ฟุตบอล

ชวนคิดถึง : สื่อดังจัดอันดับ 17 อันดับ ดูโอ้ดาวยิงยุคสมัย “กองหน้าคู่”

ใครที่ดูบอลมาตั้งแต่ยุค 80s-90s คงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างในฟุตบอลปัจจุบัน

และ 1 ในนั้นคือระบบการเล่นที่เป็นที่นิยมอย่าง 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 ที่ทำให้ระบบคลาสสิกอย่าง 4-4-2 พร้อมคู่หูกองหน้าต้องหายไป

ถ้าคุณเริ่มเบื่อ ๆ ระบบฟอลซ์ 9 หรือการใช้กองกลางตัวรุก และคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ นี่คือ 17 คู่หน้าที่เข้าขา-รู้ใจ มากที่สุดที่ FourFourTwo เว็บไซต์บทความฟุตบอลชื่อดังจัดเอาไว้

มีคู่ที่โดนใจในความทรงจำของคุณบ้างหรือเปล่านะ ?

 

เอียน รัช – เคนนี่ ดัลกริช (ลิเวอร์พูล)

ทั้งคู่ได้รับการพูดถึงอยู่บ่อยครั้งว่าเป็นคู่หูแดนหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการลูกหนังอังกฤษ และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรนัก เมื่อดัลกริชที่มีทักษะระดับสุดยอด บวกกับความรวดเร็วและการจบสกอร์ที่เฉียบขาดของรัช คือสิ่งที่ทำให้เครื่องจักรสีแดงครองความยิ่งใหญ่ทั้งในอังกฤษและยุโรปอยู่พักใหญ่ในช่วงปี 80

 

โรมาริโอ้ – ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ (บาร์เซโลน่า)

ไม่น่าเชื่อว่านักเตะอย่างโรมาริโอ้จะค้าแข้งกับบาร์เซโลน่าแค่ 2 ปีเท่านั้น แต่ปีแรกของเขากับ เจ้าบุญทุ่มนั้น ไม่มีใครลืมเลือนอย่างแน่นอน หลังประสานงานกับสตอยช์คอฟอย่างลงตัว โดยทั้งคู่ทำประตูรวมกันในลีกถึง 46 ลูก (โรมาริโอ้ 30,สตอยช์คอฟ 16 ) และพาทีมคว้าแชมป์ลาลีก้าในฤดูกาล 1993-94 ด้วย

 

อลัน เชียเรอร์ – คริส ซัตตัน (แบล็คเบิร์น)

อลัน เชียเรอร์ และ คริส ซัตตัน หรือ คู่หู SAS ชื่อสั้นๆแต่ติดหูแฟนบอลทั่วเกาะอังกฤษ ช่วยพาทีมกุหลาบไฟคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1914 โดยในฤดูกาล 1994-95 ทั้งคู่ซัดประตูรวมกันถึง 49 ประตู แม้ทั้งคู่จะไม่สามารถโชว์ฟอร์มกระฉูดได้แบบนี้ยามสวมเครื่องแบบสิงโตคำรามก็ตาม

 

ฟิลิปโป้ อินซากี้ – อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ (ยูเวนตุส)

อินซากี้และเดล ปิเอโร่เล่นกันได้เข้าขารู้ใจ บวกกับการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมของซีเนอดีน ซีดาน จึงช่วยให้ม้าลายคว้าแชมป์เซเรียอาได้สำเร็จ รวมไปถึงพาทีมแห่งตูรินเข้ารอบชิงในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในปี 1997-98 ด้วย โดยคู่หูชาวอิตาเลี่ยนถล่มประตูรวมกันถึง 39 ประตูเลย

 

มาร์เซโล่ ซาลาส – คริสเตียน วิเอรี่ (ลาซิโอ)

แม้ซาลาสและวิเอรี่ ผู้หลงใหลในกีฬาคริกเก็ตเคยลงเล่นด้วยกันแค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้นในปี 1998-99 แต่ว่ามันก็เป็นปีที่น่าจดจำมากๆเช่นกัน ทั้งคู่ยิงประตูกันคนละ 15 ประตูในลีก ช่วยให้ทีมอินทรีฟ้าขาวจบอันดับสองในลีกและตามหลังมิลานแชมป์ในปีนั้นแค่แต้มเดียวเท่านั้น

