรอัล มาดริด ต้องคว้าตัวมาร่วมทีมในปี 2007 ถึงจะได้ลงเล่นไป 66 นัด ยิง 11 ประตู กดไปอีก 12 แอสซิสต์ ตลอดช่วง 2 ฤดูกาล

ถึงแม้จะเป็นตัวเลขสถิติและผลงานที่ไม่ได้เลวเลยแต่ที่บอกว่ามันล้มเหลวและพังไม่เป็นท่านั่นก็คือชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่ดันไปติดแอลกอฮอล์แบบจัดๆ ในระดับที่ขาดไม่ได้

“ตอนนั้นผมยังเด็ก และผมชื่นชอบความสำเร็จและการเป็นจุดสนใจ แต่หลายๆ สิ่งที่เลวร้ายก็เกิดขึ้นที่นั่น ผมไม่ได้ติดยานะ แต่ผมติดเหล้าหนักมา ผมคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบคนดัง คุณกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในฐานะผู้เล่นของ เรอัล มาดริด แม้แต่ตอนที่เมาผมก็เดินออกไปตามท้องถนนและใช้เงินหลายพันยูโรเพื่อซื้อเครื่องดื่มในทุกๆ ที่ๆ ไป”

“ผมไม่สามารถพูดได้ว่าผมขาดอะไร ผมเล่นได้ค่อนข้างดี แต่หลายๆ คนก็พูดว่าผมทำได้ดีกว่านี้อีกเยอะ จากนั้นผมเริ่มมีปัญหา ผมไม่ชอบการอยู่คนเดียว ทำไมผมถึงไม่มีเพื่อนที่จะใช้เวลาร่วมกัน ? เพื่อนที่ดีที่สุดของผม ณ ตอนนั้นคือขวดวอดก้า”

“ในเรื่องของสภาพร่างกายผมไม่รู้สึกตัวเลย ผมตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็ซ้อมต่อไปแต่มันก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ และมีสมาธิน้อยลงแบบเห็นได้ชัด”

“ผมโกหกตัวเองโดยบอกว่าทุกๆ อย่างกำลังเป็นไปด้วยดีใช้พึ่งไปที่การใช้พรสวรรค์ของผมคือการเล่นได้อัจฉริยะ ผมเริ่มดูโทรม วิ่งได้น้อยลง ผมพยายามหนีหน้าโค้ชบ่อยขึ้น ผมก็คิดว่าคงไม่มีใครสังเกตเห็นผมหรอกมั้ง”

“แต่ไปๆ มาๆ เพื่อนร่วมทีมก็เริ่มเข้ามาพูดเรื่องนี้กับผม มี รุด ฟาน นิสเตลรอย มี อาร์เยน ร็อบเบน พวกเขาตำหนิผมและบอกให้ผมรักษาวินัยการเล่นฟุตบอลให้ดีกว่านี้”

สุดท้าย เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ก็กลายเป็นผู้เล่นที่ เรอัล มาดริด ไม่ปฏิเสธถ้าต้องโละทิ้ง ก่อนจะเก็บข้าวของมาอยู่กับ อินเตอร มิลาน ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ และกลับมามีช่วงชีวิตที่ดีอีกครั้ง คว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ ปี 2010 และได้ตำแหน่งรองแชมป์ ฟุตบอลโลก ที่ แอฟริกาใต้ ในปีเดียวกัน

แต่ก็น่าเสียดายที่สุดท้าย เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ที่ใครต่างต่อต่างก็มั่นใจว่าในปีนั้นเขาต้องเป็นผู้ชนะรางวัล บัลลงดอร์ แต่สุดท้ายรางวัลก็ตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ แบบไม่เอกฉันท์