ในสมัยที่ยังค้าแข้ง ฟิล โจนส์ ปราการหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักเป็นที่จดจำในฐานะ “ตัวตลก” จากแฟนบอลคู่แข่ง ด้วยจังหวะการเล่นสุดเหวอที่พร้อมเกิดทุกเมื่อที่ได้ลงสนาม
นอกจากนี้ ด้วยความที่เจ็บบ่อย ทำให้ โจนส์ ถูกมองว่าเป็นแข้งที่ล้มเหลว และไม่คุ้มค่าตัว และถูกนำไปล้อจากแฟนบอลฝ่ายตรงข้าม
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ดูเหมือนเป็นเรื่องตลกเหล่านั้น โจนส์ ไม่ได้ต้องการ ซ้ำร้ายกว่านั้น มันยังทำให้เขาเกิดบาดแผลในใจ
ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน
สำหรับ โจนส์ เขาถือเป็นหนึ่งในวอนเดอร์คิดของอังกฤษ หลังเบียดขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของแบล็คเบิร์นได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี ก่อนผลงานจะไปเข้าตา เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนได้ย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวสูงถึง 16.5 ล้านปอนด์
จุดเด่นของ โจนส์ คือความอเนกประสงค์ เขาเล่นได้ทั้งตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ฟูลแบ็ค หรือมิดฟิลด์ตัวรับ และลงรับใช้แมนฯ ยูไนเต็ด ไปทั้งสิ้น 229 เกมจาก 12 ฤดูกาล
แต่การลงเล่นที่นี่ กลับทำให้เขาเจ็บปวด จากการถูกมองในฐานะตัวตลก และไม่คุ้มค่าตัวเนื่องจากเจ็บบ่อย ทั้งจากแฟนบอลคู่แข่ง และแฟนบอลตัวเอง จนมันกลายเป็นบาดแผลที่เกาะกินหัวใจ
“ผมเคยผ่านความบอบช้ำอย่างหนักทางจิตใจ ใครก็ตามที่บอกว่าคุณไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็โกหกแล้ว และในฐานะนักฟุตบอล คุณต้องสวมหน้ากากเอาไว้” โจนส์กล่าว
“คุณได้เงินเดือนมาก ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะมีอารมณ์หรือความรู้สึก และอาการบาดเจ็บทางร่างกาย ก็ทำให้จิตใจผมอ่อนแอทุกครั้ง”
“แต่กลไกการรับมือของผมคือนิ่งเงียบ ระวังตัว และป้องกันตัวเองเมื่ออยู่กับครอบครัวที่สนิท ผมแทบจะไม่พูดคุยเรื่องนี้กับเพื่อนอย่างจริงจังด้วยซ้ำ”
โจนส์ บอกว่ามันถึงขั้นทำให้เขาไม่อยากออกไปข้างนอก เพราะกลัวจะเจอคนพูดไม่ดีใส่ หรือได้ยินคนพูดถึงสิ่งที่แทงใจดำเขา
“เวลาคุณเดินผ่านผู้คนบนถนน และเขาพูดอะไรบางอย่าง มันจะทำให้คุณหงุดหงิด และเจ็บปวด” โจนส์ อธิบาย
“คุณอาจจะแค่ได้ยินเสียงกระซิบว่า ‘โอ้ นั้นเขาไง ที่เจ็บโคตรบ่อย’ หรือพูดว่า ‘แกไม่ควรรับค่าเหนื่อยก้อนนั้น’ ถ้าพวกเขารู้เบื้องหลังผมกำลังทำอะไร ก็คงจะดี”
“ผมพบว่า ผมรู้สึกลำบากใจที่ไปจะร้านอาหารอยู่หลายปี คุณต้องก้มหน้าก้มตาตอนเดินผ่านฝูงชน ผมไม่อยากให้คนสนใจผม”
นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ โจนส์ ปฏิเสธ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่จะจัดเทสติโมเนียลแมตช์ เพื่อตอบแทนการเล่นให้กับสโมสรมากกว่า 10 ปี เนื่องจากรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่นักเตะคนโปรดของแฟน ๆ
