อิรักถือหนึ่งในทีมชั้นนำของทวีป เพราะแม้จะอยู่ภายใต้ภาวะสงคราม พวกเขาก็ยังทำผลงานได้อย่างไม่เป็นสองรองใคร ไม่ว่าจะเป็นการคว้าอันดับ 4 โอลิมปิก เมื่อปี 2004 หรือคว้าแชมป์เอเชียนคัพในปี 2007
ทั้งนี้ มันต่างไปจากเมื่อหลายสิบปีก่อน ที่ “สิงโตแห่งเมโสโปเตเมีย” ต้องขับเคลื่อนด้วยความกลัว ภายใต้การนำของนายกสมาคมที่ชื่อว่า อูเดย์ ฮุสเซน ลูกชายของ ซัดดัม ฮุสเซน ที่โหดกว่าพ่อเป็น 100 เท่า
ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน
“พ่อแม่รังแกฉัน” อาจจะเป็นคำเปรียบเปรยที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตของ อูเดย์ ฮุสเซน เมื่อเขาได้เห็นการใช้อำนาจในทางที่ผิดจากพ่อของเขาตั้งแต่ยังเด็กๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนผลการเรียนที่ย่ำแย่ของเขาให้กลายเป็นคนเรียนเก่งแค่เพียงปลายนิ้ว
จนกระทั่งตอนอายุ 21 อูเดย์ ก็มีโอกาสได้ใช้อำนาจของตัวเอง หลังได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นนายกสมาคมฟุตบอลอิรัก และคณะกรรมการโอลิมปิกอิรักในปี 1984
อันที่จริงหนึ่งปีก่อนหน้านั้น เขาเพิ่งจะก่อตั้งทีมฟุตบอลที่ชื่อว่า อัล ราชีด ก่อนที่ตำแหน่งในสมาคมฯ ของ อูเดย์ จะทำให้สโมสรของเขากลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จในอิรัก
กลยุทธ์ของเขาคือการดึงตัวนักเตะที่เก่งที่สุดของทีมคู่แข่ง หากทีมไหนปฎิเสธ เขาก็จะใช้วิธีลักพาตัวนักเตะคนนั้นมา และบังคับให้เซ็นสัญญากับทีม
นอกจากนี้ อูเดย์ ยังขึ้นชื่อในการลงโทษผู้เล่นที่ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการจับขังหรือซ้อมทรมาน ซึ่งมักจะทำกันในคุกลับใต้พระราชวังรัดวานิยา ที่พำนักของคนในตระกูลฮุสเซน
“ฟุตบอลในยุคของอูเดย์มันน่ากลัว และช่วงเวลาที่น่าสะพรึงล้วนเต็มไปด้วยความกดดันในแง่ลบต่อผู้เล่นและนักกีฬาทุกคน มันเป็นสถานการณ์ที่น่าหดหู่มาก” ซาอัด ควาอิส อดีตนักเตะทีมชาติอิรักกล่าว
ทั้งนี้ ความเผด็จการของ อูเดย์ ไม่ได้ใช้แค่ในสโมสรของตัวเองเท่านั้น แต่มันยังลามมาถึงทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกคู่แข่งเพื่อมาอุ่นเครื่องกับทีมชุดผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 1986 รอบสุดท้าย ที่เม็กซิโก ด้วยตัวเอง ไปจนถึงการเปลี่ยนสีชุดแข่งของทีมมาเป็นสีทองในนาทีสุดท้าย
นอกจากนี้ ก่อนทัวร์นาเมนต์ที่เม็กซิโกจะเริ่มขึ้น อูเดย์ ยังกระตุ้นแกมขู่ว่าทีมชาติอิรักจะต้องคว้าชัยให้ได้ในรายการนี้ ไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญกับบทลงโทษตอนกลับถึงบ้าน
ราวกับเป็นความโชคร้ายของนักเตะชุดนั้น เมื่อพวกเขาต้องพบความปราชัยทั้ง 3 นัด และยิงคู่แข่งได้เพียงแค่ประตูเดียว ทำให้เมื่อถึงอิรัก นักเตะทั้งทีมถูกลงโทษด้วยการโกนหัว
