60 ยังไหว? สถิติฟุตบอลที่ไม่มีวันถูกทำลายจากอำนาจรองประธานาธิบดี
นอกจากเข้าชิงชนะเลิศยูโรปาลีก หลังเสมอกับ โรมา 2-2 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ยังสามารถจารึกสถิติใหม่ให้ตัวเองได้สำเร็จ ด้วยการไม่แพ้ใครในฟุตบอลยุโรปยาวนานถึง 49 นัด ทำลายสถิติเดิมของ เบนฟิกา ที่อยู่มาอย่างยาวนานถึง 59 ปี
อย่างไรก็ดี ในอีกด้านของซีกโลก ก็มีอีกสถิติหนึ่งที่ยากจะถูกทำลาย เพราะการเกิดขึ้นของมันมาจากการใช้อำนาจล้วน ๆ
ย้อนกลับไปในปี 2021 ในการแข่งขันฟุตบอลคอนคาเคฟลีก หรือศึกชิงแชมป์สโมสรแห่งอเมริกากลาง ที่มีศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในเกมระหว่าง อินเตอร์ โมเอนโกทาโปเอ จากซูรินาเม และ โอลิมเปีย จากฮอนดูรัส ก็มีเรื่องน่าทึ่งเกิดขึ้น
เมื่อ 11 คนแรกของ อินเตอร์ โมเอนโกทาโปเอ มีชื่อ รอนนี บรุนสไวค์ รองประธานาธิบดีของ ซูรินาเม อยู่ในสนาม แถมยังสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม
ในเกมดังกล่าวเขาได้ลงเล่นถึง 54 นาที และมีสถิติจ่ายลอลสำเร็จ 1 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้คาบ้านถึง 0-6
อย่างไรก็ดี แม้ว่าทีมจะต้องปราชัย แต่ บรุนสไวค์ ก็ได้จารึกสถิติใหม่ให้ตัวเอง ด้วยการเป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดในโลก ที่ได้ประเดิมสนามในการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีป ด้วยวัย 60 ปี กับ 198 วัน พ่วงด้วยสถิตินักเตะอายุมากที่สุดในรายการนี้
ทว่า เบื้องหลังสถิติก็มีเสียงวิจารณ์อย่างรุนแรง เพราะตำแหน่งที่แท้จริงของ บรุนสไวค์ คือเจ้าของสโมสร โมเอนโกทาโปเอ แถมสนามในวันนั้นยังชื่อ “รอนนี บรุนสไวค์ สตาดิอง” ที่ตั้งตามชื่อของเขา มันจึงไม่ต่างจากการส่งตัวเองลงสนาม
นอกจากนี้ เขายังต้องสงสัยว่ามีการพยายามล็อคผลการแข่งขัน เมื่อหลังเกมมีคลิปปรากฎว่า บรุนสไวค์ ได้เข้าไปยังห้องแต่งตัวของโอลิมเปีย แล้วแจกเงินให้นักเตะคู่แข่ง
ทำให้หลังเกม สมาคมฟุตบอลอเมริกากลาง ออกมาสอบสวนเรื่องนี้ ก่อนจะสั่งปรับให้ทั้งสองทีมตกรอบ ขณะที่ บรุนสไวค์ ยังถูกแบนจากการแข่งขันระดับทวีปถึง 3 ปี
“หลังจากประเมินพฤติกรรมจากหลักฐานในวิดีโอ และพิจารณาคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร คณะกรรมการได้พิจารณาแล้วว่านี่เป็นการละเมิดกฎความซื่อสัตย์อย่างร้ายแรงหลังเกม” แถลงการณ์ของ คอนคาเคฟ
สำหรับ บรุนสไวค์ เขาคือบุคคลที่เต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวมากมาย ทั้งเคยเป็นโจรปล้นธนาคาร ที่ชอบเอาเงินมาแจกคนจน จนได้รับฉายาว่า “โรบินฮู้ดแห่งซูรินาเม” ไปจนถึงการเป็นหัวหน้ากลุ่มกองโจรที่ชื่อว่า “จังเกิล คอมมานโด” ที่คอยต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการในช่วงทศวรรษที่ 1980s
นอกจากนี้ เขายังเคยถูกตัดสินจำคุกในข้อหาค้าโคเคน ทั้งที่ เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส แต่ไม่เคยถูกจำคุก เนื่องจากหลบหนี ที่ทำให้เขามีหมายจับจากตำรวจสากลอยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ดี ในบ้านเกิดเขาได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำประชาธิปไตยมาสู่ ซูรินาเม และถือเป็นผู้มั่งคั่งคนหนึ่งของประเทศ แม้ว่าจะถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยมาจากการปล้นธนาคาร และค้ายาเสพติดก็ตาม
ส่วนในวงการฟุตบอล เขามีอิทธิพลอย่างมหาศาล เมื่อเคยใช้ปืนข่มขู่เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ส.บอลซูรินาเม จนทำให้ถูกแบนเป็นระยะเวลา 5 ปี เมื่อปี 2005 แต่ก็ถูกยกเลิกโทษแบนในเวลาต่อมา แถมในปี 2012 ก็เคยไปข่มขู่คู่แข่งและกรรมการ จนทำให้ถูกแบน 1 ปี
อันที่จริง การลงเล่นใน คอนคาเคฟลีก ครั้งนี้ ไม่ใช่นัดแรกของ บรุนสไวค์ ในสีเสื้อของ โมเอนโกทาโปเอ เพราะจากข้อมูลของ transfermarkt.com ระบุว่าเขาเคยลงเล่นให้ทีมของตัวเองมาก่อน ในปี 2009 ในการแข่งขันระดับภูมิภาคอย่าง คอนคาเคฟ แคริเบียน คัพ ถึง 2 นัด และอีกครั้งในปี 2011 ด้วยวัย 48 ปี และ 50 ปี ตามลำดับ
ทำให้เชื่อกันว่า การส่งตัวเองลงสนามในครั้งนี้ น่าจะมีนัยยะทางการเมืองแอบแฝงอะไรบางอย่าง เพราะเจ้าตัวมักจะเลือกเกมระดับนานาชาติ ที่มีผู้ชมทั่วประเทศ
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.