ฝันร้ายของซาลิบาและแฟนอาร์เซนอลที่ลิสบอน

ถ้านึกกันไวๆอาร์เซนอลกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน ดูหมือนว่าทั้ง 2 ทีมไม่น่าจะมีประวัติอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่สำหรับแฟนๆอาร์เซนอลน่าจะจำกันได้ดีกับเหตุการณ์ในปี 2022/23 ที่พวกเขาโดนลิสบอนเขี่ยตกรอบ 16 ทีมในรายการยูฟ่า ยูโรป้าลีก

ในปีนั้นเป็นฤดูกาลแรกที่อาร์เซนอลก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มตัว ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจและเหนือความคาดคิดของทุกคน

อาร์เซนอลในฤดูกาลนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจและไฟแรง เดินหน้าเล่นเกมบุกแบบดุดัน คัมแบ็คจากจะแพ้มาเสมอ จากเสมอเป็นชนะ เป็นว่าเล่น นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครก็สามารถทำได้

แต่ปัญหาหนึ่งในฤดูกาลนั้นคือ “ขุมกำลังเชิงลึก” ด้วยผลงานตอนนั้นมันเกินความคาดหวังก่อนเริ่มฤดูกาลไว้มาก ทำให้พวกเขาไม่มีตัวสำรองมากพอที่จะมาทดแทนกันในกรณีมีนักเตะบาดเจ็บ

และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจนได้ และมันเริ่มต้นในเกมที่พวกเขาเจอกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน นี่แหละ

ถ้าเอาแค่ผลงานในวันนั้นอาร์เซนอลแพ้จากการดวลจุดโทษให้กับลิสบอนไป 3-5 หลังจากในเกมเสมอกัน 1-1

แต่ปัญหามันคือในนาทีที่ 9 ของเกมทีมต้องเสีย เบน ไวท์ ไปจากอาการบาดเจ็บ และที่แย่ที่สุด ในนาทีที่ 21 ทีมต้องเสีย ซาลิบา ตามไปอีกคน และนั้นคือเกมสุดท้ายของ ซาลิบากับอาร์เซนอลในฤดูกาลนั้น

อย่างที่บอกว่าผลการแข่งขันในวันนั้นอาร์เซนอลตกรอบไป นั้นก็น่าผิดหวังแล้ว แต่ที่แย่ที่สุดคือการเสียตัวหลักอย่าง ไวท์และซาลิบา ไป

และอย่างที่เราทราบกันว่าจากนั้นมาอาร์เซนอลก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนเดิมอีกแล้ว พวกเขาเริ่มสะดุดเสมอบ้าง แพ้บ้าง ทีมต้องใช้ ร็อบ โฮลดิ้ง แทน ซาลิบา ในการเจอกับแมนซิตี้ และแน่นอนพวกเขาแพ้ไป ทำให้ท้ายที่สุดอาร์เซนอลก็พลาดแชมป์ในปีนั้นแบบน่าเสียดาย

จริงอยู่ว่า สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไม่ใช่ตัวแปรทั้งหมด แต่พวกเขาก็นับเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้น ดังนั้นในคืนนี้อาร์เซนอลจะได้กลับมาเจอ สปอร์ติ้ง ลิสบอน อีกครั้ง มันจึงเป็นเหมือนการชำระล้างบาดแผลในใจบางอย่างและต้องทำให้ได้

และอีกเรื่องที่น่าสนใจคือ อาร์เซนอลและลิสบอน ตอนนี้พวกเขาพัฒนาขึ้นมากทั้งคู่ ลิสบอนเองก็ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ลีกที่แสนน่ากลัว อาร์เซนอลเองแม้จะยังไม่ได้แชมป์ แต่คุณภาพของพวกเขาเป็นที่ยอมรับในวงกว้างอยู่แล้ว

และไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เกมคืนนี้จะเป็นเกมที่เข้มข้น เต็มไปด้วยแทคติกระดับสูงแน่นอน