จู๊ด เบลลิงแฮม กลายเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ ประจำปีนี้ไปครอง จากผลงานเป็นกำลังสำคัญพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ใหญ่ทั้ง ลา ลีกา และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลที่ผ่านมา และล่าสุดก็พาทีมชาติอังกฤษทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศยูโร 2024
เดิมที หลายสื่อยกให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ปีกตัวจี๊ดซึ่งเป็นคีย์แมนของทีมราชันชุดขาวอีกคนคือเต็งหนึ่งที่จะคว้ารางวัล แต่เนื่องจากทีมชาติบราซิลทำผลงานน่าผิดหวังในศึก โกปา อเมริกา ด้วยการแพ้จุดโทษอุรุกวัยตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้เบลลิงแฮมที่พาทีมชาติเข้าชิงยูโรได้ ดูจะมีภาษีมากกว่า
ทีนี้คำถามก็คือ ถ้าหากสเปนคือฝ่ายที่คว้าแชมป์ยูโรปีนี้แทน แล้วใครจะเป็นตัวเต็งรางวัล บัลลง ดอร์ ปีนี้แทน? ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็น ดานี่ การ์บาฆัล แบ็กขวาตัวเก๋าที่คว้าแชมป์ ลา ลีกา และ UCL ร่วมกับ เรอัล มาดริด ซีซั่นที่ผ่านมาเช่นกัน เพราะเขาไม่ได้โชว์ฟอร์มเด่นเกินใครมากขนาดนั้น โดยหลายคนมองว่า โรดรี้ กองกลางคนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คืออีกคนที่มีโอกาส ส่วน ลามีน ยามาล ปีกวัยเพียง 17 ปี น่าจะยังเด็กเกินไปกับการคว้ารางวัลส่วนตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
เผยตั้งแต่ยุค 90 จนถึงตอนนี้ แชมป์ยูโรไม่ได้ช่วยให้เป็นตัวเต็ง บัลลง ดอร์ มากนัก
ถ้าหากไปย้อนดูนักเตะเจ้าของรางวัล บัลลง ดอร์ ในปีที่มีศึกฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายทำการแข่งขัน นับตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมาจนถึงปี 2021 ที่ศึกยูโร 2020 เลื่อนมาแข่งรอบสุดท้ายช้ากว่ากำหนด จะพบว่าการเป็นแชมป์ยูโรไม่ได้ช่วยให้นักเตะกำลังสำคัญของทีมชาติเจ้าของแชมป์ยุโรปมีภาษีจะเป็นตัวเต็ง บัลลง ดอร์ มากนัก
ในปี 1992 แชมป์ยูโรตกเป็นของเดนมาร์ก แต่กำลังสำคัญอันดับหนึ่งของทีมโคนมชุดเทพนิยายเดนส์อย่าง ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ก็ได้แค่อันดับ 5 ของผลโหวต บัลลง ดอร์ มีดังกล่าว ส่วนเจ้าของรางวัลตัวจริงคือ มาร์โก ฟาน บาสเท่น ที่พา เอซี มิลาน คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา พ่วงด้วยตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของลีกถึง 25 ประตู
ในปี 1996 รางวัล บัลลง ดอร์ อาจจะตกเป็นของ มัทเธียส ซามเมอร์ ซึ่งเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของทีมชาติเยอรมนีชุดแชมป์ยูโรปีนั้น แต่ในฤดูกาล 1995-96 ซามเมอร์ก็มีความสำเร็จในระดับสโมสรด้วยการพา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์บุนเดสลีกาด้วยเช่นกัน นั่นจึงบอกได้ว่าตำนานลิเบอโรของทีมอินทรีเหล็กรายนี้ มีผลงานจากต้นสังกัดที่เป็นแรงเสริมช่วยด้วยอีกแรง