“ผมชอบเควิน คีแกน มาก เขาเป็นนักเตะที่สุดยอด และผมก็มีผมเป็นลอนเหมือนกับเขา” อาหมัด ราฮิม ฮาหมัด อดีตแข้งอิรักกล่าว
“อูเดย์ โกนหัวนักเตะทุกคน และนั่นเป็นตอนที่ผมต้องสูญเสียผมเป็นลอนไป”
อูเดย์ เหมือนจะมีปัญหาเรื่องตรรกะและความคิด เพราะเขาเชื่อว่าการทรมานคือวิธีที่ดีในการกระตุ้นนักเตะ เขามักจะขู่ผู้เล่นว่าหากผลงานไม่ดี จะตัดขาไปให้สุนัขกิน หรือเคยถึงขั้นโทรมาขู่นักเตะตอนพักครึ่งมาแล้ว
“ความโหดร้ายของ อูเดย์นั้นไร้ขอบเขต ไม่ว่าใครก็จะไม่ปลอดภัยจากเขา” อาลี ริเยาะห์ หัวหน้ากองบรรณาธิการสำนักข่าว Al-Qadissiya กล่าว
“นักแสดง นักกีฬา หรือนักข่าว เขาเกลียดพวกเราทั้งหมด เขาสนุกกับความเจ็บปวดของเรา เขาไม่เคยเจ็บอย่างที่เขาชอบดู เขาคือปีศาจ เลวร้ายกว่าพ่อของเขามาก”
ลูกชายของซัดดัม ยังมีพฤติกรรมที่แปลกประหลาด เขามักจะชอบอัดวิดีโอตอนทรมานคนเอาไว้ รวมไปถึงชอบคิดหาวิธีใหม่ๆในการลงโทษ จนถึงขนาดจดลงสมุดบันทึกเอาไว้
เช่นในตอนที่แข้งทีมชาติอิรัก พลาดไปเล่นในฟุตบอลโลก 1994 รอบสุดท้าย นอกจากโกนหัวและสั่งขังเป็นปกติแล้ว เขายังให้นักเตะชุดนั้นเตะลูกบอลที่ทำมาจากคอนกรีตไปทั่วเรือนจำ ก่อนจะพาไปนอนคว่ำบนพื้นกรวด และลากไปตามพื้นให้เกิดเป็นแผลเต็มตัว จากนั้นจึงพาไปกระโดดในบ่อน้ำเน่าเพื่อให้ปวดแสบ
“เขาเป็นคนโหดร้ายสำหรับนักเตะทุกคน และไม่รู้อะไรเลยในชีวิตนอกจากการลงโทษและสั่งขัง แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่เขาก็ไม่ยกเว้น” ฮัสซัน จัลลาบ อดีตนักเตะของ อัล นาจาฟ กล่าว
อย่างไรก็ดี อูเดย์ ไม่ได้เก่งเรื่องการทรมานเท่านั้น เขายังขึ้นชื่อในการเอาเปรียบตัวนักเตะตัวพ่อ โดยเฉพาะบังคับให้ผู้เล่นแบ่งรายได้จากการค้าแข้งในต่างแดน
ย้อนกลับไปในปี 1990 เมื่ออิรักต้องขาดแคลนรายได้อย่างหนัก หลังถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ อันเนื่องมาจากการบุกคูเวต ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามอ่าว อูเดย์ จึงใช้วิธีให้นักเตะที่ไปเล่นในต่างแดน ต้องส่งเงิน 40 เปอร์เซ็นต์จากรายได้มาให้เขา
หนึ่งในนั้นคือ ฮาบิบ จาฟฟาร์ ทำให้แม้ก่อนหน้านี้เขาจะเผชิญกับพฤติกรรมอันเหี้ยมโหดของ อูเดย์ มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการถูกเฆี่ยนด้วยสายเคเบิล หรือการถูกบังคับให้กระโดดลงไปในบ่อบำบัดน้ำเสีย แต่ก็สุดท้ายต้องยอมจำนน เพราะไม่งั้นเขาก็จะไม่ได้ไปเล่นต่างแดน
“เขาไม่ยอมให้เราหยุด หรือเลิกเล่น และเราก็ไม่สามารถเล่นได้ดีเพราะการข่มขู่ทั้งหมดเหล่านี้ มันคือการปฏิบัติอย่างโหดร้ายที่ทำให้เราเครียดมาก” อดีตกัปตันทีมชาติอิรักกล่าว
