เหตุผลสุดพระเอกที่ทำให้ วาร์ดี้ เลิกเล่นทีมชาติตั้งแต่ช่วงพีก

Chayuntorn Chaimool

November 06, 2024 · 1 min read

เหตุผลสุดพระเอกที่ทำให้ วาร์ดี้ เลิกเล่นทีมชาติตั้งแต่ช่วงพีก
Football | November 06, 2024

เรื่องของ เจมี่ วาร์ดี้ นั้นชัดเจนมาก นับตั้งแต่เขาเเจ้งเกิดกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เขาก็กลายเป็น “เดอะ แบก” ของทีมมาจนถึงทุกวันนี้ โดยช่วงฤดูกาล 2015-16 ที่เลสเตอร์คว้าเเชมป์พรีเมียร์ลีกนั้นเป็นปีที่วาร์ดี้พีกสุด ๆ เขาจบซีซั่นด้วยการซัดไปถึง 24 ประตู ร้อนแรงจนเริ่มติดทีมชาติอังกฤษ และมีชื่อเป็น 23 นักเตะชุดยูโร 2016 อีกด้วย

ช่วงแรก ๆ ที่ติดทีมชาติ วาร์ดี้ถือว่ามีสถิติการยิงประตูที่ยอดเยี่ยม ทว่าปัญหาก็คือช่วงเวลาหลังจากนั้นที่มีการเปลี่ยนตัวเอา แกเร็ธ เซาธ์เกต มาเป็นกุนซือในปี 2017 วาร์ดี้ก็หาโอกาสลงสนามยากขึ้น เพราะเดิมทีมี แฮร์รี เคน จับจองตำแหน่งนี้อยู่แล้ว และยิ่งเป็นแทคติกของเซาธ์เกตที่มักชอบใช้ปีกเป็นตัวสอดขึ้นมาทำประตู นักเตะริมเส้นอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ มาร์คัส แรชฟอร์ด จึงถูกขยับขึ้นมาเล่นกองหน้ากับเคนอยู่บ่อย ๆ

ปัญหาสำคัญที่สื่ออังกฤษวิเคราะห์ถึงเหตุผลที่วาร์ดี้ไม่ค่อยได้ลงเล่นให้ทีมชาติหรือเมื่อได้ลงก็เล่นไม่ดีคือสไตล์การเล่นของทีมที่แตกต่างจากวิธีที่เขาถนัด ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นคือเซาธ์เกตมักจะใช้กองหน้าอย่างเคนลงมาเล่นเป็นตัวต่ำคอยเก็บและจ่ายบอล โดยให้เหล่าตัวรุกคนอื่น ๆ เป็นตัวทะลุขึ้นมา ซึ่งวาร์ดี้ทำไม่ได้

แม้เซาธ์เกตจะไม่เคยบอกว่าวาร์ดี้หมดโอกาสสำหรับทีมชาติอังกฤษ แต่วาร์ดี้ก็รู้ดีถึงสิ่งที่เขาต้องเจอ ในปี 2018 เขาก็ประกาศเลิกเล่นทีมชาติด้วยเหตุผลว่าเขาไม่อยากทำให้เซาธ์เกตต้องลำบากใจกับกองหน้าเสือเฒ่าที่ไม่เข้ากับสไตล์ทีมอย่างเขา

“ผมไม่ได้อายุน้อยอีกต่อไปแล้ว และคุณคงจะเห็นชัด ๆ ว่าทีมอังกฤษชุดนี้เจ้านาย(เซาธ์เกต) ชอบใช้ผู้เล่นหนุ่มมากกว่า ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์กับนักเตะเหล่านี้เมื่อฟุตบอลโลกมาถึง ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี ผมพูดคุยกับเขาเเล้ว และมันคงดีที่สุดถ้าหลังจากนี้เป็นต้นไปผมจะถอยออกมาและเปิดโอกาสให้นักเตะรุ่นใหม่ เพื่อให้พวกเขาสร้างยุคสมัยของพวกเขาเอง” วาร์ดี้ กล่าว … และทั้งหมดนี้คือต้นเหตุที่กองหน้าสัญชาติอังกฤษที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดคนหนึ่งในช่วง 5-6 ปีหลังติดเข้ามาอยู่ในลิสต์นี้ของเรา
เหตุผลสุดพระเอกที่ เจมี่ วาร์ดี้ เลิกเล่นทีมชาติสมัยท็อปฟอร์ม

