หลังแกร่งแล้วยังต้องเอา! เปิดเหตุผลปืนใหญ่ต้องคว้า "คาลาฟิออรี่" ให้ได้

Pipat Sathirawut

July 09, 2024 · 2 min read

หลังแกร่งแล้วยังต้องเอา! เปิดเหตุผลปืนใหญ่ต้องคว้า
Football | July 09, 2024

อาร์เซน่อลคือเจ้าของสถิติทีมที่เกมรับดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยเสียประตูน้อยที่สุด (29 ประตู) และเก็บคลีนชีตมากที่สุด (18 นัด) แต่ตำแหน่งแรกที่ทีมปืนใหญ่กำลังจะเร่งเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อยกระดับขุมกำลังให้ดีพอจะโค่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงจากบัลลังก์ให้ได้ กลับเป็นตำแหน่งที่เป็นจุดแข็งของพวกเขาอยู่แล้วอย่างเซนเตอร์แบ็ก และนักเตะที่เข้าใกล้จะย้ายซบถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ กองหลังดาวเด่นของทีมชาติอิตาลีชุดสู้ศึกยูโร 2024

จากการรายงานของผู้สื่อข่าวคนดังอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเผยว่าอาร์เซน่อลบรรลุข้อตกลงสัญญาส่วนตัวกับกองหลังรูปหล่อวัย 22 ปีได้แล้ว โดยพร้อมเซ็นสัญญายาวถึงปี 2029 ขณะที่ค่าตัวน่าจะอยู่ที่ราวๆ 42 ล้านปอนด์ โดย เอฟซี บาเซิ่ล ทีมดังในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นอดีตต้นสังกัดของนักเตะเมื่อซีซั่น 2022-23 จะได้รับส่วนแบ่งเงินค่าตัวมากถึง 40% จากเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ตอนที่ขายให้โบโลญญ่าเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2023  ด้วยค่าตัวเพียง 4 ล้านยูโรเท่านั้น

ทำไมทีมที่เกมรับดีมากๆ อยู่แล้วอย่างอาร์เซน่อล ถึงต้องยอมทุ่มเงินคว้าตัวเขาไป บทความนี้มีคำตอบ

เปลี่ยนตำแหน่ง เปลี่ยนชีวิต

ก่อนที่จะย้ายซบโบโลญญ่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ เล่นตำแหน่งแบ็กซ้ายเป็นหลัก เขาคือผลผลิตจากทีมเยาวชนของโรม่า แต่ว่าแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ของทีมหมาป่ากรุงโรมไม่สำเร็จ จึงต้องโดนขายขาดให้ เอฟซี บาเซิ่ล ทีมดังในสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนสิงหาคมปี 2022 ด้วยค่าตัวเพียง 2.6 ล้านยูโรเท่านั้น

ช่วงแรกๆ ที่ไปเล่นในแดนนาฬิกา คาลาฟิออรี่ยังยึดตำแหน่งแบ็กซ้ายเป็นหลัก จนกระทั่งกุนซืออย่าง อเล็กซานเดอร์ ฟราย โดนปลดออกจากตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 แล้วเป็น ไฮโค โฟเกิ้ล ที่เข้าไปคุมทีมขัดตาทัพแทน นั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตค้าแข้งของกองหลังชาวอิตาลี

โฟเกิ้ลเพิ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อดังอย่าง สกาย สปอร์ตส์ โดยเผยว่าตัวเขาเองคือคนแรกที่มองว่า ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ สมควรปรับตำแหน่งจากแบ็กซ้ายไปยืนเซนเตอร์แบ็กมากกว่า โดยเปิดเผยบทสนทนาในแชทที่คุยกับตัวนักเตะเมื่อเดือนมีนาคม 2023 ว่า “ริคกี้ นายต้องการจะเติมเต็มประสิทธิภาพในอาชีพให้สูงที่สุดหรือเปล่า?”