 

แอนดี้ โคล – ดไวท์ ยอร์ค (แมนฯยูไนเต็ด)

จะเป็นไปได้อย่างไร ถ้าลิสต์นี้จะไม่มีคิงโคลและคู่หูที่ดีที่สุดของเขา? โคลและยอร์คเป็นเพื่อนซี้ที่รู้ใจกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งในและนอกสนาม ช่วงเวลาที่ทั้งแฟนๆปีศาจแดงและทีมอื่นๆน่าจะจดจำได้ดีก็คือ ฤดูกาล 1998-99 ที่ทั้งคู่เป็นหนึ่งผู้เล่นคนสำคัญที่พาทีมคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ในปีนั้นได้สำเร็จ

 

วินเซนโซ่ มอลเตลล่า – มาร์โก เดลเวชิโอ้ (โรม่า)

มอลเตลล่าและเดลเวชิโอ้เป็นกองหน้าคู่แบบเล็กผสมใหญ่สไตล์อิตาลี แต่โดดเด่นเป็นอย่างมากในฤดูกาล 1999-20 หลังทำประตูไป 19 และ 11 ลูกตามลำดับ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องน่าเศร้าพอสมควร เพราะทีมหมาป่าภายใต้การดูแลของฟาบิโอ คาเปลโล่พาทีมจบแค่ที่ 6 ในลีกเท่านั้น

 

ไนออล ควินน์ – เควิน ฟิลลิปส์  (ซันเดอร์แลนด์)

มีไม่มากนักหรอกที่คุณจะยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำแม้จะไม่ได้อยู่กับทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป และ คู่หู ควินน์กับฟิลลิปส์ คือหนึ่งในนั้น เขาซัดประตูรวมกันถึง 34 ลูกให้กับทีมแมวดำในฤดูกาล 1999-2000 ซึ่งปีนั้น ทำให้“ซูเปอร์เคฟ” เป็นนักเตะจากอังกฤษเพียงคนเดียวจนถึงปัจจุบัน ที่เคยคว้ารางวัล “รองเท้าทองคำ” มาครอบครองได้

 

อังเดร เชฟเชนโก้ – โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ (เอซี มิลาน)

เป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันหากทีมของคุณจะมีกองหน้าที่ครบเครื่องอยู่ด้วย และมันจะยากยิ่งกว่านั้นหากคุณมีกองหน้าแบบนั้นอยู่กับทีมถึง 2 คน แต่ไม่ใช่กับปีศาจแดงดำ เพราะพวกเขามีทั้งเชว่าและ เบียร์โฮฟฟ์ ที่ข่มขวัญกองหลังฝั่งตรงข้ามให้แตกกระเจิง ซึ่งหัวหอกคู่นี้ยิงประตูรวมกันถึง 35 ลูกในฤดูกาล 1999-2000

 

จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์ – ไอเดอร์ กุดย่อห์นเซ่น (เชลซี)

ทั้งฮัสเซลแบงค์และกุดย่อห์นเซ่น ต่างเป็นนักเตะหน้าใหม่ประจำทีม โดยทั้งคู่ย้ายมาจากแอต.มาดริดและโบลตันตามลำดับ แต่ทว่าทั้งสองก็สามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ด้วยเท้าซ้าอันทรงพลังของจิมมี่กับสัมผัสบอลอันยอดเยี่ยมของหัวหอกชาวไอซ์แลนด์ช่วยถล่มประตูร่วมกันถึง 39 ลูก และปี 2000-01 กองหน้าชาวดัชต์ก็คว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกมาครองด้วย

 

เธียร์รี่ อองรี – เดนนิส เบิร์กแคมป์ (อาร์เซน่อล)

หากอยากได้คู่หัวหอกที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ล่ะก็ ลองนึกถึงอองรี กับ เบิร์กแคมป์ ดูเป็นไง เจ้าของฉายา ไอซ์เบิร์ก  ผู้สามารถควบคุมลูกฟุตบอลได้ราวกับเวทมนตร์ ส่วนอองรีผู้คล่องแคล่ว ว่องไวที่มาพร้อมกับการจบสกอร์อันเฉียบขาด คู่นี้เป็นดั่งฝันร้ายของผู้เล่นแผงหลังชัดๆ

 

