ทำไม ฮาลันด์ ไม่โดนลงโทษ ทั้งที่ปาบอลใส่หัว กาเบรียล แทบคลอน?

แม้ว่าเกมพรีเมียร์ลีกระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซนอล จะจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 แต่ก็มาพร้อมกับดราม่าและควันหลงมากมายให้พูดถึง

หนึ่งในนั้นคือจังหวะที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวยิง แมนฯ ซิตี้ ปาบอลใส่หัว กาเบรียล มากัลเญส แนวรับปืนใหญ่ หลังเจ้าบ้านตามตีเสมอได้ จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่มีน้ำใจนักกีฬา

อย่างไรก็ดี กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ กลับไม่โดนลงโทษแม้แต่ใบเหลือง แถมไม่ถูกคาดโทษหลังจบเกม

เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? ติดตามไปพร้อมกัน

อันที่จริง มันถือว่าเป็นจังหวะที่น่าเกลียดไม่น้อย ที่หลัง จอห์น สโตน แนวรับของ แมนฯ ซิตี้ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 90+8 เออร์ลิง ฮาลันด์ ก็หยิบบอลมาขว้างใส่หัว กาเบรียล มาร์กัลเญส จากด้านหลัง

แต่เหตุผลที่ทำให้ กองหน้าชาวนอร์เวย์ ไม่ถูกคาดโทษแม้แต่ใบเหลือง หรือใบแดง จากไมเคิล โอลิเวอร์ กรรมการในสนาม เนื่องจากผู้ตัดสินมองว่าไม่ใช่เหตุการณ์ที่รุนแรง

ซึ่งความเห็นดังกล่าวตรงกับ VAR ที่มองว่าการกระทำของ ฮาลันด์ ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นต้องโดนใบแดงจากเหตุการณ์นี้ แถมหากมองว่าควรได้รับใบเหลือง VAR ก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาแทรกแซงอยู่ดี

จากผลดังกล่าวทำให้สมาคมฟุตบอลอังกฤษ จึงไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวหรือมีลงโทษย้อนหลัง ฮาลันด์ ที่เจตนาปาบอลใส่หัวคู่แข่ง

ขณะที่ เดอร์ม็อต กัลลาเกอร์ อดีตผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก มองว่า โอลิเวอร์ อาจจะอยากให้สถานการ์ณบานปลาย เพราะตอนนั้นเกมก็ค่อนข้างเดือดอยู่แล้ว

“มันเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะขึ้นอีก เพราะว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากนั้น” กัลลาเกอร์ กล่าวในรายการ Ref Watch ของ Sky Sport

“สกอร์กลับมาเป็น 2-2 และอารมณ์กำลังเดือดเต็มที่”

“แน่นอนว่ามันเป็นเกมที่ยาก เขา (โอลิเวอร์) มีงานให้ทำเต็มมือตั้งแต่นาทีแรก และนั่นก็คือจุดสูงสุด”

ส่วน กาเบรียล ผู้โดนกระทำ ก็ไม่ได้ติดใจกับเรื่องนี้ และมองว่าเกมมันจบไปแล้ว ไม่ได้อยากจะต่อความยาวสาวความยืดอีก

“มันเป็นการต่อสู้ เป็นสงคราม ดังนั้นการยั่วยุจึงเป็นเรื่องปกติ ในฟุตบอล” กาเบรียล กล่าวหลังเกม

“ตอนนี้มันจบแล้ว และเราก็กำลังรอพวกเขามาที่บ้านของเรา”