“นอกจากแม่กับพ่อ ใครจะมาดูผมล่ะ” คำปฏิเสธสุดเศร้าของ โจนส์
ทั้งนี้ ปัจจุบัน โจนส์ กำลังจะมีชีวิตใหม่ หลังแขวนสตั๊ดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และกำลังทำงานโค้ชให้ทีม U14 และ U18 ของแมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงเพิ่งจะลงทะเบียนเรียนหลักสูตรผู้อำนวยการกีฬาของ PFA อยู่ในขณะนี้
ก็คงขออวยพรให้เส้นทางใหม่ของ อดีตแนวรับทีมชาติอังกฤษ ไปได้สวยและประสบความสำเร็จ เพื่อให้ภาพ “ตัวตลก” ได้ถูกลบเลือนไปบ้างไม่มากก็น้อย
พรีเมียร์ลีกเดินทางมาถึงสัปดาห์ที 12 แล้ว โดยสัปดาห์นี้มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมายที่ทั้งเป็นไปตามคาดและสุดแสนจะพลิกล็อค จะมีเหตุการณ์อะไรบ้าง ไปดูกัน 1.ทีมใหญ่ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้ดี อาร์เซนอลคือทีมที่สามารถเก็บผลการแข่งขันไปได้แบบน่าพอใจที่สุด หลังเอาชนะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-0 ทั้งๆที่ฤดูกาลนี้ฟอเรสต์ก็ไม่ธรรมดา และนอกจากผลการแข่งขันที่ดีแล้ว ถ้าเราดูรูปเกมก็จะเห็นว่าอาร์เซนอลทำได้ดีมาก…
Full Gear เป็นอีกศึกใหญ่ท้ายปีของ AEW และจะเป็นตัวกลางส่งไปสู่ Worlds End ศึกใหญ่สุดท้ายของปี เรามาดูกันดีกว่าว่าใน Full Gear มีแมตซ์ไหนและเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง แมตซ์ที่ 1 ชิงแชมป์แท็กทีม…
สตีฟ คูเปอร์ ถูก เลสเตอร์ ซิตี้ ปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเรียบร้อยแล้ว โดยทีมจิ้งจอกสยามได้ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากที่เขาคุมทีมนัดล่าสุดแพ้เชลซีคาบ้าน 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้เลสเตอร์ไม่ชนะใคร 5 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ ตกรอบ คาราบาว…
รูเบน อโมริม จะทำหน้าที่คุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามเป็นนัดแรกในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่จะต้องบุกเยือนน้องใหม่อย่าง อิปสวิช ทาวน์ คืนวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน ซึ่งจากสิ่งที่เฮดโค้ชชาวโปรตุเกสให้สัมภาษณ์ ดูเหมือนว่าเขาน่าจะยึดระบบ "หลัง 3"…
หลังจากที่อาร์เนซอลเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอรเสต์ ไป 3-0 เมื่อคืนนี้ ส่งผลให้อาร์เซนอลทำสถิติเป็นทีมที่ 2 ในอังกฤษที่ทำสถิติเก็บชัยชนะถึง 2,000 นัด ในลีกสูงสุดจากจำนวนลงแข่งทั้งหมด 4,336 นัด เรามาย้อนดูกันหน่อยดีกว่าในในช่วงเวลาที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้างกับอาร์เซนอล…
โนวัค โยโควิช นักเทนนิสมือวางอันดับ 7 ของโลกชาวเซอร์เบียวัย 37 ปี เจ้าของเหรียญทองเทนนิสชายเดี่ยวโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส และกวาดแชมป์รายการหลักมาครบแล้วทุกรายการในเส้นทางระดับอาชีพ ได้แต่งตั้ง แอนดี้ เมอร์เรย์ อดีตนักเทนนิสชาวสหราชอาณาจักรเป็นโค้ชของตัวเอง…