เปิดชีวิตอดีตแข้งแมนยู : ทำไมทุกวันนี้เลือกเป็นบุรุษไปรษณีย์มากกว่าเล่นฟุตบอล?

ถ้าพูดถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นอกจากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว การให้โอกาสดาวรุ่งก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำมาตลอด แล้วก็มีดาวรุ่งหลายต่อหลายคนที่ก้าวขึ้นประดับวงการ เอาแค่กลุ่ม Class of ’92 นี่ก็ระดับตำนานทุกคน

แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าไม่ใช่ดาวรุ่งทุกคนที่ได้โอกาสและประสบความสำเร็จ หนึ่งในนั้นคือ มาร์นิค เวอร์ไมล์ ดาวรุ่งชาวเบลเยี่ยมที่ได้โอกาสครั้งแรก 2012

เวอร์ไมล์ เติบโตมาในรุ่นเดียวกับ ไมเคิล คีน พอล ป็อกปา เจสซี่ ลินการ์ด ราเวล มอร์ริสัน เขาเป็นแบ็คหนุ่มที่น่าสนใจ มีความสามารถที่น่าค้นหา และน่าจะพัฒนาไปเป็นนักเตะที่ดีได้

และหลังจากเขาได้โอกาสครั้งแรกจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถัดมาอีก 2 ปี ในปี 2014 เขาก็ได้โอกาสอีกครั้งจาก หลุยส์ ฟาน กัล ลงเล่นในเกมลีกคัพ ที่แมนยูแพ้เอ็มเค ดอนส์ไป 4-0 ถือว่าเป็นเกมที่พลิกล็อคและเกิดการวิจารณ์เป็นอย่างมาก

และจากเกมนั้นเอง เวอร์ไมล์ ก็ไม่เคยได้โอกาสลงเล่นให้แมนยูอีกเลย จนย้ายไป เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ในปี 2015 และเขาก็ไม่เคยกลับมาฟุตบอลในระดับสูงอีกเลย

ปัจจุบันในวัย 32 ปีเขายังคงค้าแข้งอยู่ โดยเล่นให้กับสโมสร เทสสปอร์ต ในลีกเบลเยียมเนชั่นแนล ดิวิชั่น 1 แต่การเล่นฟุตบอลไม่ใช่ลำดับความสำคัญแรกของเขาอีกต่อไป เพราะปัจจุบันอีกอาชีพที่เขาประกอบควบคู่ไปด้วยคือ บุรุษไปรษณีย์

โดย เวอร์ไมล์ เล่าให้ฟังเอาไว้ว่า “ ผมเบื่อกับฟุตบอลอาชีพ ชีวิตุณต้องผูกกับทีมมากเกินไป แต่สำหรับผมการหาความสุขจากสิ่งอื่นๆก็สำคัญเช่นกัน ในฐานะบุรุษไปรษณีย์ ผมต้องกลับบ้านประมาณเที่ยงวันและสามารถไปรับลูกๆจากโรงเรียนได้ทำทุกวัน นั้นคือความสุขที่สุดสำหรับผม ”

และนอกจากอาชีพ บุรุษไปรษณีย์ แล้ว เวอร์ไมล์ ยังเป็นช่างประปาและผสมน้ำยาล้างปนังโพรงได้อีกด้วย

อย่างที่เราทุกคนทราบครับว่าอาชีพนักฟุตบอลมันต้องแลกมาด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง เวลา คือหนึ่งในนั้น กับบางคนมันคุ้มที่จะแลก แต่กับบางคนการได้ไปนั่งรอรับลูกๆโดยไม่ได้มีชื่อเสียงมากขนาดนั้น คือวามสุขที่ยิ่งกว่าซะอีก