การตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของ บราฮิม ดิอาซ

Puttinan Klangpethphanich

November 19, 2024 · 1 min read

การตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของ บราฮิม ดิอาซ
ฟุตบอล | November 19, 2024
ถ้าพูดถึง บราฮิม ดิอาซ ภาพจำที่ทุกคนมีต่อเขาคงจะเป็น “วันเดอร์คิดของวงการ” ที่เก่งแต่ก็ยังไปไม่สุด ตลอดอาชีพของ ดิอาซ มีคนพูดมากมายว่าเขาน่าจะไปได้ไกลกว่านี้นะถ้าไม่ได้อยู่กับ เรอัล มาดริค แต่นั้นไม่สามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง เพราะก็มีหนึ่งอย่างที่เราสามารถพูดได้ว่า “ นี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง ” ของเขา

ถ้าพูดถึง บราฮิม ดิอาซ ภาพจำที่ทุกคนมีต่อเขาคงจะเป็น “วันเดอร์คิดของวงการ” ที่เก่งแต่ก็ยังไปไม่สุด ตลอดอาชีพของ ดิอาซ มีคนพูดมากมายว่าเขาน่าจะไปได้ไกลกว่านี้นะถ้าไม่ได้อยู่กับ เรอัล มาดริค

ยิ่งเมื่อเราเห็นผลงานของเขากับ เอซี มิลาน สมัยที่ไปยืมตัวมันยิ่งตอกย้ำคำพูดนั้นได้เป็นอย่างดี เพราะตลอดเวลาที่เขาอยู่กับ ปีศาจแดงดำ เขาแทบจะเป็นนักเตะที่สำคัญที่สุดของทีมที่ไม่สามารถขาดไปได้ เขาเป็นที่รักของแฟนๆและถูกร้องขออย่างมากให้ย้ายมารว่มทีมแบบถาวร แต่สิ่งนั้นก็ไม่เกิดขึ้น

เมื่อผ่านไป 3 ฤดูกาล ดิอาซ ตัดสินใจกลับไปเล่นให้กับต้นสังกัดอย่าง เรอัล มาดริต และทุกครั้งที่เขาได้โอกาส เขาก็มักจะทำผลงานได้น่าพอใจเสมอ แต่นั้นแหละคือปัญหา เพราะเขาไม่ค่อยได้รับโอกาส ด้วยเหตุผลด้านขุมกำลังที่ตัวหลักก็เก่งเหลือเกินของราชันชุดขาว นั้นยิ่งทำให้มีหลายคนพูดว่า “การตัดสินใจกลับมาที่สเปนคือการตัดสินที่ผิดของเขา”

แต่นั้นไม่ใช่กับทีมชาติ ในปี 2024 ดิอาซวัย 25 ปี ตัดสินย้ายสัญชาติมารับใช้ทีมชาติโมร็อคโก ที่เป็นประเทศของคุณพ่อเหนือทีมชาติสเปน ประเทศที่เขาเกิดและเติบโตมา

ความจริงแล้ว ดิอาซ เคยถูกเรียกติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่แล้วด้วย 1 นัดและเขาก็ทำประตูได้ด้วยในเกมนั้น แต่นั้นเป็นเพียงเกมอุ่นเครื่อง ทำให้เขายังสามารถย้ายทีมชาติได้ แต่ก็เขาก็ตัดสินใจแบบนั้น โดย ดิอาซ บอกความรู้สึกถึงการตัดสิดใจครั้งนี้ว่า

“ ผมภูมิใจอย่างน่าเหลือเชื่อที่ได้สวมเสื้อทีมชาติโมร็อคโก ผมรู้สึกขอบคุณโมร็อคโกและแอฟริกาต่อทุกความรักและการตอนรับอย่างอบอุ่นที่มีให้ผม ผมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่ที่น่าเหลือเชื่อ ผมต้องการที่จะสร้างประวัติศาสตร์ที่กับทีมชาติโมร็อคโก ”

และแน่นอนว่ามันคือการเริ่มต้นที่สวยงาม ตอนนี้เขาลงเล่นให้ทีมชาติโมร็อคโกไปแล้ว 8 นัด ทำประตูได้ถึง 7 ประตูและอีก 2 แอสซิตต์ สถิติตรงนี้อาจจะยังไม่สามารถยืนยันกับเราได้ว่าอนาคตเขาจะเป็นอย่างไร แต่มันก็เป็นการเริ่มต้นที่สวยงามเหลือเกิน

สำหรับ ดิอาซ ในนานของสโมสรกับเรอัล มาดริค การตัดสินใจของเขามันจะยังเป็นคำถามอยู่บ้าง แต่กับทีมชาติเรากล้าบอกได้ว่า “มันคือการตัดสินใจที่ดี”

และในวัยเพียง 25 ปี บราฮิม ดิอาซ ยังมีอนาคตอีกไกลมากที่รอให้เขาไปพิสูจน์ตัวเองอยู่ และถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน รักษาฟอร์มการเล่นและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องแบบนี้ความฝันของเขาที่อยากจะเป็น “ นักเตะระดับโลก ” คงไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน