ฟุตบอล

จุดเริ่มต้นความกดดัน : เกิดอะไรขึ้นกับ กาเบรียล เชซุส จนทำให้เป็นเป้าโจมตีขนาดนี้

นับเป็นวันดีๆอีกหนึ่งวันสำหรับแฟนบอลอาร์เซนอล หลังพวกเขาสามารถเอาชนะคริสตัล พาเลซมาได้ 3-2 ในศึกคาราบาว คัพ เมื่อคืนที่ผ่านมา

แม้ว่านี่จะเป็นการที่เจอกับทีมที่ชื่อชั้นเป็นรองกว่าและบอลถ้วย แต่นั้นก็ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีหลังโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และจากเกมนี้ผมไม่มีดีใจไปกว่า กาเบรียล เชซุส

กาเบรียล เชซุส ตกเป็นเป้าในการวิจารณ์มาตลอดในช่วงหลังเนื่องจากเขาไม่สามารถทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง หลายๆครั้งที่เขามีโอกาสก็มักจะพลาดอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าจะมีแอสซิสต์บ้างแต่นั้นก็ไม่เพียงพอสำหรับแฟนบอล

พอยิ่งกดดันก็ยิ่งพยายาม พอพยายามก็ยิ่งกดดัน พอกดดันก็ยิ่งพลาด ส่งผลต่อเนื่องกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แน่นอนว่านี่คือสถานการณ์ที่ยากต่อมนุษย์ทุกคนในทุกสายอาชีพ ยิ่งเขาเป็นนักกีฬาที่ต้องแบกรับความคาดหวังจากคนหมู่มากมันยิ่งไปกันใหญ่ แต่ก่อนที่เชซุสจะเป็นแบบนี้มันมีจุดเริ่มต้น เรามาค่อยๆไล่เรียงไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

 

จุดเริ่มต้นของความกดดัน

แฟนบอลอาร์เซนอลส่วนใหญ่ (ไม่ทั้งหมด) ก็เหมือนทั่วไป ที่คาดหวังว่ากองหน้าเท่ากับยิงประตู เมื่อไม่สามารถทำประตูได้เท่ากับไม่ดีพอ ซึ่งนั้นก็ไม่ผิดถ้าเรามองกันที่ภายนอกก็ควรจะเป็นเช่นนั้น แต่สำหรับฟุตบอลสมัยใหม่วันมีวิธีการที่หลากหลายและล้ำลึกกว่านั้น

นักเตะหนึ่งตำแหน่งไม่สามารถทำหน้าที่ได้เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เช่น ผู้รักษาประตูที่ต้องสามารถเล่นกับเท้าได้ดี กองหลังที่สามารถครองบอลได้อย่างมั่นใจ แบ็คที่หุบเข้าใน กองกลางหลากหลายหน้าที่ ปีกที่ต้องทั้งสามารถยิงและจ่ายได้ และกองหน้าที่สามารถเล่นร่วมกับเพื่อนได้ และอาร์เซนอลมีแบบนั้นทุกอย่าง

แทคติกของอาร์เตต้าคุณจะไม่สามารถเป็นกองหน้าตัวเป้าแบบโบราณที่ยืนค้ำหน้าและรอยิงเฉยๆได้ คุณต้องสามารถดรอปตัวเองลงมารับบอลและสร้างสรรค์ต่อได้ ส่ายออกซ้ายออกขวาได้ และเชซุสที่คุณสมบัตินั้นทุกอย่าง เชซุสไม่ใช่คนที่ยิง 30 ประตูต่อฤดูกาลอยู่แล้ว แต่เหตุผลที่อาร์เซนอลซื้อเขามาเพราะมันตอบโจทย์กับวิธีการที่โค้ชเลือกใช้

ซึ่งตรงนี้หลายคนยังไม่เข้าใจและส่วนใหญ่ยังคงเรียกร้องให้หากองหน้าแบบโบราณในภาพจำตัวเอง นั้นจึงไม่แปลกที่ไม่ว่าใครจะมาเล่นก็จะโดนวิจารณ์อยู่เสมอทั้ง เชซุสและไค ฮาแวร์ตซ์

นี่คือจุดแรกที่ทำให้ เชซุส ในสายตาของแฟนอาร์เซนอลไม่เคยเป็นกองหน้าที่ดีพอ ไม่ใช่เพราะเขาไม่เก่ง แต่เป็นเพราะมันไม่เหมือนกับสิ่งที่พวกเขาเคยเข้าใจ

 

วิจารณ์ยังพอทน แต่อาการบาดเจ็บยิ่งทำให้แย่

ด้วยบุคลิกของเชซุสเอง เขาเป็นคนที่ทำงานหนักและพยายามมาทั้งชีวิตดั่งที่เราเคยเห็นเขาภาพเป็นเพียงประชาชนบราซิลที่ทาสีถนนเพื่อตกแต่งต้อนรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก จนมาถึงการเป็นกองหน้าทีมชาติบราซิล โดยทั่วไปคนแบบนี้จะได้รับเคารพจากคนรอบข้างอยู่แล้ว ดังนั้นการที่โดนวิจารณ์ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขา เพราะเขาผ่านสิ่งที่แย่กว่านั้นมาเยอะแล้ว

นับตั้งแต่เขาย้ายมาอาร์เซนอลเขาแทบไม่เคยมีอาการบาดเจ็บกับสโมสรเลย แต่แล้วด้วยโชคชะตาหรืออะไรก็ตามแต่ กาเบรียล เชซุส โชคร้ายได้รับอาการบาดเจ็บหนัก โดยเป็นการบาดเจ็บบริเวณเข่าจากฟุตบอลโลกที่การ์ต้าทำให้เขาต้องพักนานถึง 99 วัน

และด้วยปฎิทินฟีฟ่าสุดประหลาดในตอนนั้น ฟุตบอลโลกที่เกิดขึ้นดันอยู่ในระหว่างฤดูกาลปกตินั้นแปลว่าอาการบาดเจ็บในครั้งนั้นทำให้เชซุสต้องปิดเทอมกันทั้งทีมชาติและสโมสไปโดยปริยาย

นั้นสร้างความผิดหวังเป็นอย่างมากในเชซุส อาการบาดเจ็บที่เกิดก็หนักจนต้องผ่าตัด พักนานที่สุดในอาชีพค้าแข้ง เป็นส่วนที่ไม่เคยเจ็บมาก่อนอีก ความคิดมากมายโถมเข้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มันหนักมาสำหรับคนคนหนึ่ง

 

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็เกิดขึ้นจริงๆ

แน่นอนไม่มีนักกีฬาคนไหนอยากได้รับบาดเจ็บ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้วก็ต้องดูแลกันไปตามอาการ และก็ทำได้แต่ระวังไม่ให้ “เกิดอาการบาดเจ็บซ้ำ” อีก

แต่เชซุสคือผู้โชคร้ายครับ หลักจากผ่าตัดและต้องพักฟื้นนานกว่า 100 วัน เขามีอาการบาดเจ็บซ้ำที่หัวเข่าถึง 3 ครั้งและพอหัวเข่าไม่สามารถใช้งานได้เต็มร้อยเหมือนเดิม กล้ามเนื้อส่วนอื่นๆก็ต้องมารับหน้าที่หนักแทนกันไป และเขาก็ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมไปอีกทั้ง แฮมสตริง ขาหนีบ

เพียงเท่านี้ก็ยากมากพอแล้ว แต่นั้นยังไม่พอเมื่อปัญหาที่ไม่เคยเป็นปัญหาอย่างการวิจารณ์ก็เกิดขึ้นแบบไม่เคยหายไป จากที่เคยเจ็บแล้วมีคำอวยพรให้หายไวๆก็กลายเป็นจะเจ็บอะไรนักหนา กระดูกยูง อ่อนแอ นั้นน่าเศร้ามากถ้าเกิดขึ้นกับเรา

และมันก็แปรเปลี่ยนไปจากที่เคยรับมือได้ก็กลายเป็นส่งผลต่อสภาพจิตใจมากขึ้น แน่นอนว่าทีมเองก็มีนักจิตวิทยาคอยดูแลอยู่แล้ว แต่ถ้าจะบอกว่าไม่ส่งผลเลยก็คงจะเป็นคำพูดที่โกหกจนเกินไป เชซุส ในตอนนี้เขาแย่มากทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ

 

เชซุสไม่เคยยอมแพ้ต่อทุกสิ่ง

อย่างที่บอกไปว่า เชซุส ในตอนนี้แย่มากทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้ เขายังคงทำงานหนักในทุกกระบวนการ ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมามีศึกการแข่งขันยูโร ทำให้การรับมาร่วมทีมต้องยืดออกไปเพื่อให้เหมาะสมกับนักกีฬา

โดย มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของอาร์เซนอลจะมีการเรียกนักเตะที่ไม่ได้ติดทีมชาติกลับมาซ้อมช่วงต้นเดือนกรกฏาคม แต่ เชซุส จ้างโค้ชส่วนตัวมาฝึกซ้อมและเรียกความฟิตแบบตัวต่อตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายน หรือ ก่อนคนอื่น 1 เดือน

ซึ่งนี้แสดงให้เห็นว่า เชซุส ต้องการเตรียมความพร้อมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยคาดหวังว่าฤดูกาล 24/25 นี้จะเป็นฤดูกาลที่ดีของเขา

เช่นกันกับเวลาที่เขาลงสนามเราสามารถดูได้ด้วยตาเปล่าถึงความพยายามของเขาที่จะทั้งวิ่งเพลสซิ่ง ขยับส่ายซ้าย ขวา ลงมาต่ำเพื่อรับบอล ทุกครั้งที่หลุดไปก็จะพยายามทำประตูให้ได้ เพราะถึงแม้เราจะบอกว่าเขาคือกองหน้าในสไตล์ที่แตกต่างออกไป แต่สำหรับกองหน้าจะมีอะไรที่เรียกความมั่นใจดีไปกว่าการทำประตู

