แมนเชสเตอร์ 62 เอฟซี : สโมสรจากยิบรอลตาร์ ที่มีที่มาจาก แมตต์ บัสบี้

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประเดิม 3 คะแนนแรกในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ ด้วยการเปิดบ้านเฉือน ฟูแลม 1-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ห่างออกไปเกือบ 3,000 กิโลเมตร ก็มี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกทีมหนึ่งที่ลงเล่นเช่นกัน แต่เป็นในลีกยิบรอลตา ดินแดนเล็กๆ ใกล้กับทวีปแอฟริกา ไม่ใช่ที่อังกฤษ

พวกเขาคือใคร? และเพราะเหตุใดจึงใช้ชื่อทีมเหมือนปีศาจแดงแห่งเกาะอังกฤษ ติดตามไปพร้อมกัน

แม้จะก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1878 แต่กว่าที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะก้าวขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่ ก็ต้องรอจนถึงทศวรรษที่ 1950s ที่พวกเขาคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 หรือลีกสูงสุดของอังกฤษได้ถึง 5 สมัย รวมถึงแชมป์ยูโรเปียนคัพได้อีก 1 สมัย ในช่วงเวลา 20 ปีหลังจากนั้น

มันเป็นยุคที่ปีศาจแดง มี แมตต์ บัสบี ที่ต่อมากลายเป็นกุนซือระดับตำนานของพวกเขา นำทัพ ที่สามารถเปลี่ยน แมนฯ ยูฯ ให้กลายเป็นทีมลุ้นแชมป์ ด้วยนักเตะดาวรุ่ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Busby Babes”

อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เพียงสร้างความสุขให้แก่แฟนบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้แฟนเดนตายของพวกเขาอย่าง ไคลฟ์ เอ. โมเบอร์เลย์, จอร์จ อันเดรี และ หลุยส์ จิโอ ตัดสินใจก่อตั้งทีมเพื่อลงเล่นในลีกยิบรอลตาร์ ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ที่อยู่ติดกับชายแดนสเปน และทวีปแอฟริกา

พวกเขาตัดสินใจว่าจะตั้งชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนกับทีมรักของตัวเอง แต่เพื่อให้แน่ใจ จึงเขียนจดหมายไปขออนุญาต จากแมตต์ บัสบี กุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด ฉบับออริจินอล ในตอนนั้น ก่อนจะได้รับการตอบรับในที่สุด

ทำให้ในปี 1962 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ยิบรอลตาร์) เอฟซี ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา โดยนอกจากชื่อทีมแล้ว ทั้งโลโก้ สีประจำทีม รวมไปถึงชุดแข่งสีแดง ก็ล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แห่งเกาะอังกฤษทั้งสิ้น

“ทุกอย่างเริ่มต้นในปี 1962 มันเป็นการรวมกันของกลุ่มแฟนบอลที่เชียร์ทีมที่ชื่อเหมือนเราในอังกฤษ พวกเขาหวังจะก่อตั้งในลีกจากสโมสรที่พวกเขาเชียร์” แมต โรช อดีตกัปตันของทีมอธิบายกับ BBC

ทั้งนี้ พวกเขาไม่ได้เอามาแค่ชื่อเท่านั้น แต่ยังสามารถเดินตามรอยความสำเร็จของปีศาจแดง ด้วยการคว้าแชมป์ลีกยิบรอลตาร์ ได้ถึง 7 สมัย และแชมป์บอลถ้วยอย่าง ร็อค คัพ อีก 4 ครั้ง

นอกจากนี้ ในปี 2009 แมนฯ ยูไนเต็ด จากยิบรอลตาร์ ยังมีโอกาสได้ต้อนรับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือของปีศาจแดงในตอนนั้น ที่ให้เกียรติมาเยี่ยมถึงสนาม วิคตอเรีย สเตเดียมอีกด้วย

“เซอร์อเล็กซ์ และ เซอร์ปีเตอร์ คารูอานา ผู้อุปถัมป์ของเรา ร่วมกันทำพิธีเปิดสถานที่เรา ซึ่งสร้างความยินดีแก่พวกเรา พวกเขาทั้งแจกลายเซ็นและถ่ายรูปอย่างไม่หยุดหย่อน” โมเบอร์เลย์ กล่าวกับ boxtoboxfootball เมื่อปี 2016

“ตอน 11 โมงของวันต่อมา ผมก็ไปรับไมค์ ฟีแลน และ ไบรอัน ร็อบสัน เพื่อเข้าร่วมการซ้อมให้แก่ทีมเยาวชนของเรา”

อย่างไรก็ดี ในปี 2013 พวกเขาต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็น แมนเชสเตอร์ 62 เอฟซี เนื่องจากทางทฤษฎี พวกเขาโอกาสจะได้เจอ แมนฯ ยูไนเต็ด ของอังกฤษ ในฟุตบอลยุโรป หลัง ยูฟ่า ได้เพิ่มโควต้าในรอบคัดเลือก ให้สโมสรจากลีกยิบรอลตาร์ ทั้งใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และ ยูโรปาลีก

ทว่าในทางปฏิบัติกลับตรงกันข้าม เพราะนอกจาก แมนเชสเตอร์ 1962 จะไม่เคยได้รับสิทธิ์นั้นเลย หลังไม่คว้าแชมป์ลีกมาตั้งแต่ปี 1999 ซ้ำร้ายกว่านั้นในปี 2023 พวกเขายังมาประสบปัญหาทางการเงิน ทั้งที่เพิ่งอัพเกรดตัวเองมาเป็นสโมสรอาชีพอย่างเต็มตัวเมื่อ 1 ปีก่อน จากการเข้ามาของ ไมเคิล มอนซู มหาเศรษฐีจากสหรัฐอเมริกา

“สิ่งที่เรากำลังพยายามทำกับ แมนเชสเตอร์ 62 นั้นทรงพลังมาก เรากำลังพยายามด้วยจุดมุ่งหมายที่มีมากกว่าการแข่งขัน” มอนซู กล่าวกับ Manchester Evening News

“เราประสบความสำเร็จมากมายก่อนหน้านี้ แต่โชคร้ายที่ผู้ลงทุนบางส่วนของเราถอนตัวไป และตั้งแต่นั้นเราก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด”

การขาดสภาพคล่อง ยังทำให้อนาคตของ แมนเชสเตอร์ 62 ยังน่าเป็นห่วง และบางทีอาจจะเลวร้ายถึงขั้นยุบทีม ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับทีมที่มีอายุกว่า 60 ปีทีมนี้