ในปี 2000 ฝรั่งเศสเป็นแชมป์ยูโร แต่ว่าซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของทีมตราไก่ชุดนั้นอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน ได้แค่อันดับ 2 ของคะแนนโหวต โดย บัลลง ดอร์ ตกเป็นของ หลุยส์ ฟิโก้ สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสที่ไม่ได้แชมป์อะไรเลยในปีนั้นด้วยซ้ำ แต่มีความโดดเด่นตรงที่กลายเป็นเจ้าของสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก ด้วยการย้ายจากบาร์เซโลน่าไปซบคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เรอัล มาดริด โดยทำผลงานส่วนตัวได้โดดเด่นกับบาร์ซ่าฤดูกาลสุดท้าย ด้วยการยิงรวมทุกรายการ 14 ลูก และติดทีมยอดเยี่ยมประจำศึกยูโร 2000 ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ไม่ถือว่าฟิโก้เด่นกว่าซีดานชัดเจนสักเท่าไร เพราะซีดานได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่ามาครอง
ในปี 2004 แชมป์ยูโรตกเป็นของทีมชาติกรีซแบบช็อคโลก ซึ่งกองกลางกัปตันทีมชาติกรีซเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ยูโร 2004 อย่าง เธโอโดรอส ซาโกราคิส ก็รั้งแค่อันดับ 5 ของชาร์ทคะแนนโหวต บัลลง ดอร์ บ่งบอกว่าบารมีของเขา และฟอร์มจากทีมชาติยังไม่โดดเด่นมากพอจะครองลูกบอลทองคำได้ โดยตำแหน่ง บัลลง ดอร์ ตกเป็นของ อังเดร เชฟเชนโก้ ที่ยิงไป 24 ประตู คว้าตำแหน่งดาวซัลโว กัลโช่ เซเรีย อา และพา เอซี มิลาน คว้าสคูเด็ตโต้ ขณะที่นักเตะจาก เอฟซี ปอร์โต้ ที่เด่นที่สุดจากชุดคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนั้นอย่างเดโก้ ตามมาเป็นอันดับ 2
ในปี 2008 สเปนคือแชมป์ยูโร แต่ตำแหน่ง บัลลง ดอร์ ได้แก่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เป็นซูเปอร์สตาร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดที่เหมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พ่วงด้วยตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมและดาวซัลโวของทั้ง 2 รายการ ซึ่งก็ถือว่าเหมาะสม เพราะในศึกยูโรปี 2008 แข้งทีมชาติสเปนไม่มีใครที่เด่นกว่าใครเกินหน้าเกินตาชัดเจนจริงๆ แต่ได้แชมป์ด้วยทีมเวิร์คอันยอดเยี่ยมมากกว่า
เช่นเดียวกับในปี 2012 ที่สเปนป้องกันแชมป์ยูโรได้อีกสมัย ก็ไม่มีนักเตะทีมกระทิงดุคนไหนจากทีมชุดนั้นคว้า บัลลง ดอร์ ได้ และเจ้าของรางวัลลูกบอลทองคำก็ไม่ใช่ผู้เล่นจากทีมแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างเชลซีด้วย แต่เป็น ลิโอเนล เมสซี่ ที่ได้รางวัลไปเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน ด้วยฟอร์มส่วนตัวล้วนๆ จากผลงานทำสถิติยิงรวมกันถึง 73 ประตูรวมทุกรายการในฤดูกาล 2011-12 ซึ่งยังเป็นสถิติการยิงรวมทุกถ้วยมากที่สุดในซีซั่นเดียว สำหรับนักเตะทุกคนที่เคยค้าแข้งในยุโรปบนประวัติศาสตร์ของโลกนี้
ในปี 2016 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คว้า บัลลง ดอร์ หลังจากพาทีมชาติโปรตุเกสซิวแชมป์ยูโรได้เป็นสมัยแรก แต่สิ่งที่น่าสังเกตก็คือผลงานที่ส่งให้ CR7 ทวงรางวัลคืนจาก ลิโอเนล เมสซี่ ได้จริงๆ น่าจะเป็นผลงานการพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พ่วงตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของ UCL เป็นหลัก บวกกับการยิงใน ลา ลีกา ไป 35 ประตูซะมากกว่า ส่วนการได้แชมป์ร่วมกับทีมชาติ เป็นแค่ส่วนเสริมที่ทำให้เขาคว้า บัลลง ดอร์ ปีนั้นแบบนอนมาเท่านั้น
