สาวฮอตประจำเดือนนี้: โด ติ อันต์ เหวียต : สาวน้อยหัวแข็ง นักยิงธนูแห่งเวียดนาม
เธอถือคันธนูหนักกว่า 20 กิโลกรัม ประมาณ 100 ล้านคัน โด ติ อันต์ เหวียต เป็นหนึ่งในความหวังอันสดใสของเวียดนามในการแข่งขันโอลิมปิกปารีสครั้งนี้
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ Mansion Sports เพื่อเรียนรู้เรื่องราวของ โด ติ อันต์ เหวียต – ผู้ที่ได้รับฉายาว่า ‘สาวธนูสุดฮอต’ จากสังคมออนไลน์
สาวหัวแข็ง
โด ติ อันต์ เหวียต สาวฮ็อตประจำเดือนของ Mansion Sports มีบัญชีเฟซบุ๊คเฟซบุ๊ก อยู่ 2 บัญชี หนึ่งในนั้นเขียนอธิบายตัวตนของตัวเองไว้ว่า “หัวแข็ง”
“ฉันมีเฟซบุ๊กอยู่ 3 บัญชี ชื่อแรกที่ฉันสร้างคือ ‘หัวแข็ง’ แต่เฟซบุ๊กขอให้ฉันใช้ชื่อจริงแทน
“ฉันค่อนข้างแมนๆ – หรือเรียกว่าหัวแข็งก็ได้ และทุกคนก็เห็นด้วยว่าฉันหัวแข็ง
“ฉันมักจะโกรธง่าย และบางครั้งก็โมโห แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยเป็นแบบนั้น ตราบใดที่ไม่มีใครมาหาเรื่อง ฉันคิดว่าความหัวแข็งเป็นลักษณะนิสัยของฉัน”
ดูเหมือน อันต์ เหวียต จะค่อนข้างแอคทีฟบนโซเชียลมีเดีย
ฉันเคยเล่นโซเชียลมีเดีย และชอบไปหาเรื่องถกเถียงกับคนอื่นอยู่บ่อยๆ สมัยที่ยังไม่ดัง ตอนนี้ดังขึ้นมาแล้ว ฉันต้องระวังคำพูดบนเฟซบุ๊กมากขึ้น เพราะฉันเป็นนักกีฬาทีมชาติ
คุณมักจะทะเลาะเรื่องอะไร?
ฉันมักจะโกรธเวลาถูกวิจารณ์ในแง่ลบหรือถูกตัดสินแบบผิดๆ แต่ตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เพราะฉันเลือกที่จะไม่สนใจแทน แต่ฉันก็ยังโกรธอยู่ แค่ฉันไม่ใช่เด็กเกเรแล้ว
คุณมีแอคหลุมเพื่อไปเถียงกับใครในโซเชียลมีเดียหรือเปล่า?
มีค่ะ เพื่อรับมือกับเรื่องนี้ ฉันเลยไปใช้บัญชีอื่นนอกเหนือจากบัญชีหลัก เนื่องจากฉันพยายามจะไม่แสดงความคิดเห็นบนแพลตฟอร์มโซเชียล ฉันเลยเลือกไปใช้บัญชีปลอมแทน
อันห์ เหวียต เคยแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นับตั้งแต่นั้น คุณก็กลายเป็นปรากฏการณ์บนโซเชียลมีเดีย
ฉันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ถูกเรียกว่า “ฮอตเกิร์ล” เพราะฉันไม่คิดว่าตัวเองสวย แต่ฉันรู้ว่าคำว่า ‘ฮอตเกิร์ล’ อาจมีความหมายอย่างอื่นอยู่ด้วย เช่น เป็นนักกีฬาหญิงมืออาชีพที่มีผลงานโดดเด่น นั่นถือเป็นคำชมสำหรับฉัน
จู่ๆ ก็มีจำนวนผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วยังมีคำขอเป็นเพื่อนอีกจำนวนมากบนโซเชียลมีเดีย รู้สึกยังไงบ้าง?
ตอนแรกประหลาดใจ แต่ดีใจที่ได้รับความรักจากแฟนๆ ที่คอยให้กำลังใจ ดีใจที่รู้ว่ากีฬายิงธนูเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น
แต่เยอะเกินไปก็ยุ่งเหมือนกัน
แน่นอน มีพวกคลั่งเกินไปด้วย พวกเขาจะไปหาเพื่อนหรือครอบครัวของฉัน ถ้าส่งข้อความมาหาฉันไม่ได้ ฉันพยายามตอบกลับแบบสุภาพ แต่พวกเขาก็ไม่หยุดกวนฉันทั้งวัน
ฉันก็มีชีวิตเหมือนคนอื่นๆ บางครั้งอยากพักผ่อน แต่ก็มีโทรศัพท์จากคนแปลกหน้า
พวกเขาไม่ใช่แค่ชม แต่ยังดูถูกด้วย ฉันโกรธมาก แต่เลือกที่จะไม่สนใจ
ถ้าไม่เล่นโทรศัพท์ คุณจะทำอะไร?
ฉันจะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ร้านกาแฟ เดท และเยี่ยมครอบครัว
ฉันเคยสะสมรองเท้าผ้าใบและรองเท้ากีฬา น้ำหอม รวมถึงเสื้อผ้า ตอนนี้ ฉันเริ่มหันไปสะสมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวด้วย
ฉันเป็นพวกใช้เงินแบบไม่ค่อยคิดเยอะ บางครั้งก็เกินตัว แน่นอนว่าจะมีเดือนที่ฉันเลือกที่จะไม่ใช้เงินเลย แต่ในช่วงมีโปรโมชั่นอะไร ฉันมักจะพบว่ายอดเงินของฉันติดลบ ซึ่งทำให้ฉันตกใจมาก
งั้นคุณก็ชอบเสื้อผ้าแบรนด์เนมด้วยสิ
ฉันไม่ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม รองเท้าของฉันอาจราคาแพงถึง 2 ล้านดอง (ประมาณ 2,845.85 บาท) แต่ไม่เกินนั้น เงินเดือนนักกีฬาถือว่าปานกลาง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมมันเกินตัวไปสำหรับฉัน
ถ้าไม่ใช่นักยิงธนู อันห์ เหวียต จะเลือกทำอาชีพอะไร?
ฉันคงจะเรียนต่อมัธยมปลายก่อน แล้วค่อยมหาวิทยาลัย ถ้าไม่ใช่ยิงธนู ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร เรียนหนังสือเป็นตัวเลือกแรกของฉัน
ฉันอาจจะเรียนเก่งกว่านี้ แต่เกรดของฉันก็พอใช้ได้ และฉันขยันมาก ฉันรักการเรียนหนังสือ
ฉันเติบโตมากับความฝันมากมาย แต่ตอนนี้ฉันมุ่งเน้นไปที่ยิงธนู อย่างอื่นคงต้องรอไปก่อน
มีข่าวลือว่า อันห์ เหวียต ฝันอยากจะเป็นนักร้อง
ฉันชอบร้องเพลงตอนเด็ก แต่แล้วฉันก็รู้ว่าเสียงของฉันแย่มาก ฉันไม่เหมาะกับอาชีพนักร้อง
ตอนอยู่โรงเรียนตอนเด็ก ฉันเคยเข้าร่วมการแสดงของโรงเรียน ฉันได้ร่วมแสดงละคร ร้องเพลง และเต้นในตอนนั้น
ถ้าคุณใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้องและเรียนเก่ง ทำไมถึงเลือกอาชีพนักกีฬา?
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความขัดแย้งในครอบครัว เราไม่รวย แต่ตอนเป็นวัยรุ่น เรามักจะห้าว ฉันอยากเรียนต่อ แต่ครอบครัวไม่มีเงินจ่าย ซึ่งทำให้ฉันโกรธมาก
ฉันเริ่มทำตัวเหมือนเด็กนิสัยเสีย เมื่อมีคนติดต่อเข้ามา ฉันกำลังจะสอบเข้ามัธยมปลาย ครูพลศึกษาถามฉันว่าอยากเป็นนักกีฬาไหม เพราะฉันได้รับเชิญไปฝึกกีฬา แต่คำตอบแรกของฉันคือไม่ แล้วฉันก็ไม่คิดอะไรมากตอนที่มีคนมาชวนรอบที่สอง
อันห์ เหวียต เริ่มจากบาสเกตบอล ไม่ใช่ธนู
ตอนแรกฉันไม่รู้จักใครเลย รู้สึกแปลกๆ ที่ต้องอยู่ห่างจากครอบครัวเป็นครั้งแรก เราเริ่มจากการออกกำลังกายเบาๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความหนักขึ้นเรื่อยๆ ฉันอยากกลับบ้านไปทำอะไรสนุกๆ มากกว่ามาเหนื่อยแบบนี้ บางครั้งก็รู้สึกเหมือนจะเป็นลม หายใจไม่ออก
คุณเปลี่ยนมาเล่นธนูได้อย่างไร?
ฉันเล่นบาสเกตบอลมาเจ็ดเดือน ก่อนจะมีคนบอกว่าให้ลองเปลี่ยนไปเล่นกีฬาอื่น ตอนแรกๆ ฉันร้องไห้หนักมาก ฉันอยากกลับบ้าน อยากเปลี่ยนไปเล่นกีฬาอื่น
โค้ชแนะนำให้ลองยิงธนู เพราะเหมาะกับฉันมากกว่า ฉันคิดทบทวนเกี่ยวกับสัญญาที่เคยให้ไว้ก่อนตัดสินใจเล่นกีฬา จากนั้นฉันก็มุ่งมาทางยิงธนูเลย
คิดว่าอะไรที่แตกต่างกัน ระหว่าง บาสเกตบอล กับยิงธนู?
