ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รูปแบบใหม่ ประเดิมนัดแรกกันไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากเหล่าผู้เล่น ที่มองว่าพวกเขากำลังจะลงเตะ “มากเกินไป” ในหนึ่งฤดูกาล
อย่างไรก็ดีในอีกซีกโลก มีลีกประเทศหนึ่งที่เตะกันอย่างดุเดือดในระดับ 50-60 นัดต่อฤดูกาลอยู่เสมอ และ บราซิล ก็คือประเทศนั้น
เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? ติดตามไปพร้อมกัน
สำหรับนักเตะบราซิล การลงเล่นในระดับ 50-60 นัดอาจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหากย้อนไปดูสถิติของเหล่าแข้งทีมชาติบราซิลชุดปัจจุบัน แต่ละคนล้วนเคยผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็น อลิซง เบ็คเกอร์ ที่ลงเล่นให้ อินเตอร์ นาซิอองนาล ไปถึง 57 เกมเมื่อฤดูกาล 2015, บรูโน กิมาไรส์ ที่ลงเล่นให้ แอตเลติโก พารานาเอนเซ ไป 58 เกมในฤดูกาล 2018 หรือแม้แต่ดาวรุ่งดวงใหม่ อย่าง เอ็นดริค ก็ลงเล่นให้ พัลไมรัส ไปถึง 53 นัดในฤดูกาล 2023
อย่างไรก็ดี แม้ว่าพวกเขาจะลงเล่นในระดับ 50 นัดต่อฤดูกาล แต่อันที่จริงลีกบราซิล ก็ไม่ได้ต่างจากลีกยุโรป พวกเขามีลีกสูงสุด หรือ คัมปีโอนาโต ซีรี เอ ที่มีการแข่งขัน 38 นัดต่อฤดูกาล รวมไปถึงลีกรองตั้งแต่ ซีรี บี ยัน ดี ที่จำนวนนัดอยู่ในระดับเดียวกัน
ทว่าสิ่งที่ทำให้ แข้งบราซิล ต้องเตะกันกันถี่ขนาดนี้ ก็เป็นเพราะการมีอยู่ของลีกรัฐ ที่เป็นอีกหนึ่งสมรภูมิที่ต้องเข้าร่วมชิงชัย ที่นอกจากเงินรางวัลแล้ว ยังมีศักดิ์ศรีที่ค้ำคออยู่
ลีกรัฐ หรือ State Championship เป็นส่วนหนึ่งของพิรามิดฟุตบอลบราซิล ที่มีมากถึง 27 ลีกกระจายตัวอยู่ทั่วดินแดนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก
แม้ดูอย่างผิวเผิน มันจะเหมือนเป็นลีกท้องถิ่น เนื่องจากทีมที่เข้าร่วมต้องเป็นทีมที่อยู่ในรัฐนั้น แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือในลีกแห่งนี้จะมีทีมดังในลีกสูงสุดเข้าร่วมด้วย
เช่น พัลไมรัส จะต้องลงเตะใน คัมปีโอนาโต เปาลิสตา หรือลีกรัฐเซาเปาโล, เกรมิโอ อยู่ในลีก คัมปีโอนาโต เกาโช ของรัฐ ริโอ กรันเด เดอ ซูล หรือ แอธเลติโก มิเนโร จะลงเล่นใน คัมปีโอนาโต มิเนโร ของรัฐมินาสเกเรส
เนื่องจากปกติแล้ว ลีกรัฐส่วนใหญ่ จะเตะกันในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงปิดฤดูกาลของลีกสูงสุด จึงทำให้สโมสรสามารถส่งทีมเข้าร่วมต่อได้ โดยไม่ทับซ้อนกับลีกใหญ่ของประเทศ
นั่นทำให้นอกจากจะต้องลงเล่น 38 นัดในลีกสูงสุดแล้ว เหล่าแข้งบราซิลยังมีเกมที่รออยู่อีก 17 เกมในลีกรัฐ และเมื่อบวกกับเกมสโมสรอเมริกาใต้อย่าง โคปา ลิเบอตาดอเรสคัพ ที่หากไปถึงนัดชิงชนะเลิศ จะต้องลงเล่นมากถึง 13 เกม, โคปา เดอ บราซิล 4 นัด และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกอีก 2 นัด ทำให้พวกเขาจะต้องลงเตะมากถึง 74 นัดต่อฤดูกาล
ทั้งนี้ การลงเล่นมากขนาดนี้ ก็มาพร้อมกับเสียงวิจารณ์ไม่ต่างจากแชมเปียนส์ลีก ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ลีกไม่น่าดึงดูดจากจำนวนนัดที่มากเกินไป, ผู้เล่นไม่ได้พักเบรกหลังต้องกรำศึกหนัก ไปจนถึงถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งทีมทำให้ทีมชาติบราซิลตกต่ำในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะข้อเสียเยอะขนาดนี้ แต่ลีกรัฐก็จำเป็นต้องมีอยู่ เพราะอะไร?
