Boot Out Piracy ! พรีเมียร์ลีก กระตุ้น แฟนชาวไทย เลิกดูการถ่ายทอดสดที่ผิดลิขสิทธิ์

Kim Junumporn

December 19, 2023 · 1 min read

Boot Out Piracy ! พรีเมียร์ลีก กระตุ้น แฟนชาวไทย เลิกดูการถ่ายทอดสดที่ผิดลิขสิทธิ์
ฟุตบอล | December 19, 2023
พรีเมียร์ลีก รณรงค์ให้แฟนชาวไทย ยุติการรับชมฟุตบอลการถ่ายถอดสดที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ผ่านแคมเปญ "Boot Out Piracy" ที่เป็นตัวเป็นซีซั่นที่ 2 ณ แดนสยาม

พรีเมียร์ลีก รณรงค์ให้แฟนฟุตบอลชาวไทยยุติการรับชมเนื้อหาฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ละเมิดลิขสิทธิ์

แคมเปญ “Boot Out Piracy” (ต่อต้านสตรีมมิ่งละเมิดลิขสิทธิ์) กลับมาอีกครั้งเพื่อย้ำเตือนแฟน ๆ ถึงความเสี่ยงของสตรีมมิ่งที่ผิดกฎหมาย

นักเตะพรีเมียร์ลีกจากสโมสรต่าง ๆ รวมถึงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและลิเวอร์พูล ร่วมกันเป็นแนวหน้าในแคมเปญ “Boot Out Piracy” รอบล่าสุดของพรีเมียร์ลีก เพื่อสร้างความตระหนักให้แฟนฟุตบอลชาวไทยทราบถึงความเสี่ยง
และผลกระทบเชิงลบจากการสตรีมมิ่งเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย

วันนี้ได้มีการเปิดตัวแคมเปญเป็นฤดูกาลที่สองในประเทศไทย โดยแคมเปญในปีนี้ประกอบด้วยนักเตะดัง
จากพรีเมียร์ลีก ได้แก่  คาเซมิโร่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) , ดิโอโก้ โชต้า (ลิเวอร์พูล),  ฆูลิโอ เอ็นชิโซ่ (ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน) , อาบดูลาย ดูกูเร่ (เอฟเวอร์ตัน)  และ ไทโว อโวนิยี่ (น็อตติงแฮม ฟอเรสต์)  

ในวิดีโอที่จะออกอากาศผ่านช่องทางดิจิทัลนี้ เหล่านักเตะจะกล่าวถึงประเด็นเน้นย้ำว่าผู้ที่เข้าถึงเนื้อหาพรีเมียร์ลีก
ผ่านเว็บไซต์หรืออุปกรณ์สตรีมมิ่งที่ไม่เป็นทางการ จะทำให้ตนเองเสี่ยงต่อภัยคุกคามจากการโจมตีทางไซเบอร์ รวมถึงมัลแวร์และแรนซัมแวร์ที่เป็นอันตรายได้อย่างไร สิ่งนี้ก่อให้เกิดอันตรายจากการหลอกลวง การโจรกรรมข้อมูล
การฉ้อโกง และผู้ชมกลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะได้รับชมการแข่งขันผ่านการสตรีมที่ไม่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพต่ำ

ในรายงานที่เผยแพร่โดย Digital Citizens Alliance เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ในหัวข้อ “Giving Piracy Operators Credit” พบว่า 44 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่เข้าถึงเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ทางออนไลน์เคยประสบกับกรณีการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล รายงานฉบับเดียวกันนี้ยังพบว่า 46 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมละเมิดลิขสิทธิ์
เคยเผชิญกับมัลแวร์ ในขณะที่ผู้ใช้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมละเมิดลิขสิทธิ์เคยเผชิญกับมัลแวร์เพียง 9 เปอร์เซ็นต์
เท่านั้น

ศาสตราจารย์พอล วัตเตอร์ที่ปรึกษาและนักวิจัยชั้นนำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กล่าวว่า “ในปี 2022 เกิดความเสียหายจากการโจมตีของมัลแวร์มากเป็นประวัติการณ์ ผู้บริโภคควรทราบว่าเว็บไซต์และแอปที่สตรีมเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เป็นหนึ่งในต้นตอหลักของการโจมตีเหล่านี้

“แม้ว่าซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอาจช่วยผู้บริโภคได้ แต่ก็ไม่สามารถรู้เท่าทันมัลแวร์ชนิดใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในทุกวัน ทางแก้ที่ดีที่สุดคือการป้องกัน โดยหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่เป็นโฮสต์และเผยแพร่มัลแวร์” พรีเมียร์ลีกได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานในประเทศทั่วเอเชียและทั่วโลกเพื่อดำเนินคดีทางอาญากับผู้ให้บริการเว็บไซต์และผู้จัดหาอุปกรณ์สตรีมมิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการประสานงานอย่างต่อเนื่องกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและกรมสอบสวนคดีพิเศษของประเทศไทยเพื่อดำเนินการเมื่อมีการส่งต่อคดีอาญา 

