การสังสรรค์ยามราตรีถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับนักฟุตบอล เพราะมันคือหนึ่งในกิจกรรมผ่อนคลายยอดนิยม หลังต้องเหน็ดเหนื่อยมาเกือบทั้งสัปดาห์ แต่ถึงอย่างนั้น การออกไปดื่มแล้วต้องลงสนามในวันรุ่งขึ้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำนัก
แต่สำหรับ ฟิล โจนส์ อดีตกองหลัง แมนเชสเเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะต่างออกไป เพราะนอกจากจะได้ลงเล่น ทั้งที่คืนก่อนเพิ่งออกไปเมาแบบเต็มคราบ เขายังทำผลงานได้ไม่เลวอีกด้วย
เขาทำได้อย่างไร และเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น ? ติดตามไปพร้อมกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2016-2017 ซึ่งเป็นซีซั่นแรกของ โจนส์ กับ โชเซ มูรินโญ ตอนนั้นเขาพยายามพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้ได้ลงสนามภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่ ซึ่งก็ทำได้ไม่เลว หลังได้รับโอกาสไปถึง 18 เกมในครึ่งฤดูกาลแรก
ด้วยเหตุนี้ หลังเกมกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในช่วงปีใหม่ มูรินโญ จึงบอกให้ โจนส์ ไปพักผ่อนตามสบาย หลังจากเขากรำศึกมาตลอดในช่วงบ็อกซิงเดย์ และคิดว่าจะไม่ใช้งานเขาในเกม เอฟเอ คัพ กับ เรดดิ้ง ยูไนเต็ด ในสุดสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง
ได้ยินดังนั้น โจนส์ จะรอช้าอยู่ไย เขาออกไปสังสรรค์อย่างเต็มคราบ ดื่มเบียร์ในระดับที่ไม่เคยดื่มมาก่อน เพราะคิดว่ากว่ากลับมาซ้อมอีกทีก็อีกหลายวัน
“เรากำลังจะลงเล่นกับ เรดดิ้ง และเขาก็ส่งข้อความมาหาผมในคืนวันนั้นว่า ‘ทำได้ดีมากวันนี้ ออกไปหาอะไรกินเถอะคืนนี้ พาภรรยาของแกไปกินข้าวเย็น และดื่มสักหน่อย ฉันคงไม่ใช้แกในสุดสัปดาห์นี้ เจอกันวันจันทร์’” โจนส์ กล่าวกับ The Mirror
“มันเหมือนกับ ‘เยี่ยมเลย’ โชเซ มูรินโญ ส่งข้อความมาหาและพูดแบบนั้น”
อย่างไรก็ดี ข่าวร้ายคือขณะที่ โจนส์ กำลังฉลองอย่างสุดเหวี่ยง เขาก็ได้รับข้อความด่วนว่าให้เตรียมสแตนบายสำหรับเกมวันพรุ่งนี้ เนื่องจากมีสมาชิกในทีมได้รับบาดเจ็บ
ข้อความดังกล่าวทำให้ โจนส์ แทบจะสร่างเมาทันที เพราะตอนนั้นเขาดื่มเบียร์ไปแล้วถึง 4 ไพน์ (ประมาณ 2 ลิตร) แต่ตอนนั้นเขาก็ยังมองโลกในแง่ดี แค่สแตนบาย ไม่ได้ลงเล่น คงไม่มีปัญหาหรอกน่า
ทว่าความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อ โจนส์ จำเป็นต้องลงสนามในเกมกับ เรดดิ้ง เนื่องจาก มาร์กอส โรโฮ ได้รับบาดเจ็บ หลังเกมเริ่มไปไม่กี่นาที แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในเกมดังกล่าว
“มันก็เป็นเรื่องตลก เมื่อมีคนถอนตัวจากทีม และผมก็ซัดเบียร์ไปแล้ว 3-4 ไพน์ ผมไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนนะ เพราะผมไม่ใช่นักดื่ม มันไม่เคยเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ” โจนส์ ย้อนความหลัง
“มีคนส่งข้อความมาหาผมในคืนนั้นและบอกว่า ‘พวกเขาต้องการตัวแกพรุ่งนี้เช้า’ ผมรู้สึกว่า ‘นายกำลังล้อเล่นเปล่าเนี่ย กูเพิ่งซัดเบียร์ไป 3 ไพน์’ เบียร์ 3-4 ไพน์ มันมากกว่าที่ผมเคยกินมาเลยนะ”
