โรเจริโอ เซนี จารึกชื่อในฐานะผู้รักษาประตูที่ยิงประตูได้มากที่สุดในโลก หลังซัดไปถึง 131 ประตู ตลอด 25 ปีในชีวิตนักเตะอาชีพ แถมยังเป็นลูกฟรีคิกถึง 61 ลูก ที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ “โกลจอมเตะฟรีคิก” เขาทำได้อย่างไร?
อันที่จริง ชีวิตของ เซนี ไม่ได้เป็นตัวเตะฟรีคิกตั้งแต่เกิด เพราะแม้ในวัยเด็ก เขาจะเล่นได้ 2 ตำแหน่ง นั่นคือ กองหลัง และผู้รักษาประตู แต่นับตั้งแต่ประเดิมเส้นทางสายอาชีพกับ ซินอป ตอนอายุ 16 ปี ในปี 1990 เขาก็เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูมาตลอด
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่ย้ายไปเล่นให้กับ เซา เปาโล ทีมใหญ่แห่งลีกบราซิล สถานะเขาก็เป็นเพียงแค่ตัวสำรอง ทั้งในระดับเยาวชน และทีมชุดใหญ่ และทำได้เพียงมองดูรุ่นพี่ คว้าแชมป์รายการแล้วรายการเล่า
อย่างไรก็ดี การเป็นตัวสำรอง ในทางกลับกัน ก็กลายเป็นข้อดีในชีวิตของ เซนี เมื่อทำให้เขาพบว่าตัวเองสามารถเล่นบอลด้วยเท้าได้ดี ไม่แพ้การป้องกันประตู
“เขาบอกว่า เขาค้นพบเคล็ดลับในการเล่นลูกตั้งเตะ ตอนเขายังวัยรุ่น ขณะเป็นผู้รักษาประตูสำรองที่ เซา เปาโล เมื่อเขาและ เซ็ตติ ผู้รักษาประตูตัวจริง แข่งกันยิงชนคานซ้ำไปซ้ำมาจนชำนาญจากนอกกรอบเขตโทษ” กาเบรียล มาก็อตติ นักข่าวกีฬาของ ESPN กล่าว
ทว่า มันคงไม่มีประโยชน์ หากไม่ได้รับโอกาส และ เซนี ก็อดทนรอสิ่งนี้อยู่นานหลายปี จนกระทั่ง มูริซี โรมัลโญ ที่คุ้นเคยกับเขามาตั้งแต่เยาวชน ได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซืออีกครั้งในช่วงปลายปี 1996
โรมัลโญ สังเกตุว่า เซนี สามารถยิงบอลได้ค่อนข้างดีตอนซ้อม จึงตัดสินใจว่าจะปั้นเขาให้เป็นตัวยิงฟรีคิกของทีมอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยากและเสี่ยงมากในยุคนั้น ที่จะให้ผู้รักษาประตู ทิ้งปากประตูของตัวเอง ขึ้นมาเล่นลูกตั้งเตะ
โรมัลโญ เคี่ยวกรำ เซนี อย่างหนัก โดยให้ซ้อมพิเศษ หลังการซ้อมปกติทุกวัน และหลังจากฝึกฝนเป็นเวลาถึง 3 เดือน และยิงฟรีคิกในสนามซ้อมไปกว่า 15,000 ลูก เซนี ก็ได้รับโอกาสครั้งแรก ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1997
มันเป็นเกม คัมปิโอนาโต เปาลิสตา หรือศึกชิงแชมป์ลีกของรัฐ ที่พบกับ อูนิเอา เมื่อขณะที่เกมยังเสมอ 0-0 เซา เปาโล มาได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ และเป็น เซนี ที่เป็นคนขึ้นมายิง ท่ามกลางความประหลาดใจของคนทั้งสนาม
เขาสังเกตุว่า ผู้รักษาประตูของ อูนิเอา ยืนอยู่หลังกำแพง และห่างจากอีกเสาอยู่พอสมควร จึงตัดสินใจยิงบอลระดับหัวเข่า ก่อนที่มันจะทะลุกำแพง เสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงามให้ทีมออกนำ 1-0
