เพราะอะไร? ฟุตบอลอังกฤษ ถึงทำประตูด้วยลูกโหม่งน้อยลง

Kim Junumporn

February 17, 2024 · 1 min read

เพราะอะไร? ฟุตบอลอังกฤษ ถึงทำประตูด้วยลูกโหม่งน้อยลง
ฟุตบอล | February 17, 2024
เพราะเหตุใดสถิติฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ถึงมีเปอร์เซ็นต์ทำประตูจากลูกโหม่งน้อยลงกว่าเดิม
ย้อนกลับไปฟุตบอลอังกฤษในอดีตภาพคุ้นตาของแฟนบอลคือการเปิดให้กองหน้าคอยโหม่งทำประตู
 
ศิลปะการทำประตูของฟุตบอลสมัยก่อนไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนมากนัก บางทีมเลือกใช้ปีกที่มีความเร็ว เปิดบอลแม่น คอยโจมตีริมเส้น พร้อมมองหากองหน้าตัวใหญ่ๆ เล่นลูกกลางอากาศดีๆ มาใช้โจมตีคู่ต่อสู้
 
ทว่าฟุตบอลในสไตล์ดังกล่าว โดยเฉพาะในศึกพรีเมียร์ลีกเริ่มกำลังหายไปเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งนี้บ่งบอกด้วยหลักฐานที่เป็นสถิติตัวเลข
 
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 1994-95 ตัวเลขระบุว่าศึกพรีเมียร์ลีกมีการทำประตูจากลูกโขกมากถึง 239 ตุง คิดเป็น 20% ของประตูทั้งหมด หรือซีซั่น 1995-96 ก็คิดเป็น 23% ทว่าในช่วงหลังอัตราการโขกน้อยลงไม่เฉียดเข้าใกล้ถึงตัวเลขดังกล่าวอีกเลย
 
ยกตัวอย่างในช่วง 3 ซีซั่นหลังสุดของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-21 มีลูกโหม่งเป็นประตูทั้งหมด 170 ประตู คิดเป็น 17% ฤดูกาล 2021-22 มีลูกโขกเพียง 164 ตุง เปรียบเป็น 15% หรือซีซั่นที่ผ่านมาแฟนบอลได้ยลโฉมลูกโขกทำประตูอยู่ที่ 166 ประตู คิดเป็น 15% เท่านั้น
 
ส่วนในฤดูกาลปัจจุบันผ่านมา 24 เกม มีการทำไปแล้ว 767 ประตู แต่เกิดขึ้นจากลูกโหม่งเพียง 122 ประตู เท่านั้น
 
ซึ่งจากการวิเคราะห์ของ dailymail ระบุว่าฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในทุกวันนี้เล่นในพื้นที่ใกล้กันมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาของนักฟุตบอล ที่บางคนสูงใหญ่ แต่ไม่ใช่ว่าจะโดดเด่นแค่เรื่องของลูกกลางอากาศเพียงเท่านั้น
 
ไบรอัน ดีน อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษได้ยกเคสของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ มาให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า “เมื่อ ฮาแลนก์ เข้ามา คู่แข่งไม่รู้จะรับมือกับเขาอย่างไรในกรอบเขตโทษระยะ 6 หลา ผู้คนเริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากขึ้น และไม่รู้ว่าวิธีการแบบเดิมๆ จะถูกหยิบมาใช้อีกหรือไม่”
 
เมื่อกล่าวถึง ฮาแลนด์ นักเตะที่มีความสูง 194 เซนติเมรตร แต่ทำประตูจากลูกโหม่งเพียง 10 จาก 52 ประตูในพรีเมียร์ลีก เพราะด้วยแท็คติกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เน้น Passing ใช้บอลเคลื่อนหาช่องในการทำประตู
 
อีกประเด็นคือเรื่องของแท็คติกที่ ณ ปัจจุบันแนวทางการใช้พลังงานต่อเกมของนักเตะ ใช้วิธีการครองบอล และความคล่องตัวในการทำลายเกมรับคู่แข่ง รวมไปถึงผู้เล่นในตำแหน่งปีกทุกวันนี้ใช้วิธีการตัดเข้าใน คนถนัดซ้ายโยกมาเล่นขวา เพื่อสร้างโอกาสในการทำประตูยิ่งขึ้น
 
ด้วยวิวัฒนการของฟุตบอลที่เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ แท็คติกใหม่ๆ ทำให้การแข่งขันมันสนุกมากกว่าเดิม ไม่ใช่ฟุตบอลในสไตล์เดียวเคาะออกข้าง และเปิดเข้าใน
 
แต่แปรเปลี่ยนเป็นการครองบอล หรือการจ่ายบอลเพื่อเปิดพื้นที่โจมตีคู่แข่ง
 
วันเวลาที่เปลี่ยนไป สไตล์ฟุตบอลที่แปรเปลี่ยนตามไปด้วย