คาลาฟิออรี่ตอบกลับว่า “หมายความว่ายังไงครับโค้ช?” ก่อนที่โฟเกิ้ลจะบอกว่า “ฉันคิดว่านายกำลังเล่นผิดตำแหน่ง”

ไฮโค โฟเกิ้ล วิเคราะห์คุณสมบัติของคาลาฟิออรี่เอาไว้อย่างละเอียดว่า “ผมรู้สึกว่าเขาขาดความเร็วในตำแหน่งฟูลแบ็กที่จะไปถึงระดับสูงสุด แต่การเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็ก เขามีมากเกินพอ”

“เขาไม่ได้ใช้เวลาหลายวินาทีคิดเรื่องนี้เลย เขาบอกว่าลองดูด้วยกันก็ได้ แล้วผมก็จับเขาจากตำแหน่งฟูลแบ็กไปเล่นเซนเตอร์ แล้วเขาก็ทำได้ดี”

ผลงานช่วง 2-3 เดือนสุดท้ายกับ เอฟซี บาเซิ่ล ในบทบาทใหม่อย่างเซนเตอร์แบ็กเข้าตาทีมงานสรรหานักเตะของโบโลญญ่า นั่นทำให้เขาได้ย้ายกลับสู่ กัลโช่ เซเรีย อา อีกครั้ง โดยเซ็นสัญญากับโบโลญญ่าเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2023 ด้วยค่าตัวเพียง 4 ล้านยูโร ก่อนกลายเป็นคีย์แมนที่ช่วยให้ทีมทำอันดับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรก

 

ฟอร์มระดับท็อปคลาสใน เซเรีย อา

ภายใต้การคุมทีมของ ติอาโก้ ม็อตต้า เขาจับคาลาฟิออรี่ยืนเซนเตอร์แบ็กตัวหลัก ก่อนเป็นเจ้าของสถิติสุดยอดมากมายในศึก กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยถ้านับเฉพาะตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กที่ลงเล่นไม่น้อยกว่า 30 นัด เขาคือนักเตะที่มีสถิติดักตัดลูกจ่ายของฝ่ายตรงข้ามเฉลี่ยต่อเกมมากเป็นอันดับ 2 (1.7 ครั้ง) เป็นรองแค่ จอร์โจ้ สคัลวินี่ ของอตาลันต้า ที่ทำได้เฉลี่ยนัดละ 1.8 ครั้งเพียงคนเดียว

สิ่งที่เด่นเหนือกองหลังคนอื่นๆ ก็คือการเป็นนักเตะแนวรับที่ดันสูงขึ้นมาช่วยซัพพอร์ตการขึ้นเกมรุกให้ทีมได้ โดยคาลาฟิออรี่คือเซนเตอร์แบ็กที่แอสซิสต์มากที่สุดใน 5 ลีกดังยุโรปฤดูกาลที่ผ่านมา (5 ลูก) เท่ากับ มาร์กอส เซเนซี่ ของบอร์นมัธ แถมในเกมเปิดบ้านพบกับยูเวนตุสช่วงท้ายซีซั่น เจ้าตัวยังเหมาคนเดียว 2 ประตูพาทีมเสมอทีมม้าลาย 3-3 อีกด้วย

ความพิเศษของคาลาฟิออรี่ คือเขาคือกองหลังในรูปแบบที่เล่นกับบอลได้อย่างมั่นใจ เสมือนเป็นหนึ่งในตัวเซตเกมจากหลังบ้านให้กับทีม ไม่ใช่แค่ปราการหลังที่รอป้องกันเกมบุกของคู่แข่งเท่านั้น โดยในศึกยูโร 2024 นัดชี้ชะตารอบแบ่งกลุ่ม เขาคือคนพาบอลดันขึ้นสูงจากแดนตัวเอง ก่อนแอสซิสต์ให้ มัตเตีย ซัคคานญี่ ยิงตีเสมอโครเอเชีย 1-1 ได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

จังหวะพาบอลจากแดนตัวเองขึ้นไปแอสซิสต์ให้ มัตเตีย ซัคคานญี่ ยิงใส่โครเอเชีย ถือว่าหลายคนให้เครดิตคาลาฟิออรี่อย่างมาก