นี่คือการยิงฟรีคิกในเกมแรกอย่างเป็นทางการของ เซนี และเขาก็ตอบแทนความไว้ใจได้ทันที ด้วยการซัดประตูออกนำให้ทีม ก่อนที่สุดท้าย เซา เปาโล จะเอาชนะไปได้ 2-0
“เซนี เก่งในเรื่องนั้น และเมื่อมีกำแพง เขาก็พบว่าเขาสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอเช่นกัน จากนั้นมันก็แค่ไม่กี่ก้าวที่จะปรับลูกยิงของเขาให้ต่ำลงไม่กี่นิ้ว เพื่อให้เข้ากรอบ” มาก็อตติ อธิบาย
หลังจากนั้น มันก็เป็นเครื่องหมายการค้าของเขา เพราะเมื่อใดที่ เซา เปาโล ได้เตะลูกนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นฟรีคิกหรือลูกโทษ ก็จะมีเซนี ยืนอยู่ตรงนั้นเสมอ
ขณะเดียวกันเซนี ยังเป็นผู้รักษาประตูคนแรกและคนเดียว ที่เบิกสกอร์ให้ตัวเองได้ 18 ฤดูกาลติดต่อกัน หลังยิงประตูได้ทุกซีซั่น นับตั้งแต่นับหนึ่งในปี 1997
นอกจากนี้ในปี 2005 เซนี ยังโชว์ฟอร์มโหด ด้วยการยิงไปถึง 21 ประตูในทุกรายการ มากกว่ากองหน้าบางทีมเสียอีก ก่อนที่ปีต่อมา เขาจะยังคงโดดเด่น ด้วยการซัดไปถึง 16 ประตู จากการลงเล่น 57 เกม
อย่างไรก็ดี น่าเสียดายที่ตลอดชีวิตการค้าแข้งของ เซนี เขากลับไม่เคยทำแฮตทริคได้เลย โดยที่ใกล้เคียงที่สุดคือในเกมกับ ทิเกรส จากเม็กซิโก ในศึก โคปา ลิเบร์ตาโดเรส หรือศึกชิงแชมป์สโมสรอเมริกาใต้ ที่เทียบเท่ากับ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ของยุโรป
ในเกมดังกล่าว เซนี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการซัดฟรีคิกเข้าไปถึง 2 ลูก ก่อนที่ท้ายเกมเขาจะมีโอกาสซัดประตูที่ 3 หลังทีมมาได้จุดโทษ แต่เจ้าตัวก็ซัดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ทั้งนี้ แม้จะยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอ แต่เซนี ก็ยังถ่อมตัวว่าสิ่งที่เขาทำไม่ได้พิเศษอะไร เขาแค่เรียนรู้และฝึกฝนจนชำนาญ ส่วนที่เหลือคือ “ใจ” ที่มีความกล้าพอที่จะขึ้นมายิงฟรีคิกในจังหวะสำคัญของทีม
“มันไม่ใช่เรื่องฟุตบอลด้วยซ้ำ มันคือวิธียิงบอล มันคือสองสิ่ง คือฟิสิกส์ เพราะคุณต้องรู้ว่าจะเตะบอลตรงไหนให้เหมาะสม และจิตวิทยา เพราะว่าคุณต้องรู้ว่าจะยิงไปจุดไหน” เซนี กล่าวกับ ESPN เมื่อปี 2005
“และคุณต้องใจเย็น แต่คนมากมายก็ทำได้ แค่ทำเหมือนผม ที่มีความกล้า (ที่จะลอง)”
และสิ่งเหล่านี้ คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เซนี กลายเป็นผู้รักษาประตูที่ยิงประตู รวมถึงยิงฟรีคิกได้มากที่สุดในโลก หลังซัดไปถึง 61 ประตู จากทั้งหมด 131 ลูก จากการลงเล่นทั้งสิ้นกว่า 1,200 เกมให้ เซา เปาโล
ที่มันจะเป็นสถิติที่จะอยู่ยืนยง และอาจไม่มีใครสามารถทำลายได้อีกเลย ก็เป็นได้
ในวงการฟุตบอลผลแพ้ ชนะ เป็นเรื่องปกติธรรมชาติสุดๆไม่มีใครหรือทีมไหนที่ไม่เคยแพ้ แต่มันก็มีนักเตะอยู่ไม่น้อยที่เมื่อใดก็ตามพวกเขาสามารถทำประตูได้ทีมจะไม่แพ้ ซึ่งต้องขยายความเพิ่มว่านักเตะที่เลือกมาในวันนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยแพ้ แต่จะเป็นประตูได้และไม่แพ้นานที่สุด 1.กาเบรียล เชซุส กาเบรียล เชซุส เป็นนักเตะที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมาเยอะมากถึง 226 นัด โดยแบ่งเป็น…
เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์สำหรับฟุตบอลอังกฤษ ที่จะต้องมีการแข่งขันในวันแกะกล่องของขวัญ หรือที่รู้จักกันใน “วันบ็อกซิ่งเดย์” เพื่อให้แฟนบอลได้ฉลองวันส่งท้ายปีไปพร้อมกับเชียร์ทีมรัก ทั้งนี้ ธรรมเนียมนี้ของชาวแดนผู้ดี แทบจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ลีกของยุโรป ที่มีโปรแกรมในวันที่ลีกอื่นพักเบรกหนีหนาว เพราะเหตุใด พวกเขาจึงต้องจัดโปรแกรมในวันนี้ ? และบางทีมันอาจจะเกี่ยวเนื่องในเชิงประวัติศาสตร์ ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน บ็อกซิ่งเดย์คืออะไร?…
เรียกได้ว่าเป็นไวรัลอีกแล้ว เมื่อ ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนานนักเตะของสโต๊ค ซิตี้ และลิเวอร์พูลหรือแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มักถูกแฟนบอลแซวเรื่องคำวิจารณ์และทายผลลัพธ์ต่างๆ อยู่เสมอว่าความแม่นยำไม่ค่อยมีนั้น ได้ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป็ป…
แม้ว่าในเกมล่าสุดที่อาร์เซนอลสามารถบุกไปเอาชนะคริสตัล พาเชซ มาได้ด้วยสกอร์สุดสวย 5-1 แต่ถ้ามองในรายละเอียดเกมทั้งหมดก็จะเห็นว่าอาร์เซนอลยังมีความผิดพลาดอยู่บ้างเล็กน้อยโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก หนึ่งในจังหวะหวาดเสียวที่สุดคือในนาทีที่ 10 ที่อาร์เซนอลพยายามจะบิ้วอัพจากหลังแต่คริสตัล พาเลซก็สามารถเพลสซิ่งได้ดี ในขณะนั้นบอลอยู่กับ เดบิด ราย่า เขามองขึ้นหน้าและเลือกจ่ายบอลไปให้ โธมัส ปาเตย์…
ถ้าพูดถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงนี้ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย มีทั้งฝั่งที่เห็นใจ เข้าใจ และฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแรชฟอร์ด ในส่วนของฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับแรชฟอร์ดต่างบอกว่าต้องการให้แรชฟอร์ดย้ายออกจากทีมไปและไม่ว่าทีมไหนที่ได้ตัวไป นั้นจะเป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งนี่อาจจะเป็นความคิดเห็นที่สุดโต่งไปหน่อยและไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้นเช่นกันกับ เอียน ไรท์ อดีตตำนานกองหน้าของอาร์เซนอล ที่ออกแสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ผมย้ายไปอาร์เซนอลตอนอายุ…
วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (20 ธันวาคม 2562) มิเกล อาเตต้า ถูกแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ หลังปลด อูไนเอเมรี่ การทำงานตลอด 5 ปี ภายใต้…