บิลลี่ ไวท์เฮิร์สท์ บุรุษที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่ง โหดร้ายที่สุดในโลกฟุตบอล

แฟนบอลยุคปัจจุบันน้อยคนนักที่จะรู้จักอดีตนักเตะที่ชื่อ บิลลี่ ไวท์เฮิร์สท์ จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร เพราะนี่คือนักเตะในยุค 80 และค้าแข้งใน ดิวิชั่น 2-3

แต่ในยุคนั้น บิลลี่ ไวท์เฮิร์สท์ ได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลที่แข็งแกร่งที่สุด มีเลือดนักสู้เกินร้อย เรื่องใช้กำลังคืองานถนัด จนได้ชื่อว่าเป็นคนที่โหดร้ายที่สุด เขาชกมวยด้วยมือเปล่า และครั้งหนึ่งก็เคยลงสนามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผล

แมตต์ เลกก์ อดีตนักมวยชาวสหราชอาณาจักร ได้เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของ บิลลี่ ไวท์เฮิร์สท์ ว่า “เขาคือบุรุษที่แกร่งน่าเกรงขามและแข็งแกร่งสุดๆ ในโลกฟุตบอล และมีอำนาจอิทธิพลไม่ต่างจาก วินนี่ โจนส์”

“เขาโหดร้ายและแข็งแกร่งทั้งในและนอกสนาม ครั้งหนึ่งเขาเคยลงเล่นฟุตบอลโดยที่ใบหน้ามีแผลเย็บถึง 15 เข็มซึ่งเกิดจากการทะเลาะวิวาทในผับบาร์”

“บิลลี่ เคยถูกเสนอให้ชกมวยด้วยมือเปล่า 2 ครั้งในราคา 1,000 ปอนด์ เขาน็อคไฟต์แรกได้อย่างรวดเร็ว แต่ไฟท์ที่ 2 นั้นหนักอยู่ เพราะเขาได้รับบาดแผลมากมายที่ใบหน้า เขาบอกกับผู้จัดการทีมว่าเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเขาก็ยังคงลงเล่นไหวในเกมนัดต่อมาโดยที่ใบหน้าที่แผลเย็บอยู่เต็มไปหมด”

“ส่วนอีกไฟต์หนึ่งในผับบาร์สมัยอยู่ที่ อ็อกซ์ฟอร์ด บิลลี่ ดูไม่ต่างอะไรจากปีศาจ แฟรงเก้นสไตน์ บิลลี่ เล่าให้ผมฟังว่า ‘ผมเอานิ้วจิ้มตามัน และเอาหัวมันทุบเข้ากับกำแพง จากนั้นเพื่อนของอีกฝ่ายก็เอาไม้ฟาดเข้าไปที่จมูกของผม’ “

“บิลลี่ จำเป็นต้องเย็บแผลหลายเข็มเพื่อปิดบาดแผลขนาดใหญ่ที่อยู่บนใบหน้าของเขาจากการต่อสู้ จากนั้นไม่นาน เขาก็ไปชนกับผู้รักษาประตูในเกมการแข่งขันจนบาดแผลมันเปิดออก และต้องเย็บแผลสดเป็นบางส่วน”

“ระหว่างพักครึ่งแรก เขาฉีกแผลที่เย็บทั้งหมด และสร้างความสยดสยองให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไวท์เฮิร์สท์กลับมาลงเล่นในครึ่งหลังโดยเย็บจมูกของเขาลามไปที่รูแก้ม”

อดีตเพื่อนร่วมทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อย่าง เจมี่ ฮอยแลนด์ เล่าให้ฟังว่า “วันที่เราเล่นในบ้านเจอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน นีล เรเซอร์ รัดด็อก เล่นงาน ไบรอัน ดีน ตลอดทั้งเกม และแทบจะกลั่นแกล้งในทุกๆ จังหวะทั่วสนาม จากนั้นเพื่อนของเราคนหนึ่ง แฮร์รี่ พูดว่า ‘ไปตาม บิลลี่ มา เขาอยู่บนอัฒจันทร์’ “

พอถึงช่วงพักครึ่ง บิลลี่ ไวท์เฮิร์สท์ คนนี้ก็ลงมาจากอัฒจันทร์ และปรี่เข้าไปเอาเรื่อง รัดด็อก ในอุโมงค์

นีล เรเซอร์ รัดด็อก ก็เล่าประสบการณ์ตรงๆ ให้ฟังถึงเรื่องวันนั้นว่า “เขาเป็นคน ดอนคาสเตอร์ เป็นผู้ชายตัวใหญ่ และน่ากลัวมากๆ ซึ่งเกมนั้น บิลลี่ ไม่ได้ลงเล่น ดังนั้นตอนพักครึ่งหลังสิ้นเสียงนกหวีด เขาลงมาจากสนามพร้อมสวมชุดสูทผูกเน็คไท เขาดึงเสื้อ เซาธ์แฮมป์ตัน ของผมไปและฉีกมัน และในครึ่งหลังผมต้องสวมมันลงเล่นทั้งๆ ที่เป็นสภาพนั้น”

ตำนานอย่าง วินนี่ โจนส์ ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ไอ้โรคจิตขาโหดของ เครซี่ แก๊งค์” หลังจากที่เขากลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงใน ฮอลลิวู้ด เคยมีคนไปถามเขาว่า “การเป็นชายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกฟุตบอลมันเป็นยังไง ?” ก่อนจะตอบว่า “ผมก็ไม่รู้ คุณควรไปถามผู้ชายคนนั้น” และชี้นิ้วไปที่ บิลลี่ ไวท์เฮิร์สท์ ที่นั่งดูเขาอยู่ตรงแถวหน้าในวันนั้น