สะท้อนแรงกดดัน : เมื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไม่ใช่รายแรกในวงการฟุตบอลที่ทำร้ายตัวเอง
กลายเป็นภาพที่น่าตกใจสำหรับ เป๊บ กวาดิโอลา กับการปรากฎตัวหลังเกม ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเสมอกับเฟเยร์นูด 3-3 ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ด้วยบาดแผลบนใบหน้า
กุนซือชาวสเปน ยอมรับว่ามันเป็นแผลที่เกิดจากการที่เขาข่วนหน้าตัวเอง และมูลเหตุก็น่าจะมาจากผลการแข่งขัน ที่ซิตี้ ออกนำไปก่อน 3-0 แต่จบลงด้วยผล 3-3
อย่างไรก็ดี เป๊บ ไม่ใช่คนแรกที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้ และนี่คือเหล่าคนในวงการลูกหนังที่ทำร้ายตัวเองมาก่อน
ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน
เพราะกดดันจึงเจ็บปวด
“ผมข่วนหน้าตัวเองน่ะ ใช้นิ้วของผมเองนี่แหละ ผมแค่อยากทำร้ายตัวเอง” คือประโยคที่ เป๊บ กวาดิโอลา ตอบกับสื่อหลังเกม ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
มันคือภาพสะท้อนของความเป็นคนรักในความสมบูรณ์แบบของกุนซือชาวสเปน หลัง แมนฯ ซิตี้ กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ เมื่อไร้ชัยใน 6 เกมหลังสุด และเป็นการปราชัยไปถึง 5 นัด
ทั้งนี้ เป๊บ ไม่ใช่คนแรกในวงการลูกหนังที่ทำร้ายตัวเอง หลังทำอะไรผิดพลาด และ เจมี วาร์ดี กองหน้า เลสเตอร์ ซิตี้ ก็เคยมีพฤติกรรมนี้ซ้ำ ๆ
ย้อนกลับไปในปี 2023 ในเกมที่ เลสเตอร์ พบกับ วัตฟอร์ด ในศึกแชมเปียนชิพ ขณะที่ เกมยังเสมอ 0-0 จิ้งจอกสยามมีโอกาสออกนำ หลัง สเตฟี มาดิวิดี เปิดบอลไป ทางเสาสองให้ วาร์ดี ที่ไร้ตัวประกบ ได้จบสกอร์ แต่เขากลับยิงข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ
วาร์ดี ล้มลงด้วยความผิดหวัง ก่อนจะลุกขึ้นมาชกหน้าตัวเองไปหนึ่งกำปั้นด้วยความโกรธ และมันก็เหมือนทำให้เขามีแรงฮึด เมื่อหลังจากนั้น เขาก็มายิง 2 ประตูช่วยให้ทีมเก็บ 3 คะแนนไปได้
นี่ไม่ใช่ครั้งเดียวที่ วาร์ดี ทำแบบนี้ เพราะตอนปี 2017 เขาก็เคยก่อเหตุชกหน้าตัวเอง ในเกม แชมเปียนส์ลีก กับ เซบียา หลังมีโอกาสยิง แต่ซัดบอลข้ามคานไปไกล รวมถึงอีกหลายเกมก่อนหน้านี้ เช่นกันกับในนามทีมชาติอังกฤษ
อย่างไรก็ดี แม้ว่า การทำร้ายตัวเอง อาจจะทำให้คนนั้นมีแรงผลักดัน เพื่อแก้ไขข้อความผิดพลาด หรือแรงฮึด เหมือนกับเคสของ วาร์ดี แต่นี้ก็ไม่ใช่สัญญาณที่ดีนัก
เพราะเหตุใดจึงน่าห่วง?
จากข้อมูลของ Creative Learning ระบุว่าคนที่มีพฤติกรรมทำการทำร้ายตัวเอง มักจะมีสาเหตุมาจากอยากลงโทษตัวเอง อาจจะเป็นความโกรธ หรือเกลียดตัวเองมาก เหมือนกับ วาร์ดี ที่ชกตัวเอง หลังพลาดโอกาสง่าย ๆ
หรืออีกความเป็นไปได้ คือความรู้สึกแย่ในตัวเอง ที่มากจนไม่สามารถจะจัดการได้ จึงใช้การทำร้ายตัวเองระบายความรู้สึกที่ท่วมท้น
ซึ่งลักษณะนี้อาจจะน่าจะตรงกับพฤติกรรมของ กวาดิโอลา หลังทีมออกนำไปก่อนถึง 3-0 แต่กลับจบลงด้วยผล 3-3 ผนวกกับผลงานที่ดิ่งเหวของ แมนฯ ซิตี้ ในช่วงนี้ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในยุคของกุนซือชาวสเปน
มันสะท้อนอย่างดีถึงความกดดันที่ กวาดิโอลา ต้องเผชิญ เพราะการมาคุมเรือใบสีฟ้า เขามีเพียงเป้าหมายเดียวนั่นคือคำว่า “ประสบความสำเร็จ” เท่านั้น
แม้ว่าการทำร้ายตัวเอง อาจจะไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่มันก็เป็นการรับมือกับปัญหาที่น่าเป็นห่วง เพราะก่อให้เกิดการกระทำซ้ำๆ จนคุ้นชิน จนนำไปสู่ปัญหาด้านจิตใจ หรือถึงขั้นซึมเศร้าจนอยากฆ่าตัวตาย
เดวิด ค็อก อดีตกองหน้าชาวสก็อต คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่เคยเจอกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ เขาประกาศเลิกเล่นอย่างกระทันหัน ระหว่างช่วงพักครึ่งในเกมลีกเมื่อปี 2021 หลังโดนคู่แข่งล้อเลียน
ก่อนที่หลังจากนั้น ค็อก จะออกมาเผยว่าตัวเองเคยมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเองมาก่อน หลังเผชิญกับความกดดัน พร้อมกับโชว์แผลเป็นที่มีมาร์กเกอร์สีแดงกำกับทั่วร่างกาย รวมถึงที่คอ ซึ่งเป็นแผลจากการพยายามฆ่าตัวตาย
“รอยสีแดงเหล่านี้ เป็นตัวแทนของช่วงเวลาที่ผมพยายามดิ้นรน และทำร้ายตัวเอง หรือพยายามฆ่าตัวตาย” ค็อกกล่าว
“เราไม่เคยรู้จริงๆ ว่ามีอะไรอยู่หลังบานประตูที่ปิดอยู่ ผมไม่กลัวที่จะโชว์รอยแผลเป็น ผมไม่ได้เลือกที่จะมาป่วยทางใจ”
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับ กวาดิโอลา จึงไม่ใช่เรื่องตลก เพราะมันคือความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดอะไรที่เลวร้ายกว่านั้น หลังจากเห็นได้ชัดว่าเขากำลังมีปัญหาสุขภาพจิต
บางที ทางที่ดีที่สุดของ เป๊บ ในตอนนี้ คือการเข้าการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ อาจจะเป็นจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาของสโมสร เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องเศร้าในอนาคต
ตอนนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้ กวาดิโอลา ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.