ส่วนในปี 2021 แชมป์ยูโรคือทีมชาติอิตาลี และนักเตะทีมอัซซูรี่ชุดนั้นที่มีคะแนนโหวตในการลุ้นรางวัล บัลลง ดอร์ มากที่สุดคือ จอร์จินโญ่ ที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ร่วมกับเชลซีได้เช่นกัน แต่สุดท้ายคนคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ ก็คือ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ได้อานิสงส์จากฟอร์มโดดเด่นมากๆ กับทีมชาติอาร์เจนตินาในศึก โกปา อเมริกา เป็นหลัก หรือจะมองว่าผลงานคว้าดาวซัลโว ลา ลีกา ในซีซั่นสุดท้ายกับบาร์เซโลน่าที่ยิงไป 30 ประตูในลีกคือแรงส่งเสริมก็ได้เหมือนกัน
ถ้าจะหานักเตะที่ได้รางวัล บัลลง ดอร์ จากผลงานในศึกยูโรล้วนๆ อย่างแท้จริง น่าจะเป็น มาร์โก ฟาน บาสเท่น ที่พาทีมชาติเนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์ยูโรได้ในปี 1988 แม้ว่าฟอร์มกับต้นสังกัดใหม่อย่าง เอซี มิลาน จะไม่เปรี้ยงปร้างนักก็ตาม
ย้อนผลงาน ฟาน บาสเท่น ในปี 1988
จริงอยู่ที่ในฤดูกาล 1987-88 ซึ่งเป็นซีซั่นแรกที่ มาร์โก ฟาน บาสเท่น ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปอยู่กับ เอซี มิลาน นั้น ทีมปีศาจแดงดำคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา มาครองได้ แต่ว่าในฤดูกาลดังกล่าว ฟาน บาสเท่น มีปัญหาบาดเจ็บข้อเท้ารบกวน จนได้ลงเล่นเพียงแค่ 11 นัดเท่านั้นในเกมลีก และยิงได้เพียง 3 ประตู นั่นจึงไม่ใช่ผลงานที่จะทำให้เขาได้รับรางวัลสุดยอดผู้เล่นแห่งปีแน่ๆ
แต่ในศึกยูโร 1988 ฟาน บาสเท่น ระเบิดฟอร์มมหัศจรรย์แบบเด่นเกินใครในทัวร์นาเมนต์ โดยซัดแฮตทริกพาทีมชนะอังกฤษ 3-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่ในรอบรองชนะเลิศ จะเป็นคนซัดประตูชัยพาทีมแซงชนะเยอรมนีตะวันตก 2-1 ในช่วงท้ายเกม ส่วนนัดชิงที่ชนะสหภาพโซเวียต 2-0 เขาซัดประตูที่ 2 ของเกมด้วยลูกวอลเลย์ใบไม้ร่วงที่ถูกยกให้เป็นประตูที่สวยตลอดกาลของศึกยูโรรอบสุดท้าย
จากที่แทบไม่ค่อยมีส่วนสำคัญกับตำแหน่งสคูเด็ตโต้ของมิลานในซีซั่น 1987-88 แต่ผลงาน 5 ประตูในศึกยูโรเมื่อ 36 ปีก่อน ทำให้ มาร์โก ฟาน บาสเท่น คือดาวซัลโวสูงสุดของทัวร์นาเมนต์ และได้ตำแหน่ง MVP ของรายการ ซึ่งนั่นส่งผลต่อเนื่องให้เขาได้คะแนนโหวต บัลลง ดอร์ ปีนั้นสูงที่สุด ส่วนอันดับ 2 คือ รุด กุลลิท กองกลางกัปตันทีมที่เล่นให้กับ เอซี มิลาน ปีนั้นเช่นกัน
ไม่ว่ายังไง “เมสซี่” คือชื่อที่ไม่เคยถูกมองข้าม
ลิโอเนล เมสซี่ คือนักเตะที่คว้ารางวัล บัลลง ดอร์ ไปครองมากที่สุดถึง 8 สมัย ซึ่งในปี 2023 ที่ผ่านมาถือว่าเขาได้รางวัลไปแบบน่ากังขาเหมือนกัน เพราะผลงานการพาทีมชาติอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก น่าจะมีผลต่อการตัดสินเมื่อปี 2022 ไปแล้ว แต่เมสซี่ที่ย้ายไปเล่นในเมเจอร์ลีกของสหรัฐอเมริกากับ อินเตอร์ ไมอามี่ ก็ยังได้คะแนนโหวตที่เหนือกว่า เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่เป็นดาวซัลโวสูงสุดทั้งพรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่น 2022-23 ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์คว้าทริปเปิ้ลแชมป์
