ช่วงออกทะเลของ เดอ ลิกท์ : ทำพลาดเสียประตู 2 นัดติด จนต้องโดนถอด

Pipat Sathirawut

September 11, 2024 · 1 min read

ช่วงออกทะเลของ เดอ ลิกท์ : ทำพลาดเสียประตู 2 นัดติด จนต้องโดนถอด
Football | September 11, 2024

หลังจากที่ มัตไตส์ เดอ ลิกท์ เซ็นสัญญาย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค ไปซบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อร่วมงานกับอดีตเจ้านายเก่าของเขาที่อาแจ็กซ์อย่าง เอริค เทน ฮาก อีกครั้ง ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะยิ่งเจอความกดดันมากขึ้นเมื่อกลายเป็นผู้เล่นทีมปีศาจแดง และฟอร์มการเล่นของปราการหลังวัย 25 ปีรายนี้ ก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางสักเท่าไร

เดอ ลิกท์ ซึ่งลงสนามเป็นตัวจริงให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นัดแรกในเกมแดงเดือดที่แพ้ลิเวอร์พูลยับเยิน 0-3 คา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังในเกมนั้น เพราะดูจะยังไม่ค่อยเข้าใจจังหวะการยืนตำแหน่งกับเพื่อนมากนัก แถมยังโดนใบเหลืองในครึ่งหลังจนต้องโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วง 21 นาทีสุดท้ายอีกต่างหาก

ในช่วงเบรกฟีฟ่าเดย์รอบนี้ อดีตเซนเตอร์แบ็กของอาแจ็กซ์, ยูเวนตุส และ บาเยิร์น มีโอกาสดีที่จะยึดตัวจริงในทีมชาติ เนื่องจาก สเตฟาน เดอ ฟราย กองหลังจาก อินเตอร์ มิลาน มีปัญหาบาดเจ็บ แต่ทว่า เดอ ลิกท์ ที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ทีมอัศวินสีส้มทั้ง 2 นัดในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เดือนนี้ ทั้งในเกมที่เนเธอร์แลนด์เปิดบ้านถล่มบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 5-2 เมื่อคืนวันเสาร์ และเกมเปิดบ้านเสมอเยอรมนี 2-2 นัดล่าสุดเมื่อคืนวันอังคาร ได้ก่อความผิดพลาดที่ทำให้ทีมเสียประตูทั้ง 2 เกม

ในเกมที่เนเธอร์แลนด์ถล่มบอสเนียฯ 5-2 แม้ว่าขุนพลจากแดนกังหันลมจะคว้าชัยได้แบบขาดลอย แต่ เดอ ลิกท์ ก็ก่อความผิดพลาดระดับมือสมัครเล่นออกมาในจังหวะที่ทำให้บอสเนียฯ ได้ประตูไล่ตีตื้นเป็น 3-2 ในครึ่งหลัง เมื่อมัวแต่เหม่อลอย ปล่อยให้บอลที่เปิดมาจากริมเส้นตกพื้นผ่านหน้าตัวเองไปในกรอบเขตโทษ จนเปิดโอกาสให้ เอดิน เชโก้ ได้ยิงจ่อๆ หน้าประตู จากนั้นในเกมกับเยอรมนีนัดล่าสุด เจ้าตัวก็จ่ายบอลเสียดื้อๆ จนเป็นจุดเริ่มต้นของจังหวะที่ทีมอินทรีเหล็กได้ประตูตีเสมอ 1-1 และทำให้โมเมนตัมของเนเธอร์แลนด์ที่กำลังได้เปรียบเสียไป

มัตไตส์ เดอ ลิกท์ เหม่อลอยชัดเจน จนทำให้ เอดิน เชโก้ ทำประตูได้ในเกมที่เนเธอร์แลนด์ชนะบอสเนียฯ 5-2

 

พลาด 2 นัดซ้อน บ่งบอกชัดเจนว่ากำลังกดดัน

ย้อนไปหลังจบเกมที่เนเธอร์แลนด์เปิดบ้านถล่มบอสเนียฯ 5-2 เดอ ลิกท์ ให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้ตัวดีว่าทำพลาดชัดเจนจนทำให้ทีมเสียประตู แต่เจ้าตัวก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร

“ผมคิดว่าคุณรู้ว่าผมรู้สึกยังไง เราชนะ แต่เมื่อพูดถึงการเล่นส่วนบุคคล ผมน่าจะทำได้ดีกว่านี้ในจังหวะเสียประตูที่ 2 ให้พวกเขา และผมรู้ตัว”

“ผมไม่รู้จริงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมน่าจะเคลียร์บอลทิ้งไป แต่ผมยังคงเกิดความสงสัยระหว่างการเล่นอยู่ มันห่วยเกินจริงๆ”

ซึ่งหลังจบเกมนั้น กุนซือของทีมอัศวินสีส้มอย่าง โรนัลด์ คูมัน ก็ตำหนิการเล่นของ เดอ ลิกท์ ว่าไม่ควรก่อความผิดพลาดในลักษณะนี้ แต่ก็ถือว่านักเตะทุกคนมีโอกาสทำพลาดกันได้ เขาออกโรงปกป้องกองหลังตัวใหม่ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยชี้ว่าไม่ควรโดนจ้องเล่นงานมากเกินไปจากจังหวะแบบนั้น

อย่างไรก็ตาม การผิดพลาดต่อเนื่องในเวลาห่างกันแค่ 3 วัน ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ทีมชาติต้องเสียประตูอีกครั้ง ทำให้ โรนัลด์ คูมัน ไม่สามารถปล่อยให้ เดอ ลิกท์ ที่ดูจะไม่ค่อยพร้อมสำหรับการลงสนามช่วงนี้อยู่ในสนามต่อได้ โดยต้องเปลี่ยนตัวออกทันทีในช่วงพักครึ่ง เพื่อส่ง ยาน ปอล ฟาน เฮ็คเก้ เซนเตอร์แบ็กของไบรท์ตันลงเล่นแทน

คูมันให้สัมภาษณ์หลังจบเกมล่าสุดที่เนเธอร์แลนด์เสมอกับเยอรมนี 2-2 ว่า “แน่นอนว่าผมอยากจะเก็บ มัตไตส์ เดอ ลิกท์ ไว้ในสนามต่อไปมากกว่า”

“แต่มันดูเหมือนว่าตอนนี้เขาอยู่ในช่วงเวลาที่ความผิดพลาดทุกอย่างของเขาจะถูกลงโทษทั้งหมด ผมให้โอกาสเขาใหม่ในวันนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผมต้องปกป้องเขาด้วยการเปลี่ยนตัวเขาออก”

ไม่ใช่แค่เฮดโค้ชอย่างคูมันเท่านั้น ที่ให้สัมภาษณ์พูดถึงจังหวะพลาดของ มัตไตส์ เดอ ลิกท์ แต่ทางด้านกัปตันทีมชาติอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็จี้ประเด็นที่ เดอ ลิกท์ กำลังหลุดสมาธิอย่างหนักด้วยเช่นกัน

ฟาน ไดค์ เผยว่า “นี่คือฟุตบอล คุณต้องเรียนรู้จากสิ่งนี้ มันคือจังหวะหนึ่งแต่ในระดับสูงสุดแล้ว คุณจะโดนลงโทษจากมัน”

 

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ มัตไตส์ เดอ ลิกท์ จะต้องกลับไปลงเล่นให้ต้นสังกัดใหม่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งจะลงเล่นเป็นคู่แรกของศึกพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ โดยต้องบุกเยือนน้องใหม่อย่างเซาธ์แฮมป์ตัน

ไม่รู้ว่า เอริค เทน ฮาก จะไว้ใจให้ เดอ ลิกท์ ที่ฟอร์มยังไม่อยู่กับร่องกับรอย และยังปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ได้ไม่ลงตัวนักได้ลงตัวจริงต่ออีกนัดหรือเปล่า เพราะสถานการณ์ของทีมปีศาจแดงตอนนี้ต้องรีบกลับมาเก็บชัยชนะในลีกให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อลดความเดือดดาลจากแฟนบอลลง ซึ่งบางทีการไว้ใจ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ผลงานกำลังดีกว่ามากได้ลงตัวจริงแทน อาจจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าในตอนนี้ก็ได้