พี่-น้อง ชาก้า : ความแตกต่าง และเส้นทางฟุตบอลที่ไม่เหมือนกัน

“มันเป็นความฝันของผมที่จะเล่นฟุตบอลกับน้องชายอีกครั้ง”

หนึ่งในถ้อนคำที่ ทอแลนท์ ชาก้า พี่ชายของ กรานิต ชาก้า ได้กล่าวเอาไว้ว่าในอนาคตหวังว่าสักวันจะได้มีโอการ่วมงานกับน้องสุดที่รักคนนี้อีกสักครั้ง และมันคงคลาสสิคแบบสุดๆ ถ้าเป็นที่ บาเซิ่ล สโมสรเริ่มต้นของทั้งคู่

ย้อนกลับไปในอดีตพี่-น้อง ชาก้า มีจุดเริ่มต้นเรื่องของฟุตบอลเหมือนๆ กัน กับ บาเซิ่ล ทีมในบ้านเกิดอย่างสวิตเซอร์แลนด์ ทว่าความแตกต่างมันเกิดขึ้นในเรื่องของโอกาสที่ได้รับ

กรานิต ได้รับโอกาสตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี ทว่ากับ ทอแลนด์ ต้องรอเวลา และประเดิมสนามในฟุตบอลถ้วยในประเทศ

กราฟชีวิตมันค่อนข้างชัดเจนว่า กรานิต พัฒนาได้มากกว่า เป็นมิดฟิลด์ที่เข้ามาเติบเต็ม บาเซิ่ล ได้เป็นอย่างมาก ถูกนำไปเปรียบเทียบนักเตะวัยเก๋าหลายๆ คน จนถูก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2012

ส่วนทางฝั่ง ทอแลนด์ ก็ได้รับโอกาสมากขึ้นเรื่อยๆ กับ บาเซิ่ล จนกลายเป็นตัวหลักจนเล่นให้ทีมยาวนานจนถึงปัจจุบัน

อีกอย่างที่ทั้งคู่แตกต่างกันออกไปคือเรื่องของการรับใช้ทีมชาติ สมัยเป็นเยาวชนทั้ง ทอแลนด์ และ ชาก้า เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอดตั้งแต่ชุดยู-17, 18, 19, 20 หรือ 21 ปี 

ทว่า ชาก้า ก็ก้าวกระโดดเหนือพี่ชายอีกครั้งหลังถูกเรียกไปติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี ภายใต้การทำทีมของ อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ ซึ่งต่างจากพี่ชายของเขาที่ได้รับโอกาสกับทีมชุดใหญ่เลย จนกระทั่งตัดสินใจโยกย้ายไปรับใช้ แอลเบเนีย เมื่อปี 2013

ซึ่งสาเหตุที่ ทอแลนด์ สามารถไปเล่นให้ แอลเบเนีย ได้ เพราะบ้านเกิดของพ่อ และแม่เป็นชาวโคโซโว แต่ในตอนนั้่น โคโซโว ยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทำให้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้สั่งให้ โคโซโว สามารถลงเล่นได้เพียงเกมกระมิตรเพียงเท่านั้น 

ประกอบกับ แอลเบเนีย กับ โคโซโวมีความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติ ฉะนั้นไม่แปลกที่ ทอแลนด์ จะเลือกรับ้ แอลเบเนีย จนลงเล่นไปมากกว่า 30 เกม

และด้วยเหตุนี้เองในศึกยูโร 2016 เมื่อ สวิตเซอร์แลนด์ ต้องโคจรมาดวลกับ แอลเบเนีย การโหมโรงคู่นี้คือเอาสองพี่-น้อง ชาก้า มาปะทะกัน เรียกได้ว่าเป็นศึกสายเลือดอย่างแท้จริง

“ความรู้สึกที่ได้เล่นกับประเทศของคุณเองนั้นช่างเหลือเชื่อ คุณไม่สามารถอธิบายสิ่งนั้นด้วยคำพูดได้ แต่การได้เล่นในทัวร์นาเมนต์อย่างยูโรกับพี่ชายเป็นสิ่งที่คุณจะไม่มีวันลืม” กรานิต เปิดใจถึงวันที่ดวลกับ ทอแลนด์

“ผมได้พูดคุยกับพี่ชายก่อนเกม และผมก็พูดกับเขาว่า ‘ฟังนะ หากผมจะต้องเตะคุณจะได้ไหม ?’ แน่นอนมันเกี่ยวกับการทำงานของเรา เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้ ดังนั้นเราจึงมุ่งความสนใจ และทำงานของเราให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้ใครสามารถพูดอะไรกับเราได้” 

“หลังเกม ผมเป็นคนที่มีความสุขมากกว่า เพราะเราชนะแต่ความรู้สึกมันเหลือเชื่อมาก”

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ จากวันที่ กรานิต ย้ายออกจาก บาเซิ่ล ทั้งคู่ยังไม่ได้มีโอกาสร่วมงานกันอีกเลย 

กรานิต ประสบความสำเร็จในการย้ายออกมาท่องโลกกว้างกับลีกใหญ่ของยุโรปทั้งแชมป์กับ อาร์เซน่อล หรือถาดสีเงินล่าสุดกับ เลเวอร์คูเซ่น

“ผมเชื่อว่าเขาต้องการกลับไปที่ บาเซิ่ล เมื่อสิ้นสุดอาชีพ เพราะเขาเติบโตมาจากที่นี่ และ เอฟซี บาเซิ่ล คือทีมโปรดของเขา ทันทีที่เขามีวันหยุด เขาก็จะมาที่ บาเซิ่ล และไปเยี่ยมเพื่อนๆ และครอบครัวของเขา แน่นอนว่าเขามีความผูกพันที่แน่นแฟ้นมากกับที่แห่งนี้”