 

คุณสมบัติที่อาร์เตต้าต้องการ

สเปกกองหลังที่ มิเกล อาร์เตต้า ต้องการที่อาร์เซน่อล ก็คือช่วยทีมครองบอลได้ดี, สามารถจ่ายบอลทะลุไลน์คู่แข่งได้, เล่นเกมรับได้แข็งแกร่ง และมีทีเด็ดในการขึ้นไปลุ้นประตูจังหวะตั้งเตะ ซึ่ง ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ มีคุณสมบัติทั้งหมดนี้ครบทุกอย่าง

คาลาฟิออรี่คือกองหลังที่ถนัดเท้าซ้ายโดยธรรมชาติ และสามารถรับบทบาทได้ทั้งเซนเตอร์แบ็กหรือแบ็กซ้ายในระบบแบ็กโฟร์ หรือจะยืนเป็นหนึ่งใน 3 ปราการหลังตัวกลางในระบบ 3 เซนเตอร์แบ็กก็ได้ และด้วยความที่เล่นแบ็กซ้ายมานานก่อนจะเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นเซนเตอร์ เขาสามารถรับบทวิงแบ็กที่วิ่งขึ้นลงทางฝั่งซ้ายได้เช่นกัน

ในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา มิเกล อาร์เตต้า เลือกใช้งาน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ รับบทแบ็กซ้ายแบบ Inverted full-back เป็นหลัก โดยคอยหุบเข้ามาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางอีกคนในจังหวะที่ทีมได้ครองบอล ตลอดฤดูกาล 2022-23 และช่วงครึ่งซีซั่นแรกของฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนที่ช่วงครึ่งหลังของซีซั่น 2023-24 ตำแหน่งตัวจริงจะตกเป็นของ ยาคุบ คิวิออร์ กองหลังทีมชาติโปแลนด์ แล้วจึงเป็นโอกาสของ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ในช่วงพรีเมียร์ลีก 5 นัดสุดท้าย

ซินเชนโก้มีปัญหาเรื่องการหลุดสมาธิระหว่างเกมบ่อย จนกลายเป็นตัวสำรองของทีมในช่วงหลัง ขณะที่คิวิออร์ก็ยังไม่ใช่กองหลังที่เล่นกับบอลได้คล่องแคล่วตามที่อาร์เตต้าต้องการ ซึ่งคาดว่าถ้าหากทีมปืนใหญ่เซ็นสัญญากับ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ได้สำเร็จ น่าจะมีการปล่อย ซินเชนโก้ หรือ คิวิออร์ อย่างน้อยคนใดคนหนึ่งออกไป

ตำแหน่งแบ็กซ้าย คือตำแหน่งที่อาร์เซน่อลยังหาผู้เล่นที่ลงตัวจริงๆ ไม่ได้ และดูเหมือนว่า มิเกล อาร์เตต้า กำลังมองหาผู้เล่นในแบบเดียวกับ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล หรือ นาธาน อาเก้ ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งตำแหน่งหลักจริงๆ คือเซนเตอร์แบ็ก แต่ถนัดเท้าซ้ายและเล่นกับบอลได้ดีจนกลายเป็น Inverted Fullback ที่ช่วยให้ทีมครองบอลได้ดีขึ้น ซึ่งซินเชนโก้ยังเล่นเกมรับได้ไม่ดีพอ ขณะที่คิวิออร์ยังไปไม่ถึงระดับนั้น

คาดว่าการย้ายสู่ถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม น่าจะทำให้กองหลังรูปหล่อวัย 22 ปีได้เล่นตำแหน่งแบ็กซ้ายเป็นหลัก แต่ไม่ใช่ในบทบาทฟูลแบ็กจ๋าเหมือนที่เขาเคยแจ้งเกิดไม่สำเร็จ ทว่าอาจจะเป็นฟูลแบ็กตัวใน หรือไม่ก็เขาอาจจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งเซนเตอร์ที่ทำให้อาร์เซน่อลเล่นในรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างไปจากเดิมได้เลย