ดีเอโก้ ทริสตัน – รอย มาคาย (เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า)

ซูเปอร์เดปอร์ช็อกแฟนบอลทั่วแดนกระทิงดุด้วยการคว้าแชมป์ลาลีก้ามาครอง กองหน้าประจำทีมอย่าง ทริสตันและมาคายก็ได้รับการจับตามองทันที และฤดูกาลต่อมาทั้งคู่ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย แม้จะไม่สามารถป้องกันแชมป์ลีกได้ก็ตาม

 

คริส ซัตตัน – เฮนริค ลาร์สสัน (เซลติก)

ในฤดูกาล 2000-01 เฮนริค ลาร์สสันในวัยใกล้เลขสามซัดประตูในลีกไปมากถึง 35 ลูกจาก 37 นัด ทำให้เขาได้รางวัลดาวซัลโวประจำลีกสก็อตแลนด์รวมถึงช่วยให้เซลติกคว้าแชมป์ลีกมาครองได้อีกสมัย แต่กองหน้าชาวสวีดิชจะทำแบบนั้นไม่ได้เลย หากไม่มีการเล่นลูกกลางอากาศที่แข่งแกร่งของซัตตัน คอยช่วยเหลือและพักบอลให้ นึกถึงวันเก่าๆมั้ยล่ะแฟนเซลติกทั้งหลาย

 

ดาวิด เทรเซเกต์ – อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ (ยูเวนตุส)

อีกหนึ่งการผสมผสานระหว่างกองหน้าต่างสไตล์แต่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเทรเซเกต์และเดล ปิเอโร่ ช่วยให้ยูเว่คว้าแชมป์เซเรีย อา สมัยที่ 26 มาครอง ซึ่งกองหน้าทีมตราไก่ก็คว้ารางวัลดาวซัลโวร่วมมาครองโดยยิงไป 24 ประตู และทำให้ มาร์เซโล่ ซาลาส กองหน้าอีกคนนั่งสำรองไปยาวๆ

 

โรนัลโด้ – ราอูล (เรอัล มาดริด)

เรอัล มาดริด ช่วงกาลาคติกอสยุแรก คว้าทริปเบิ้ลแชมป์มาครองในปี 2002-03 โดยแบ่งออกเป็นแชมป์ลาลีก้า, อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ และ ซุปเปอร์ คัพ ด้วยการประสานงานของราอูล เด็กปั้นของสโมสร และโรนัลโด้ กองหน้าแซมบ้าค่าตัว 45 ล้านปอนด์ ช่วยทำประตูให้ราชันชุดขาวในลีกถึง 39 ประตูเลย

 

ฮัลค์ – ราดาเมล ฟัลเกา (ปอร์โต้)

แฟนบอลเมืองผู้ดีอาจจะมองว่าฟัลเกาล้มเหลวในอังกฤษอย่างหนัก แต่ในฤดูกาล 2010-11 เอล ติเกร นั้นพีคมากๆในอาชีพค้าแข้ง แถมได้เล่นกับกองหน้าจอมพลังอย่าง ฮัลค์ พวกเขาทั้งคู่ก็ช่วยกันส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปถึง 74 ลูกรวมทุกรายการ และพาทีมคว้าถึง 4 แชมป์ในปีนั้นด้วย

 

อเล็กซิส ซานเชส – อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ (อูดิเนเซ่)

ดิ นาตาเล่อยู่กับอูดิเนเซ่นานถึง 12 ฤดูกาล และในเส้นทางอาชีพค้าแข้งตลอด 20 ปีของเขา กองหน้าคู่ขาที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นชื่อของอเล็กซิส ซานเชส ที่ช่วยทำให้แฟนๆทั่วโลกรู้จักพวกเขา และทำให้ทีมม้าลายน้อยครองอันดับสี่ในลีก, ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก และยิงประตูรวมกันถึง 40 ลูกเลยทีเดียว

Chayuntorn Chaimool

Recent Posts

รีซ เจมส์ เดี้ยงอีก! เจ็บแฮมสตริง ชวดบู๊เลสเตอร์

รีซ เจมส์ แบ็กขวากัปตันทีมเชลซี ได้รับบาดเจ็บที่แฮมสตริงเป็นครั้งที่ 9 ในรอบ 5 ปี หลังจากบาดเจ็บซ้ำที่บริเวณดังกล่าวระหว่างการซ้อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากการยืนยันของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ซึ่งเผยว่าดาวเตะวัย 24 ปีจะพลาดลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่จะบุกเยือน…