ซึ่งในหลายๆครั้งความมุ่งมั่นที่มากจนเกินไปก็ทำให้เขาพลาดโอกาสที่ดีกว่าเช่นการจ่ายไปให้เพื่อนง่ายๆ หรือพอหลุดเข้าไปก็กดดันแล้วพลาด และถูกต้องว่านั้นก็จะยิ่งทำให้มีคำวิจารณ์มากขึ้นไปอีก

 

หวังว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของเขา

จนกระทั่งในเกมเมื่อคืนนี้ในเกมคาราบาว คัพ กับคริสตัล พาเลซ กาเบรียล เชซุส สามารถทำแฮตทริกได้ โดยแต่ละประตูที่เขาทำได้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจไม่ว่าจะเป็นลูกแรกที่ชิปเข้าไปอย่างเหนือชั้นหรือลูก 2-3 ที่เหมือนจะง่ายแต่เขาก็เคยพลาดมาแล้วก่อนหน้านี้

3 ประตูในวันนี้ทำให้เสียงวิจารณ์หายไปแทบจะหมดและเปลี่ยนเป็นคำชื่นชมอย่างที่เราไม่เคยเห็นในช่วงหลัง ซึ่งนั้นคือสิ่งที่ กาเบรียล เชซุส ควรได้รับมาตลอด

ในสวนของ เชซุส เองเราก็หวังว่านี่จะเปลี่ยนให้เขากลับมาอยู่ในจุดที่ดีได้อีกครั้ง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเรารู้กันดีกว่าเรามีคุณภาพขนาดไหน

แต่เราก็ทราบกันดีกว่าสิ่งนี้จะไม่อยู่ไปตลอด เพียงแค่คุณพลาดอีกสักแค่หนึ่งครั้ง คำพูดแย่ๆมากมายก็พร้อมจะกลับมาทำร้ายเชซุสได้ทุกเมื่อ

Puttinan Klangpethphanich

Recent Posts

เอียน ไรท์ป้องแรชฟอร์ด! พวกคุณอยากให้เขาล้มเหลวเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคิดถูก

ถ้าพูดถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงนี้ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย มีทั้งฝั่งที่เห็นใจ เข้าใจ และฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแรชฟอร์ด ในส่วนของฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับแรชฟอร์ดต่างบอกว่าต้องการให้แรชฟอร์ดย้ายออกจากทีมไปและไม่ว่าทีมไหนที่ได้ตัวไป นั้นจะเป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งนี่อาจจะเป็นความคิดเห็นที่สุดโต่งไปหน่อยและไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้นเช่นกันกับ เอียน ไรท์ อดีตตำนานกองหน้าของอาร์เซนอล ที่ออกแสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ผมย้ายไปอาร์เซนอลตอนอายุ…

10 hours ago

5 สิ่งที่เกิดขึ้น หลังครบรอบ 5 ปีสุดทรหด ของ อาร์เตต้า และ อาร์เซนอล

วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (20 ธันวาคม 2562) มิเกล อาเตต้า ถูกแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ หลังปลด อูไนเอเมรี่ การทำงานตลอด 5 ปี ภายใต้…

1 day ago

มาร์ค กิว : ความผิดพลาดของบาร์ซา ที่มาแจ้งเกิดกับเชลซี

“ความคิดของผมเกี่ยวกับ กิว คือ บาร์เซโลนา ปล่อยเขามาได้อย่างไร?” โจ โคล อดีตมิดฟิลด์ของเชลซีกล่าว เชลซี ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมฟุตบอลสโมสรยุโรป หลังไล่ถล่ม แชมร็อค โรเวอร์ส 5-1 ในศึกยูฟ่า…

1 day ago

ไขข้อสงสัย : ทำไมแฟนสเปอร์สถึงปล่อยบอลลูนสีเหลืองเกมเจอแมนยู คาราบาว คัพ?

ควันหลงจากเกมคาราบาว คัพที่สเปอร์สเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้สุดมันส์ 4-3 โดยในเกมนี้มาเรื่องดราม่ามากมายหลายประเด็น ในทุกคนรู้หรือไม่ว่าในระหว่างเกมที่เดือดไฟลุกแบบนี้มีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆสนามและนั้นก็ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญนั้นคือก็ลูกโป่งสีเหลืองที่แฟนๆสเปอร์สร่วมกันชูขึ้น ว่าแต่ว่าลูกโป่งสีเหลืองคืออะไร พวกเขาส่งสัญญาณถึงใคร มาค่อยๆไล่เลียงกันไปครับ เกิดอะไรขึ้น? ย้อนกลับไปในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาเกิดการลักพาตัวประชาชนชาวอังกฤษขึ้นหลายคนไปฉนวนกาซา และหนึ่งในนั้นคือ Emily…

2 days ago

ฟาบิโอ โคเอนเทรา : จากแข้งมาดริดแชมป์สโมสรโลก สู่วิถีชีวิตชาวประมง

เรอัล มาดริด ประกาศศักดาการเป็นสโมสรเบอร์ 1 ของโลก ด้วยการเอาชนะ ปาชูกา ไปได้ 3-0 ในศึก ฟีฟ่า อินเตอร์คอนติเนลทัล 2024 เมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี…

2 days ago