เหตุผลสำคัญก็คือ เนื่องจากโครงสร้างลีกบราซิล ไม่เหมือนกับลีกชาติอื่น ที่หากจะส่งทีมลงเล่น แค่ก่อตั้งทีม ลงเล่นในลีกล่าง แล้วไต่เต้าขึ้นมา แต่วิธีเดียวก็คือต้องทำผลงานให้ดีในลีกรัฐเท่านั้น จึงทำให้ลีกแห่งนี้เป็นเหมือนช่องทางในการขึ้นไปเล่นในลีกที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ ลีกรัฐยังเป็นเหมือนเครื่องช่วยชีวิตทางการเงินและแหล่งรวมฐานแฟนบอลขนาดใหญ่สำหรับทีมเล็ก ที่ทำให้ลีกแห่งนี้จำเป็นต้องดำรงอยู่
และทำให้ผู้เล่นการลงเล่น 50 นัดต่อฤดูกาลของแข้งบราซิล กลายเป็นเรื่องปกติ แม้กระทั่งในปัจจุบัน
ล่าสุดนิตยสาร FourFourTwo ได้มีการจัดอันดับ 20 สนามกีฬาที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยเกณฑ์การคัดเลือกจะพิจารณาจากหลายองค์ประกอบรวมกันไม่ว่าจะเป็น ความทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวก บรรยากาศการเชียร์ แฟนบอล ความนิยม และอื่นๆ จะมีสโมสรอะไรบ้างมาติดตามไปพร้อมๆกัน 1.Ibrox Stadium…
หากพูดถึงวันคริสต์มาส สิ่งที่หลายคนนึกถึงคือ “ซานตาคลอส” ชายสูงวัยที่มาพร้อมกับหนวดขาว และชุดสีแดง คอยแจกของขวัญให้แก่เด็กๆ ในทุกวันที่ 25 ธันวาคม อย่างไรก็ดี มันอาจจะต่างออกไปสำหรับแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน เมื่อซานตาคลอสของพวกเขาไม่ได้สวมชุดสีแดง แต่ต้องเป็นสีน้ำเงินเท่านั้น และนี่คือที่มาของซานตาคลอสในสีที่แปลกตาของชาวเอฟเวอร์โตเนียน ติดตามไปพร้อมกัน…
รอย คีน อดีตยอดมิดฟิลด์กัปตันทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เปิดเผยผ่านรายการของช่อง The Overlap ว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยโดน เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ไม่ให้ปาร์ตี้ในเทศกาลคริสต์มาสของสโมสรในช่วงเวลานั้น และตอนนี้การเล่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเล่าตลกไปแล้ว…
หลายปีหลังแพลตฟอร์มอย่าง OnlyFans เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีผู้คนจากหลายอาชีพก็ผันตัวเข้าไปทำงานสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มนี้ อย่างเช่นตัวอย่างที่เราจะยกมาในวันนี้ นั่นก็คือ เหล่า อดีตนักกีฬาหญิง ซึ่งมันทำเงินให้พวกเขามากกว่าตอนยังเป็นนักกีฬาซะอีก โดย มีทั้งอดีตนักมวย ,นักแข่งรถ ,นักฟุตบอล และอื่นๆ อีกมากมาย…
เรียกได้ว่าฉาวต่อเนื่องกับปัญหาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทั้งในและนอกสนาม โดยในครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสะอาด หลังกระทรวงสาธารณสุขตรวจพบหนูจำนวนมากในซุ้มขายอาหารและห้องสวีทภายในสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด หลังจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโดยวิจารณ์อย่างหนักหลังมีภาพน้ำรั่วจากหลังคาสนามและในห้องแถลงข่าวของสื่อ และล่าสุดจากการตรวจสอบสุขอนามัยของกระทรวงสาธารณสุขที่อังกฤษพบว่าเจอหนูและขยะจำนวนมากทั้งในห้องสวีทระดับท็อปของสโมสรและซุ้มที่ขายอาหารให้แฟนๆในแมตซ์เดย์ นั้นทำให้กระทรวงสาธารณสุขต้องลดจำนวนคะแนนสุขอนามัยจากเดิม 4 ดาวเหลือเพียง 2 เต็ม 5 ดาว และสั่งการให้มีการปรับปรุงโดยเร็วที่สุด…
ปฎิเสธไม่ได้ว่าหลังจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เริ่มห่างหายไปจากความสำเร็จ เมื่อสามารถคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้แค่ 3 ใบในรอบกว่า 10 ปี ทั้งนี้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญก็คือสภาพแวดล้อมที่ต่างออกไปจากยุคของเฟอร์กี้ ในระดับที่ครั้งหนึ่ง อเล็กซิส…