เผยสถิติจ่าฝูงพรีเมียร์นัดแรก มีแค่ 4 หนจาก 32 ซีซั่นที่ได้แชมป์

Pipat Sathirawut

August 18, 2024 · 2 min read

เผยสถิติจ่าฝูงพรีเมียร์นัดแรก มีแค่ 4 หนจาก 32 ซีซั่นที่ได้แชมป์
Football | August 18, 2024

“เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” นี่คือวลีที่หลายๆ คนมักจะใช้ปลุกใจ และแน่นอนว่าทุกทีมที่เข้าสู่ฤดูกาลใหม่ของพรีเมียร์ลีก ต่างต้องการประเดิมเกมแรกสุดของซีซั่นด้วยชัยชนะกันทั้งนั้น เพื่อเป็นกำลังใจสำคัญสำหรับการลุ้นเก็บแต้ม และรักษาโอกาสลุ้นจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้คงอยู่นานๆ

ในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024-25 หลังจากจบการแข่งขันวันที่ 2 หรือคืนวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2024 ทีมที่ขึ้นไปนำจ่าฝูงของตารางตอนนี้คือไบรท์ตัน ซึ่งบุกไปถล่มเอฟเวอร์ตันถึง กูดิสัน พาร์ค แบบสบายเท้า 3-0 ซึ่งหลายคนก็รอจับตาดูว่า ทีมที่จะลงแข่งทีหลังในวันอาทิตย์ หรือคืนวันจันทร์ จะมีใครที่ทำผลงานในเกมเปิดหัวฤดูกาลนี้ได้ดีกว่าทีมนกนางนวลหรือเปล่า เพราะทีมที่ทำได้จะแซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงแทนทันที

อย่างไรก็ตาม การเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกหลังจากทุกทีมแข่งกันไปทีมละ 1 นัด แทบไม่ช่วยอะไรกับการลุ้นแชมป์ในบั้นปลายสักเท่าไร เพราะหลังจากที่เราไปย้อนดูสถิติของทีมที่รั้งอันดับ 1 หลังจบเกมแรกของพรีเมียร์ลีกทุกฤดูกาล นับตั้งแต่ซีซั่น 1992-93 เป็นต้นมา จนกระทั่งจบฤดูกาลที่แล้ว มีทีมที่เป็นจ่าฝูงในนัดแรกแล้วจบซีซั่นด้วยการเป็นแชมป์แค่ 4 ทีมเท่านั้น หรือมีอัตราส่วนเพียง 12.5%

แล้วสิ่งที่น่าสนใจก็คือตลอด 4 ฤดูกาลหลังสุด หรือนับตั้งแต่ฤดูกาล 2020-21 เป็นต้นมา ทีมที่จบนัดแรกด้วยการขึ้นนำจ่าฝูง จะไม่สามารถทำอันดับติดท็อปโฟร์ได้ด้วยซ้ำ ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แม้จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้มากถึง 6 สมัย และเป็นแชมป์มาตลอด 4 ฤดูกาลหลังสุด แต่ทีมเรือใบสีฟ้าในยุคของเป๊ปก็เคยจบนัดแรกด้วยการเป็นจ่าฝูงแค่หนเดียวเท่านั้น คือในฤดูกาล 2019-20 ที่เปิดฉากด้วยการบุกถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 5-0 แต่ซีซั่นดังกล่าว พวกเขาก็ไม่ได้เป็นแชมป์แต่อย่างใด

 

สรุปทีมที่นำจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกหลังจบนัดแรกของทุกฤดูกาล พร้อมอันดับเมื่อจบซีซั่น

1992-93 : นอริช ซิตี้ (จบอันดับ 3)

1993-94 : โคเวนทรี ซิตี้ (จบอันดับ 11)

1994-95 : ลิเวอร์พูล (จบอันดับ 4)

1995-96 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (จบอันดับ 2)

1996-97 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (คว้าแชมป์)

1997-98 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (จบอันดับ 2)

1998-99 : วิมเบิลดัน (จบอันดับ 16)

1999-2000 : เชลซี (จบอันดับ 5)

2000-01 : ชาร์ลตัน แอธเลติก (จบอันดับ 9)

2001-02 : โบลตัน วันเดอเรอร์ส (จบอันดับ 16)

2002-03 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (จบอันดับ 3)

2003-04 : แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (จบอันดับ 15)

2004-05 : อาร์เซน่อล (จบอันดับ 2)

2005-06 : ชาร์ลตัน แอธเลติก (จบอันดับ 13)

2006-07 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (คว้าแชมป์)

2007-08 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (จบอันดับ 12)

2008-09 : เชลซี (จบอันดับ 3)

2009-10 : อาร์เซน่อล (จบอันดับ 3)

2010-11 : เชลซี (จบอันดับ 2)

2011-12 : โบลตัน วันเดอเรอร์ส (จบอันดับ 18 – ตกชั้น)

2012-13 : ฟูแล่ม (จบอันดับ 12)

2013-14 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (คว้าแชมป์)

2014-15 : เชลซี (คว้าแชมป์)

2015-16 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (จบอันดับ 4)

2016-17 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (จบอันดับ 6)

2017-18 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (จบอันดับ 2)

2018-19 : ลิเวอร์พูล (จบอันดับ 2)

2019-20 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (จบอันดับ 2)

2020-21 : อาร์เซน่อล (จบอันดับ 8)

2021-22 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (จบอันดับ 6)

2022-23 : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (จบอันดับ 8)

2023-24 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (จบอันดับ 7)

 

จะเห็นได้ว่า ทีมที่สุดท้ายจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องรีบขึ้นนำจ่าฝูงตั้งแต่นัดแรก เพราะสุดท้ายแล้ว ความสม่ำเสมอในการเก็บแต้มสะสมตลอดช่วงเวลา 10 เดือนต่างหาก ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสมากที่สุด

ส่วนทีมที่ประเดิมนัดแรกด้วยฟอร์มสวยหรู ก็ถือว่าได้ขวัญกำลังใจไปก่อน แต่ไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าฟอร์มยอดเยี่ยมที่แสดงออกมาในสัปดาห์แรกของฤดูกาล มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ตลอดในระยะยาว