เพราะฉะนั้น ถ้าหากอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ โกปา อเมริกา 2024 ไปครองได้อีก ก็อาจทำให้เมสซี่โผล่ขึ้นมาเป็นตัวเต็ง หรืออาจถึงขั้นคว้า บัลลง ดอร์ อีกครั้งเป็นสมัยที่ 9 ก็ได้
ถ้าพูดถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นอกจากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว การให้โอกาสดาวรุ่งก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำมาตลอด แล้วก็มีดาวรุ่งหลายต่อหลายคนที่ก้าวขึ้นประดับวงการ เอาแค่กลุ่ม Class of '92 นี่ก็ระดับตำนานทุกคน แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าไม่ใช่ดาวรุ่งทุกคนที่ได้โอกาสและประสบความสำเร็จ หนึ่งในนั้นคือ มาร์นิค เวอร์ไมล์ ดาวรุ่งชาวเบลเยี่ยมที่ได้โอกาสครั้งแรก…
“ทุกวันนี้เรารู้สึกว่านักฟุตบอลเป็นแค่ขยะที่เลวร้ายที่สุดในโบลิเวีย” นักเตะคนหนึ่งในลีกโบลิเวียกล่าว อเมริกาใต้เป็นทวีปที่เต็มไปด้วยทีมชาติระดับคุณภาพ ที่ทำให้แม้สมาชิกเพียงแค่ 10 ทีม แต่กลับได้รับโควตาในฟุตบอลโลก 2026 มากถึง 6 ทีมครึ่ง แต่ถึงอย่างนั้น เบื้องหลังความยอดเยี่ยมเหล่านี้ หลายชาติก็เต็มไปด้วยปัญหา หนึ่งในนั้นคือ…
“ชีสรูม” ตำนานที่ไม่เคยมีจริงของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ถ้าพูดถึงสนามฟุตบอลในอังกฤษ ความขลัง ความยิ่งใหญ่ อาจจะยังเป็นเรื่องแมนยู ลิเวอร์พูล เชลซี อาร์เซนอล แต่ถ้าพูดถึงความทันสมัยไม่มีทีมไหนดีไปกว่า ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สสเตเดี้ยม สนามของสเปอร์สนั้นเป็นสนามที่ได้รับการยอมรับมากในปัจจุบันว่าทันสมัย มีทุกอย่างครบมากที่สุดในอังกฤษ…
รีซ เจมส์ แบ็กขวากัปตันทีมเชลซี ได้รับบาดเจ็บที่แฮมสตริงเป็นครั้งที่ 9 ในรอบ 5 ปี หลังจากบาดเจ็บซ้ำที่บริเวณดังกล่าวระหว่างการซ้อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากการยืนยันของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ซึ่งเผยว่าดาวเตะวัย 24 ปีจะพลาดลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่จะบุกเยือน…
ครั้งหนึ่งเขาคือแข้งดาวรุ่ง ที่ถูกเปรียบกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ดาวเตะระดับตำนานของโปรตุเกส อย่างไรก็ดี ตอนนี้ คาอัสโซ ดาราเม นี้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อเขาเปลี่ยนสถานะตัวเอง จากนักเตะพรีเมียร์ลีก มาเป็นอาชญากรค้ายา และเพิ่งถูกจำคุกจากคดีแทงคน เกิดอะไรกับชีวิตของเด็กหนุ่มรายนี้…
ความประทับใจตอนซ้อม : ทำไมแข้งแมนยูพร้อมใจเรียก “อโมริม” ว่ามูรินโญ 2.0? เรียกว่ายิ่งนานวัน รูเบน อโมริม ยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆรอติดตาม หลังล่าสุด Sun Sport รายงานว่านักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่างรู้สึกทึ่งและประทับใจกับการซ้อมของ…