บาสเกตบอลมันเกี่ยวกับการวิ่งและกระโดด ส่วนยิงธนู คุณจะรู้สึกอึดอัดมากที่ต้องยืนอยู่นิ่งๆ
ส่วนที่ยากที่สุดของธนูคือการเคลื่อนไหว เราต้องแม่นยำมากๆ การขยับปลายนิ้วเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ลูกธนูของคุณอาจหลุดเป้าไป ถ้าคุณทำไม่ถูกต้อง
เมื่อเทียบกับบาสเกตบอล ธนูมันเป็นเรื่องของความเหนื่อยจากจิตใจมากกว่าร่างกาย แต่ร่างกายก็สำคัญกับธนูเหมือนกัน และมันก็เหนื่อยด้วย ฉันร้องไห้หนักกว่าตอนฝึกบาสเกตบอลอีก บาสเกตบอลเหนื่อยทางกาย แต่ธนูมันเหนื่อยทั้งกายและใจ
ฉันเคยคิดว่ากีฬานี้จะมันจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ก็เหนื่อยมากจนร้องไห้ เมื่อการฝึกซ้อมลดลง ฉันรู้สึกโล่งใจมาก
รู้สึกยังไงตอนที่ถูกเรียกตัวไปเล่นโอลิมปิก
ตอนที่ฉันได้ยินข่าวเรื่องไปปารีส ฉันยังไม่ได้รับประกาศอย่างเป็นทางการ โค้ชไม่คิดว่าฉันจะได้ไปโอลิมปิก ตอนที่มีเพื่อนโทรมาบอกว่าฉันได้ไป โค้ชกับฉันยังคิดว่ามันเป็นแค่ข่าวลืออยู่เลย
แต่ฉันก็ตื่นเต้น ฉันอยากไปโอลิมปิก หัวใจของฉันเต้นแรงมากในตอนนั้น เราพยายามหาว่ามันเป็นข่าวจริงหรือไม่ ตอนนั้นคือเวลาประมาณ 11:15 น. ซึ่งเป็นเวลาพักกลางวันของเรา
พอ 11:30 น. โค้ชเข้ามาบอกว่าข่าวลือเป็นเรื่องจริง ฉันดีใจมาก เพราะมันคือตั๋วไปโอลิมปิกที่ประเมินค่าไม่ได้
คุณต้องโทรหาพ่อแม่เพื่อบอกข่าว
ฉันเพิ่งกลับมาจากการแข่งขัน รู้สึกเหนื่อยมาก และฉันก็แค่อยากจะนอนพักยาวๆ แต่พอรู้ข่าวโอลิมปิก ฉันก็ตื่นทันที ฉันโทรหาครอบครัว แล้วก็ร้องตะโกนออกมาว่า “แม่ พ่อ ยาย ตา ฉันทำได้แล้ว”
ตอนนี้คุณได้ไปโอลิมปิกแล้ว คุณมีอะไรในใจบ้าง เมื่อรู้ว่าโอกาสชนะ มันแทบเป็นไปไม่ได้?
ฉันก็ฝึกซ้อมตามปกติไป เรามีโอกาสได้เหรียญโอลิมปิกไม่มากนัก เพราะเต็มไปด้วยนักกีฬายอดฝีมือมากมาย ในกีฬายิงธนู มีคู่แข่งที่เก่งกว่าฉันหลายคน การได้มาเรียนรู้ถือเป็นสิ่งที่ดีมากๆ
กีฬายิงธนูในเวียดนามเพิ่งอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา มันยากที่จะลุ้นเหรียญโอลิมปิกสู้กับชาติอื่นๆ แต่ในเกม คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณอาจจะได้เหรียญหรือไม่ได้เหรียญรางวัลก้ได้ แต่ถึงจะแพ้ มันก็เป็นบทเรียนที่มีค่า
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาชีพของคุณยังไม่ตรงตามเป้าหมาย คุณกังวลก่อนโอลิมปิกไหม?
ฉันเคยกังวลมากจนไม่กล้าลงแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ท้องถิ่น ช็อตที่ดีที่สุดของฉันคือเหรียญทองแดง ซึ่งห่างไกลจากสถิติปกติของฉันมาก นักธนูที่กลัวการยิงธนูจะไปทำอะไรได้ ฉันเสียใจมากในตอนนั้น
เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันทำคะแนนไม่ดี ฉันจะรู้สึกเหมือนเสียความมั่นใจ ฉันกลัวเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ความกลัวเพิ่มขึ้นทุกวัน จนฉันดึงคันธนูหรือยิงธนูไม่ได้
ความคาดหวังของคนอื่นๆ ไม่ได้ส่งผลอะไรกับฉัน แต่เป็นความคาดหวังของตัวเองที่ทำให้ฉันเครียด ฉันหวังกับตัวเองมากเกินไป ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้ฉันกังวล
นั่นคือเหตุผลที่สถิติของฉันแย่ลง ไม่ใช่ว่าฉันทำไม่ได้ แต่ความกดดันทำให้ฉันยิงได้แย่ลง ฉันกำลังแก้เรื่องนี้อยู่
ทุกครั้งที่รู้สึกเครียด ฉันจะสูญเสียความมั่นใจ ซึ่งฉันยังไม่กลับมาเป็นปกติ ฉันพยายามเอาชนะความกลัวในใจฉัน ฉันต้องควบคุมการเคลื่อนไหวของฉันและสร้างความมั่นใจเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.