10 hours ago

คาอัสโซ ดาราเม : อาชญากรค้าแป้ง ที่ครั้งหนึ่งเคยเทียบชั้นกับ โรนัลโด้

ครั้งหนึ่งเขาคือแข้งดาวรุ่ง ที่ถูกเปรียบกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ดาวเตะระดับตำนานของโปรตุเกส อย่างไรก็ดี ตอนนี้ คาอัสโซ ดาราเม นี้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อเขาเปลี่ยนสถานะตัวเอง จากนักเตะพรีเมียร์ลีก มาเป็นอาชญากรค้ายา และเพิ่งถูกจำคุกจากคดีแทงคน เกิดอะไรกับชีวิตของเด็กหนุ่มรายนี้…

16 hours ago

ความประทับใจตอนซ้อม : ทำไมแข้งแมนยูพร้อมใจเรียก “อโมริม” ว่ามูรินโญ 2.0?

ความประทับใจตอนซ้อม : ทำไมแข้งแมนยูพร้อมใจเรียก “อโมริม” ว่ามูรินโญ 2.0? เรียกว่ายิ่งนานวัน รูเบน อโมริม ยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆรอติดตาม หลังล่าสุด Sun Sport รายงานว่านักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่างรู้สึกทึ่งและประทับใจกับการซ้อมของ…

18 hours ago

วิเคราะห์อนาคต : คีแรน เทียร์นีย์ คัมแบ็คในรอบหลายเดือนแต่อาจไม่ได้อยู่ยาว

วิเคราะห์อนาคต : คีแรน เทียร์นีย์ คัมแบ็คในรอบหลายเดือนแต่อาจไม่ได้อยู่ยาวกับอาร์เซนอล ถ้าพูดถึง คีแรน เทียร์นีย์ กับแฟนๆทีมอื่นอาจจะมองว่าเป็นนักเตะธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้พิเศษอะไร แต่กับแฟนๆอาร์เซนอลเขาคือที่รัก และอยากเห็นเขาสวมเสื้ออาร์เซนอลลงสนามอีกสักครั้ง ล่าสุดเมื่อวานนี้ เทียร์นีย์ เพิ่งกลับมาซ้อมได้หลังจากบาดเจ็บหัวเข่าตั้งแต่ในการแข่งขันยูโร นี่ถือว่าเป็นข่าวดีมากๆกับเขาเอง…

20 hours ago

แปลกแต่เป็นไปได้ : ทำไม ซานมารีโน ขอชนะอีก 2 นัดอาจได้ไปบอลโลก?

ถ้าพูดถึงทีมชาติซานมารีโน หลายคนคงจดจำภาพว่าพวกเขาคือทีมจอมแจกแต้มของยุโรป ปัจจุบันพวกเขาคือชาติที่รั้งอันดับสุดท้ายของโลกบนแรงกิ้งฟีฟ่า (อันดับ 210) แต่เชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้ พวกเขาอาจต้องการชัยชนะในเกมสำคัญอีกแค่ 2 นัดเท่านั้น ก็อาจจะเพียงพอให้ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 ที่แคนาดา, เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา…

1 day ago

คนแพ้ไม่เป็น : นานีเล่า เคยรอซ เคยแอบแก้คำตอบเพื่อให้ โรนัลโด้ เป็นฝ่ายถูก

คริสเตียโน โรนัลโด้ ถือเป็นผู้เล่นที่มีจิตวิญญาณแห่งชัยชนะอยู่เต็มเปี่ยม เขาเป็นนักเตะที่กระหายในชัยชนะอยู่เสมอ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีสำหรับนักฟุตบอลอาชีพ อย่างไรก็ดี ความต้องการเป็นผู้ชนะบางครั้งก็ส่งอิทธิพลต่อคนรอบข้าง ไม่เว้นแม้แต่โค้ช ที่ครั้งหนึ่ง คาร์ลอส เคยรอซ ต้องแอบแก้คำตอบให้เขาเป็นฝ่ายถูก ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน เหตุการณ์นี้ ต้องย้อนกลับไปในตอนที่…

2 days ago