เรื่องของ เจมี่ วาร์ดี้ นั้นชัดเจนมาก นับตั้งแต่เขาเเจ้งเกิดกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เขาก็กลายเป็น “เดอะ แบก” ของทีมมาจนถึงทุกวันนี้ โดยช่วงฤดูกาล 2015-16 ที่เลสเตอร์คว้าเเชมป์พรีเมียร์ลีกนั้นเป็นปีที่วาร์ดี้พีกสุด ๆ เขาจบซีซั่นด้วยการซัดไปถึง 24 ประตู ร้อนแรงจนเริ่มติดทีมชาติอังกฤษ และมีชื่อเป็น 23 นักเตะชุดยูโร 2016 อีกด้วย

ช่วงแรก ๆ ที่ติดทีมชาติ วาร์ดี้ถือว่ามีสถิติการยิงประตูที่ยอดเยี่ยม ทว่าปัญหาก็คือช่วงเวลาหลังจากนั้นที่มีการเปลี่ยนตัวเอา แกเร็ธ เซาธ์เกต มาเป็นกุนซือในปี 2017 วาร์ดี้ก็หาโอกาสลงสนามยากขึ้น เพราะเดิมทีมี แฮร์รี เคน จับจองตำแหน่งนี้อยู่แล้ว และยิ่งเป็นแทคติกของเซาธ์เกตที่มักชอบใช้ปีกเป็นตัวสอดขึ้นมาทำประตู นักเตะริมเส้นอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ มาร์คัส แรชฟอร์ด จึงถูกขยับขึ้นมาเล่นกองหน้ากับเคนอยู่บ่อย ๆ

ปัญหาสำคัญที่สื่ออังกฤษวิเคราะห์ถึงเหตุผลที่วาร์ดี้ไม่ค่อยได้ลงเล่นให้ทีมชาติหรือเมื่อได้ลงก็เล่นไม่ดีคือสไตล์การเล่นของทีมที่แตกต่างจากวิธีที่เขาถนัด ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นคือเซาธ์เกตมักจะใช้กองหน้าอย่างเคนลงมาเล่นเป็นตัวต่ำคอยเก็บและจ่ายบอล โดยให้เหล่าตัวรุกคนอื่น ๆ เป็นตัวทะลุขึ้นมา ซึ่งวาร์ดี้ทำไม่ได้

แม้เซาธ์เกตจะไม่เคยบอกว่าวาร์ดี้หมดโอกาสสำหรับทีมชาติอังกฤษ แต่วาร์ดี้ก็รู้ดีถึงสิ่งที่เขาต้องเจอ ในปี 2018 เขาก็ประกาศเลิกเล่นทีมชาติด้วยเหตุผลว่าเขาไม่อยากทำให้เซาธ์เกตต้องลำบากใจกับกองหน้าเสือเฒ่าที่ไม่เข้ากับสไตล์ทีมอย่างเขา

“ผมไม่ได้อายุน้อยอีกต่อไปแล้ว และคุณคงจะเห็นชัด ๆ ว่าทีมอังกฤษชุดนี้เจ้านาย(เซาธ์เกต) ชอบใช้ผู้เล่นหนุ่มมากกว่า ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์กับนักเตะเหล่านี้เมื่อฟุตบอลโลกมาถึง ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี ผมพูดคุยกับเขาเเล้ว และมันคงดีที่สุดถ้าหลังจากนี้เป็นต้นไปผมจะถอยออกมาและเปิดโอกาสให้นักเตะรุ่นใหม่ เพื่อให้พวกเขาสร้างยุคสมัยของพวกเขาเอง” วาร์ดี้ กล่าว … และทั้งหมดนี้คือต้นเหตุที่กองหน้าสัญชาติอังกฤษที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดคนหนึ่งในช่วง 5-6 ปีหลังถูกยกให้เป็นเรื่องน่าเสียดายของทัพทรีไลอ้อนส์