อันที่จริงความโหดร้ายของ อูเดย์ ต่างเคยโดนฟีฟ่า เข้ามาสอบสวน แต่ก็ไม่มีหลักฐานเอาผิด เนื่องจากไม่มีใครยอมปริปาก ขณะที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ก็ไม่ได้ออกแอคชั่นอะไร โดยให้เหตุผลว่าไม่มีข้อร้องเรียนเข้ามา
แต่สุดท้ายยุคสมัยของ อูเดย์ ก็มาถึงจุดจบ เมื่อเขามาถูกสังหารในปฏิบัติการโจมตีอิรักของสหรัฐฯ ในปี 2003 และที่ทำให้วงการฟุตบอลของอิรัก ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระไปพร้อมกับความตายของเขา
สตีฟ คูเปอร์ ถูก เลสเตอร์ ซิตี้ ปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเรียบร้อยแล้ว โดยทีมจิ้งจอกสยามได้ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากที่เขาคุมทีมนัดล่าสุดแพ้เชลซีคาบ้าน 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้เลสเตอร์ไม่ชนะใคร 5 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ ตกรอบ คาราบาว…
รูเบน อโมริม จะทำหน้าที่คุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามเป็นนัดแรกในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่จะต้องบุกเยือนน้องใหม่อย่าง อิปสวิช ทาวน์ คืนวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน ซึ่งจากสิ่งที่เฮดโค้ชชาวโปรตุเกสให้สัมภาษณ์ ดูเหมือนว่าเขาน่าจะยึดระบบ "หลัง 3"…
หลังจากที่อาร์เนซอลเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอรเสต์ ไป 3-0 เมื่อคืนนี้ ส่งผลให้อาร์เซนอลทำสถิติเป็นทีมที่ 2 ในอังกฤษที่ทำสถิติเก็บชัยชนะถึง 2,000 นัด ในลีกสูงสุดจากจำนวนลงแข่งทั้งหมด 4,336 นัด เรามาย้อนดูกันหน่อยดีกว่าในในช่วงเวลาที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้างกับอาร์เซนอล…
โนวัค โยโควิช นักเทนนิสมือวางอันดับ 7 ของโลกชาวเซอร์เบียวัย 37 ปี เจ้าของเหรียญทองเทนนิสชายเดี่ยวโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส และกวาดแชมป์รายการหลักมาครบแล้วทุกรายการในเส้นทางระดับอาชีพ ได้แต่งตั้ง แอนดี้ เมอร์เรย์ อดีตนักเทนนิสชาวสหราชอาณาจักรเป็นโค้ชของตัวเอง…
ศึกพรีเมียร์ลีก นัดที่ 12 ของฤดูกาล 2024-25 ที่จ่าฝูงอย่างลิเวอร์พุล จะต้องบุกเยือนทีมบ๊วยอย่างเซาธ์แฮมป์ตัน ในคืนวันอาทิตย์นี้ ถ้าดูเผินๆ เหมือนจะเป็นโปรแกรมที่ง่ายสำหรับทีมของ อาร์เน่อ ชล็อต เพราะทีมหงส์แดงกำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรงมาก ไม่แพ้ใครมา 13…
วันนี้อาร์เซนอลของ มิเกล อาร์เตต้า มีโปรแกรมจะต้องพบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมสุดร้อนแรงประจำฤดูกาลนี้ และนอกจากความสำคัญของตารางคะแนนแล้ว นี่ยังเป็นเกมที่ 250 ที่มิเกล อาร์เตต้า คุมทีมอาร์เซนอลลงสนามด้วย อาร์เซนอลภายใต้การคุมทีมของ มิเกล…