พรีเมียร์ลีกชื่นชมการทำงานของรัฐบาลไทยสำหรับความพยายามอย่างต่อเนื่องในการพุ่งเป้าเพื่อจัดการกับกลุ่มคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์กีฬาในประเทศไทย นอกเหนือจากการขัดขวางการสตรีมที่ผิดกฎหมายของพรีเมียร์ลีกและเนื้อหาอื่น ๆ แล้ว รัฐบาลไทยยังจำกัดการเข้าถึงการดำเนินกิจกรรมการพนันที่ไม่มีใบอนุญาตและไม่ได้รับการควบคุม ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อผู้บริโภค

 

เพื่อผลักดันความพยายามเหล่านี้ พรีเมียร์ลีกกำลังร่วมมือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาและกระทรวงดิจิทัล
เพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อดำเนินแผนงานบล็อกเว็บไซต์

เควิน พลัมบ์ ที่ปรึกษาทั่วไปของพรีเมียร์ลีกกล่าวว่า “เรารู้ว่าแฟนฟุตบอลในประเทศไทยและทั่วเอเชีย
ให้ความสนใจกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมากเพียงใด เราจะยังคงเดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจากการรับชมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกผ่านการสตรีมที่ผิดกฎหมาย ผ่านแคมเปญ ‘Boot Out Piracy’

“ผู้ที่รับชมการสตรีมผิดกฎหมายไม่เพียงพลาดประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังเผชิญกับ
ภัยคุกคามทางไซเบอร์อีกด้วย การเข้าถึงเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์นั้นทำให้ผู้ใช้เผชิญความเสี่ยงจากอาชญากรที่อาจใช้หลากหลายวิธีการเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ของผู้ชม ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหามากมาย รวมถึงการฉ้อโกงและการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล

“คำแนะนำที่เราอยากบอกแฟนฟุตบอลชาวไทย คือ อย่าทำให้ตนเองตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
ทางไซเบอร์ และรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดผ่านทางพันธมิตรการถ่ายทอดสดอย่างเป็นทางการ
ของเราเท่านั้น

“นอกเหนือจากการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับอันตรายของสตรีมมิ่งที่ผิดกฎหมายแล้ว เรากำลังทำงานอย่างหนักกับหน่วยงานในประเทศเพื่อปิดกั้นเว็บไซต์และการสตรีมที่ละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงดำเนินคดีกับผู้จำหน่าย
อุปกรณ์สตรีมมิ่งผิดกฎหมาย”

ในประเทศไทย พรีเมียร์ลีกทำงานร่วมกับทรู วิชั่นส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรการถ่ายทอดสดในประเทศสำหรับแคมเปญ “Boot Out Piracy”

 

คุณสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหารบริษัททรูวิชั่นส์ กล่าวว่า “เราขอขอบคุณพรีเมียร์ลีก
ที่มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย นอกเหนือจากการทำงานของทรู วิชั่นส์ ที่ร่วมกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายของไทยแล้ว แคมเปญต่าง ๆ อย่าง “Boot Out Piracy” ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการช่วยสร้างความตระหนักของผู้บริโภคเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดจากแหล่งข้อมูลผิดกฎหมาย และทำให้ความต้องการในการบริโภคสิ่งที่ผิดกฎหมายลดลงอีกด้วย

“แฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกชาวไทย เป็นหนึ่งในแฟนฟุตบอลที่หลงใหลการแข่งขันนี้มากที่สุดในโลก และในฐานะพันธมิตรการถ่ายทอดสดอย่างเป็นทางการ เป้าหมายของเราคือการสนับสนุนให้แฟนฟุตบอลทุกคน
สามารถเข้าถึงเนื้อหาระดับโลกได้ผ่านแพ็กเกจที่หลากหลาย ผู้บริโภคไม่มีเหตุผลใดที่ต้องนำตนเอง
ไปเสี่ยงอันตรายโดยการมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรละเมิดลิขสิทธิ์ที่ผิดกฎหมาย ในเมื่อพวกเขาสามารถรับชม
การแข่งขันในคุณภาพที่ดีที่สุดในราคาที่จับต้องได้ผ่านทรู วิชั่นส์”

แคมเปญนี้จะเผยแพร่ผ่านทั้งช่องทางการถ่ายทอดสด สื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์ และ YouTube ในประเทศไทย ตลอดจนสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง และเวียดนาม