ย้อนที่มา "บ็อกซิ่งเดย์" ทำไมบอลอังกฤษต้องเตะในวันที่ใครๆ เขาก็หยุด?

Maruak Tanniyom

December 23, 2024 · 1 min read

ย้อนที่มา
Football | December 23, 2024
ร่วมหาเหตุผลว่าเหตุใด ลีกอังกฤษจึงมีการแข่งขันในวันที่ลีกส่วนใหญ่ในยุโรปพักเบรกหนีหนาว

เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์สำหรับฟุตบอลอังกฤษ ที่จะต้องมีการแข่งขันในวันแกะกล่องของขวัญ หรือที่รู้จักกันใน “วันบ็อกซิ่งเดย์” เพื่อให้แฟนบอลได้ฉลองวันส่งท้ายปีไปพร้อมกับเชียร์ทีมรัก

ทั้งนี้ ธรรมเนียมนี้ของชาวแดนผู้ดี แทบจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ลีกของยุโรป ที่มีโปรแกรมในวันที่ลีกอื่นพักเบรกหนีหนาว

เพราะเหตุใด พวกเขาจึงต้องจัดโปรแกรมในวันนี้ ? และบางทีมันอาจจะเกี่ยวเนื่องในเชิงประวัติศาสตร์ ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน

บ็อกซิ่งเดย์คืออะไร?

วันบ็อกซิ่งเดย์ หรือวันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญของของชาวอังกฤษ เนื่องจากเป็นวันที่ผู้คนจะมาแกะกล่องของขวัญที่ได้รับมาในวันคริสต์มาส และทำให้ถูกเรียกว่า “วันแกะกล่องของขวัญ”

ทั้งนี้คำว่า บ็อกซิ่งเดย์ เพิ่งจะถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี 1833 โดย ชาร์ล ดิกคินส์ นักเขียนชาวอังกฤษ ก่อนที่ปี 1871 มันจะถูกประกาศให้เป็นวันหยุดธนาคารของแดนผู้ดี ถัดจากวันคริสต์มาส ที่เป็นวันหยุดตามกฎหมายอยู่แล้ว

ทำให้ก่อนหน้านี้ วันคริสต์มาส และวันบ็อกซิ่งเดย์ มักจะเป็นวันที่มีการแข่งขัน มาตั้งแต่ฟุตบอลลีกถือกำเนิดขึ้นในปี 1888 เนื่องจากวันหยุด จะสามารถดึงดูดผู้ชมเข้ามาชมการแข่งขันได้มากกว่าวันธรรมดา

“เรามักจะแข่งในวันคริสต์มาสอยู่เสมอ เพราะว่าจะมีผู้ชมเข้ามาอย่างหนาแน่น เนื่องจากเป็นวันหยุด และประตูจะเปิดตั้งแต่บ่าย 2 โมง” แกรห์ม โอตส์ อดีตปีกของแบล็คพูล ที่เคยลงเตะในวันคริสต์มาสกล่าวกับ The Telegraph เมื่อปี 2016

“ผู้คนมากมายจะมาแบล็คพูลในช่วงวันหยุดคริสต์มาส ดังนั้นแนวคิดก็คือจงมอบความบันเทิงให้แก่พวกเขา และแน่นอนว่าสโมสรก็ทำเงินได้บ้าง”

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟุตบอลอังกฤษ มักจะมีการแข่งขันในช่วงปลายปี ต่างจากลีกอื่นที่พักเบรกหนีหนาว ไปตั้งแต่ก่อนวันคริสต์มาสแล้ว

ทำไมเหลือแค่บ็อกซิ่งเดย์?

อันที่จริงธรรมเนียมการแข่งฟุตบอลของชาวอังกฤษในช่วงวันคริสต์มาส และวันบ็อกซิ่งเดย์ ก็ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา ทว่าในช่วงทศวรรษที่ 1950s บางอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป

มันเป็นช่วงที่มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามา นั่นก็คือไฟสนาม ที่ทำให้ทีมสามารถทำการแข่งขันในช่วงเย็นหรือหัวค่ำได้แล้ว ต่างจากเมื่อก่อนที่ต้องเล่นช่วงบ่ายเท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อฟุตบอลโดยตรง เพราะทำให้การแข่งขันไม่จำเป็นต้องเตะกันแค่ในช่วงวันหยุดอีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ระบบขนส่งสาธารณะ หยุดทำการในวันคริสต์มาส ทั้งที่ก่อนนี้เปิดให้บริการ ทำให้การเดินทางมาดูฟุตบอล กลายเป็นความยากลำบากยิ่งขึ้น

แต่ที่สำคัญที่สุดคือการครอบครองโทรทัศน์ของชาวอังกฤษ ที่มีสัดสส่วนเพิ่มมากขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950s ยังทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงความบันเทิงด้านอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องไปดูฟุตบอลในวันคริสต์มาสอีกต่อไป

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้การแข่งขันฟุตบอลในวันที่ 25 ธันวาคม จึงเริ่มลดลงและหายไป เนื่องจากสโมสรไม่สามารถทำเงินจากค่าเข้าชมในวันดังกล่าวได้มาก

ก่อนที่หลังปี 1965 การแข่งขันฟุตบอลอังกฤษในวันคริสต์มาส จะไม่เกิดขึ้นอีกเลย โดยมีเกมระหว่าง แบล็คพูล และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เป็นแมตช์สุดท้าย

และทำให้การแข่งขันฟุตบอลในช่วงสิ้นปี จึงเหลือแค่วันแกะกล่องของขวัญ หรือ “บ็อกซิ่งเดย์” เท่านั้น