“และมันก็เป็นอย่างนั้น เพราะหลังจากผ่านไป 5 นาที มาร์กอส โรโฮ ก็ต้องออกจากสนาม ผมต้องเล่นไป 85 นาที แถมเล่นได้ดีมากอย่างไม่น่าเชื่อเสียด้วย”
โจนส์ บอกว่าเคล็ดลับที่ทำให้เขาทำผลงานได้ดี แม้คืนก่อนหน้าเพิ่งออกไปเมาเต็มคราบคือ ปล่อยวางทุกสิ่ง แล้วลงไปเล่นแบบไม่ต้องคิดอะไร
“สถานการณ์นั้นคือปล่อยวางทุกอย่าง และไม่ต้องสนใจอะไร คุณอาจจะดื่มเบียร์ไป 3 ไพน์ แล้วยังไง คุณมีงานที่ต้องทำมัน แต่ออกไปแล้วทำมัน” โจนส์อธิบาย
“ก็แค่มีสติว่าอย่ากังวลเรื่องอื่น อย่าไปกังวลกับสิ่งที่ทำหรือสิ่งที่คนอื่นคิด แค่ออกไปแล้วทำมัน ออกไปแล้วทำให้ดีที่สุด”
นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ โจนส์ ได้รับโอกาสลงสนาม ไปกว่า 50 นัด ในยุค มูรินโญ แม้ว่าการเมาในคืนก่อนลงสนามจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรลอกเลียนแบบก็ตาม
เขาเพิ่งจะโชว์ลีลาการลากเลื้อยจากฝั่งตัวเองไปซัดประตูปิดกล่องให้โรงเรียนคว้าแชมป์จังหวัด พร้อมได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในศึกชิงแชมป์ฤดูหนาวทั่วประเทศ เขาคือคนที่ติดทีมชาติญี่ปุ่นชุด U17 ตั้งแต่อยู่ ม.4 และอยู่ในทีมชุดแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศไทย และเขาคนนี้ก็เป็นเพียงไม่กี่คนที่มาจากทีมโรงเรียนที่ติดทีมชาติญี่ปุ่นไปเล่นฟุตบอลโลก U17 2024 รอบสุดท้าย ก่อนจะซัดไป 4…
เรื่องราวของ ไอมาน เคลีฟ นักชกแชมป์เหรียญทองโอลิมปิกที่ ปารีส กำลังเป็นประเด็นเพราะมีการเปิดเผยว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นผู้ชาย โดยในโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา เคลิฟ สร้างกระแสเป็นอย่างมาก เพราะชกนักชกอิตาลีจนฝั่งอิตาลีต้องขอยอมแพ้ และบอกว่านี่คือหมัดที่หนักที่สุดในชีวิต ซึ่งตอนนั้นกระแสก็ไปหลายทาง บอกคนบอก…
"อันเชล็อตติ ทำอะไรผิดน่ะเหรอ ? ... ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน" นี่คือคำตอบผ่านสื่อของของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ที่ไล่ คาร์โล อันเชล็อตติ ออกจากการเป็นกุนซือในฤดูกาล…
แม้ว่าจะ เอริค เทน ฮาก ถูกปลดจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ในฤดูกาลนี้ แต่ต้องยอมรับว่าการซื้อขายนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของเขา มีความคึกคักเป็นพิเศษ ด้วยผู้เล่นขาเข้า 6 รายในราคารวมกันเกือบ 200…
เอริค คันโตนา คือนักเตะที่แฟน ๆ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีวันลืมลง เขาเป็นคนที่ย้ายมาอยู่กับทีมในปี 1992 และเป็นคนที่เริ่มต้นยุคสมัยความยิ่งใหญ่ของทีมปีศาจเเดงก็คงไม่ผิดนัก ไม่ว่าสตาฟโค้ช, เพื่อนร่วมทีม และแม้แต่ เซอร์…
เรื่องของ เจมี่ วาร์ดี้ นั้นชัดเจนมาก นับตั้งแต่เขาเเจ้งเกิดกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เขาก็กลายเป็น "เดอะ แบก" ของทีมมาจนถึงทุกวันนี้ โดยช่วงฤดูกาล 2015-16 ที่เลสเตอร์คว้าเเชมป์พรีเมียร์ลีกนั้นเป็นปีที่วาร์ดี้พีกสุด ๆ…